เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 13, 2025, 05:01:34 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10 11 12
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ภาพอาจารย์พนมเทียนกับซึมเศร้า  (อ่าน 35395 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #120 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 11:36:37 AM »




พนมเทียน เป็นนามปากกาของ นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474
ที่บ้านตระกูลวิเศษสุวรรณภูมิ ถนนปากน้ำ ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
เป็นบุตรของขุนวิเศษสุวรรณภูมิ และนางสะอาด
สมรสกับนางสุมิตรา วิเศษสุวรรณภูมิ (มณีรัตนาสุมิตรา เดวี)   มีบุตร 5 คน คือ
 
    1. นายจักรรินทร์ วิเศษสุวรรณภูมิ
    2. นายชินวร วิเศษสุวรรณภูมิ
    3. นางละอองดาว ปิ่นแก้ว
    4. น.ส. สกาวเดือน วิเศษสุวรรณภูมิ (เสียชีวิต)
    5. นายวิษณุฉัตร วิเศษสุวรรณภูมิ

         พนมเทียน เริ่มเรียนหนังสือเมื่อ อายุ 5 ขวบที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์
จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนประสานอักษร และโรงเรียนวันรับสิน
จบชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2484
และเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนวัดสุทธิวนาราม จบชั้นมัธยมปีที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2489
เข้าเรียนต่อในชั้นเตรียมอักษรศาสตร์ที่โรงเรียนสวนกุกลาบวิทยาลัย จบการศึกษาปี พ.ศ. 2492
และเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนพลตำรวจระยะหนึ่ง

จากนั้นเข้าทำงานเป็นเลขานุการที่บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวร์รันซ์ จนถึง พ.ศ. 2494
ลาออก แล้วดินทางไปศึกษาวิชาสันสกฤต ที่คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบอมเบย์ ประเทศอินเดีย
จบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2498

         พนมเทียนเริ่มอ่านหนังสือมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
และเมื่ออายุ 12 ขวบต้องหนีภียจากสงครามโลกครั้งที่สองไปพักอาศัย ณ บ้านต้นตระกูลวิเศษสุวรรณภูมิ
ซึ่งสะสมหนังสือไว้มากมาย ทำให้ได้เริ่มอ่านหนังสือวรรณคดีของไทย รามเกียรติ์ พระอภัยมณี ฯลฯ
อ่านจนกระทั่งเกิดความอยากเขียนหนังสือของตนเองบ้าง ...


เมื่ออายุได้ 16 ปีขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 6 โรงเรียนวัดสุทธิวนาราม
พนมเทียนเริ่มเขียนนวนิยายเรื่องแรก คือ เห่าดง
โดยเขียนต้นฉบับไว้ในสมุดจดวิชาประวัติศาสตร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันเล่น

ต่อมาอีกหนึ่งปีก็เริ่มเขียนนวนิยาย จุฬาตรีคูณ

         พนมเทียนได้นำต้นฉบับนวนิยายเรื่อง จุฬาตรีคูณ ไปเสนอขายตามสำนักพิมพ์ต่าง ๆ
แต่เนื่องจากเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก สำนักพิมพ์จึงปฎิเสธ
บรรณาธิการหนังสือบางฉบับได้แนะนำให้เขียนเรื่องสั้นไปให้พิจารณา
แต่เมื่อพนมเทียนเขียนเรื่องสั้นไปให้พิจารณาก็ ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
แต่ก็ไม่ทำให้เขาท้อแท้ กลับมุมานะเขียนเรื่องส่งไปยังสำนักพิมพ์อื่น ๆ อยู่สม่ำเสมอ

จนวันหนึ่งพนมเทียนได้นำต้นฉบับนวนิยายเรื่อง จุฬาตรีคูณ
ไปเสนอครูแก้ว อัจฉริยะกุล หรือ "แก้วฟ้า" ราชาละครวิทยุในขณะนั้น
เมื่อครูแก้วได้อ่านแล้วชอบใจจึงทำเป็นละครวิทยุ ให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน จากคณะสุนทราภรณ์
ช่วยแต่งเพลงประกอบเรื่อง ทำเป็นละครวิทยุ

ทำให้จุฬาตรีคูณเป็นที่รู้จักของผู้ฟังจำนวนมาก
และในปี 2492 ครูแก้วได้นำนวนิยายเรื่องจุฬาตรีคูณ มาทำเป็นละครเวที แสดงที่ศาลาเฉลิมไทย
โดยคณะลูกไทย ทำให้ชื่อ แก้วฟ้า-พนมเทียนมีชื่อเสียงขึ้นมา
(ละครเวทีจุฬาตรีคูณ ใช้ชื่อแก้วฟ้า-พนมเทียนเพราะ แก้วฟ้านำมาทำเป็นบทละคร
ส่วนพนมเทียนเป็นผู้ประพันธ์)

แต่คนทั่วไปก็ยังไม่รู้จักพนมเทียนมากนักจนกระทั่งปฐพีเพลิง
ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เพลินจิตต์
ทำให้พนมเทียนเป็นที่รู้จัก ผลงานเรื่องแรกที่เขียนไว้คือเห่าดง
จึงได้รับการพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เพลินจิตต์รายวัน


จากนั้นจากนั้นก็มีผลงานอื่น ๆ ตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
เช่น เพลินจิตต์ เดลิเมล์ สยามสมัย นพเก้า สายฝน ศรีสยาม จักรวาล บางกอก สกุลไทย สตรีสาร ฯลฯ

         นวนิยายของพนมเทียน ได้รับการกล่าวถึงและวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ
เรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เล็บครุฑ ศิวาราตรี และเพชรพระอุมา
สำหรับคำวิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็นการชมหรือการตำหนิก็ตาม

พนมเทียนได้ถือว่าคำวิจารณ์ทั้งหมดคือครูที่ดี
และเป็นเหมือนกระจกส่องให้เห็นจุดต่าง ๆ ในผลงานของตน
และเป็นสิ่งชี้ให้เห็นว่าเจ้าของบทประพันธ์เรื่องที่ถูกวิจารณ์นั้นได้รับความสำเร็จในการเขียนหนังสือ
เมื่อใดก็ตาม ที่นวนิยายไม่ได้รับการกล่าวขวัญเลยนั้น
ย่อมหมายถึงงานที่ไม่แพร่หลายและไม่มีใครรู้จัก
แต่สำหรับคำวิจารณ์ ที่เข้าไม่ถึงแก่นแท้ของเนื้อหา
ก็แสดงให้เห็นถึงระดับภูมิปัญญาของผู้วิจารณ์แต่ละคนเอง

         ในด้านส่วนตัวพนมเทียนชอบอ่านหนังสือ
ประเภทผจญภัยที่ให้สาระความรู้และความสนุกเพลิดเพลินไปในตัว
และหนังสือปรัชญาที่ตรงกับอุดมคติของตัวเอง

นอกจากนั้นก็ชอบอ่านหนังสือสารคดีที่เกี่ยวกับวิชาความรู้ต่าง ๆ
นักเขียนที่ชอบมากที่สุดได้แก่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
(ซึ่งพนมเทียนเคารพบูชาท่านมากจนถึงกับได้สร้างอนุสาวรีย์ ประทับไว้ที่บ้านพักอาศัยในปัจจุบัน)
สุนทรภู่ ชิต บุรทัต ทรง สาลิตุล มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #121 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 11:43:00 AM »




ผ่าปืน
ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ "พนมเทียน"
นิตยสารปืนและกระสุน ฉบับพิเศษ
พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก 2545
282 หน้า
ราคา 275 บาท

คัมภีร์การทดสอบปืนของเมืองไทย

หนังสือเล่มนี้คือการรวมเอาบทความการทดสอบปืน
ของ อาจารย์พนมเทียนที่เขียนลงในคอลั่มน์ผ่าปืนกว่าร้อยตอน
ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์มานานนับสิบปี
บททดสอบแต่ละเรื่องล้วนแล้วแต่วิเคราะห์เจาะลึก ถึงข้อดีข้อด้อย
ของปืนแต่ละกระบอกอย่างกระจ่างแจ้ง

นอกจากการทดสอบปืนเป็นรายกระบอกแล้ว
ยังมีอีกหลายตอนที่เป็นการวิเคราะห์เปรียบเทียบปืนชนิดเดียวกันต่างรุ่น ต่างยี่ห้อ
ให้เห็นความแตกต่าง เช่นเรื่อง ปืนลูกโม่, ปืนลูกซอง, ปืนลม และเรื่องพื้นฐาน
(ในมุมมองของผู้ชำนาญ)
เช่นการเลือกปืนไว้เฝ้าบ้าน, ยิงปืนอย่างไรให้แม่น
และเรื่องอำนาจของกระสุนแต่ละชนิดไว้อีกด้วย

เรียกได้ว่าเป็นคัมภีร์ของนักเล่นปืน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 11, 2006, 11:44:57 AM โดย 51 » บันทึกการเข้า
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #122 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 11:47:00 AM »

ผ่าปืนเล่มนี้น่าอ่านจังเลยครับไม่ทราบว่ายังพอหาซื้อได้อยู่รึเปล่าครับพี่51
บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #123 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 11:50:01 AM »

ตัวอย่างบางตอน....ในบทความของท่านพนมเทียน
ที่เกี่ยวกับ...อาวุธปืน ครับ


ปัญหาที่ถกเถียงโต้แย้งกันไม่รู้จักจบสิ้นมานาน
ก็คือสมรรถนะของกระสุนหัวรูหรือที่เรียกทับศัพท์กันว่า "ฮอลโล่ว์ ป๊อยต์"

ซึ่งฝ่ายหนึ่งที่เชื่อถือ ก็อ้างว่ามันเป็นกระสุนที่โหดร้ายทารุณมาก
เจาะกระทบเข้าไปในเนื้อหนังมังสาละก็จะทำให้บาดแผลเหวอะหวะเละเทะไปหมด
จนมีข้อเสนอให้เลิกใช้กระสุนทารุณชนิดนี้
ซึ่งถ้าจะว่าอันที่จริงแล้ว ผู้ที่มีความคิดเชื่อถือเช่นนี้ ก็มาจากเสียงที่เขาเล่าลือกัน
และเชื่อถือกันมาต่อ ๆ หรือมิฉะนั้นก็เกิดจากการที่ตั้งสมมุติฐานกันไว้ผิด ๆ มากกว่า
ที่จะได้ประสบพบเห็นด้วยตัวเองในพฤติกรรมแท้จริงของมันว่าเป็นอย่างไรกันแน่




ต้นปี 1960 กองตำรวจในสหรัฐทั่วไป เริ่มจะร้องทุกข์ถึงเรื่องการใช้กระสุน .38 สเปฯ
ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้ในปืนในวงการตำรวจอเมริกันมากที่สุด
ตามปกติแล้วหัวกระสุนพื้น ๆ โดยทั่วไปของกระสุนชนิดนี้ จะทำด้วยตะกั่วล้วน ๆ น้ำหนัก 158 เกรน
ส่วนหัวมีลักษณะกลมมน วิ่งไปด้วยความเร็วระหว่าง 700 ฟุต/วิฯ ถึง 850 ฟุต/วิฯ

กระสุนชนิดนี้ได้ถูกใช้งานในราชการตำรวจติดต่อกันมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20
ที่พวกตำรวจพากันร้องทุกข์ก็คือว่า กระสุน .38 สเปฯ ไม่มีอำนาจหยุดยั้งอาชญากรได้เพียงพอ

มีตัวอย่างให้เห็นเป็นจำนวนมากที่ตำรวจทำการยิงต่อสู้กับคนร้ายด้วยกระสุนชนิดนี้
แต่ก็ไม่สามารถจะหยุดคนร้ายได้อย่างฉับพลัน
จนก่อให้เกิดเป็นอันตรายต่อตำรวจเอง หรือสุจริตชนผู้บริสุทธิ์จากการมุ่งเข้าประทุษร้ายของอาชญากร
เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนร้องขอเป็นเสียงเดียวกันว่า
ต้องการกระสุนชนิดนี้ถ้ายิงถูกคนร้ายเข้าก็ขอให้มันหยุดได้ในทันทีทันใด
ไม่ใช่สวนควักปืนเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้อีก

ถ้าจะว่าอันที่จริงแล้ว จะไม่มีกระสุนชนิดใดที่สามารถหยุดคนได้อย่างเฉียบขาดแท้จริง
การที่เราจะหยุดคนทมิฬหินชาติให้ได้อย่างชะงัดนั้น
ความจริงแล้วมันหาได้ขึ้นอยู่กับอำนาจของกระสุนโดยตรงไม่
แต่มันไปขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บตลอดจนสภาวะโครงสร้างทางร่างกายของผู้ถูกยิงนั้น ๆ เสียมากกว่า

คือกระสุน พุ่งเข้าทำลายในส่วนไหน สำคัญอย่างไรต่อร่างกาย

ในทางหลักวิชาการแล้ว อำนาจหยุดยั้งของกระสุน
ก็คือจำนวนของพลังงานกระทบของหัวกระสุนซึ่งถ่ายทอดไปยังเป้าหมาย
หัวกระสุนจะต้องจ่ายพลังงานให้แก่เป้าหมายอย่างเต็มที่และทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เข้าไปในเนื้อเยื่อ
และฝังอยู่ภายใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องกระทบและถ่ายเทพลังงานชนิดนั้นทั้งหมด
ให้แก่อวัยวะสำคัญอันเกี่ยวกับจุดตายของเป้าหมาย
มากกว่าที่จะผ่านเข้าไปในเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ หรือตามผิวหนัง

เมื่อกระสุนพุ่งเข้ากระทบเนื้อ มันก่อให้เกิดอาการบาดแผลขึ้นสองแบบ
คือบาดแผลที่มองเห็นด้วยตาเปล่าทางสรีระ
และบาดแผลที่เกิดขึ้นจากผลกระทบอันไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ขณะที่หัวกระสุนเจาะผ่านเนื้อเข้าไป
มันไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดโพรงบาดแผลถาวรขึ้นเท่านั้น แต่มันได้ทำให้เกิดโพรงขยายชั่วคราวขึ้นด้วย
ขนาดของโพรงบาดแผลชั่วคราวนี้
เป็นผลมาจากพลังงานของหัวกระสุนที่ใช้สูญเสียไปในเนื้อเยื่อที่มันพุ่งทะลุผ่านเข้ามา


กระสุนหัวรูหรือฮอลโล่ว์ ป๊อยต์นั้น
อาจจะจ่ายพลังงานให้แก่อวัยวะสำคัญสูงขึ้นเป็นจำนวน 4 เท่า ของกระสุนหัวกลมมนปกติธรรมดา
ดังนั้นโพรงชั่วคราวที่เกิดขึ้นจากกระสุนหัวรูจะใหญ่กว่าโพรงชั่วคราว ที่เกิดจากกระสุนหัวกลมมนตัน

เราต้องมาวิเคราะห์กันถึงคำจำกัดความที่ว่า "โพรงชั่วคราว" ให้ถูกต้องเสียก่อน
โพรงชนิดนี้จะเกิดวูบวาบขึ้นภายในเวลาเพียง 5 หรือ 10 ในล้านของวินาทีเท่านั้น
ก่อนที่เนื้อเยื่อที่แวดล้อมอยู่จะหดคืนกลับมาสู่สภาพเดิมเพราะความหยุ่นสปริงของเนื้อ

ปรากฏการณ์ชนิดนี้ได้พิสูจน์ค้นพบว่าในกระสุนขนาด .38 สเปฯ
ไม่ว่าจะเป็น  กระสุนชนิดหัวรู หรือหัวกลมมน
มันก็สร้างบาดแผลขึ้นในพฤติกรรมอันเดียวกันนั่นเอง


จาก นสพ.เดลินิวส์  วันที่ 4 มิ.ย. 47


บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #124 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 11:50:49 AM »

ผ่าปืนเล่มนี้น่าอ่านจังเลยครับไม่ทราบว่ายังพอหาซื้อได้อยู่รึเปล่าครับพี่51

ลอง ๆ หาดูซิครับ แถวจตุจักร อาจจะมี.....ครับ
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #125 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 01:26:15 PM »

ยอดเยี่ยม มากนาย51
บันทึกการเข้า

51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #126 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 02:04:52 PM »

ยอดเยี่ยม มากนาย51



ขอบพระคู๊ณณณณณ  คร้าบพี่ Joy

ว่าแต่...ภาพที่ถ่ายมาเยอะมั๊ก ม๊ากกกกก...ครับ
ดูแทบไม่ซ้ำกันเรยยย....คริ คริ
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #127 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 02:11:10 PM »

ยอดเยี่ยม มากนาย51



ขอบพระคู๊ณณณณณ คร้าบพี่ Joy

ว่าแต่...ภาพที่ถ่ายมาเยอะมั๊ก ม๊ากกกกก...ครับ
ดูแทบไม่ซ้ำกันเรยยย....คริ คริ
ใจเย็นน้องรัก ช่วงนี้งานเยอะ กลับถึงบ้านก็หลับ ว่างๆเดี๋ยวลงอีก
บันทึกการเข้า

Iron
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #128 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 02:38:25 PM »

..

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 07, 2008, 12:29:23 AM โดย ชัช » บันทึกการเข้า
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #129 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 04:39:27 PM »

ผมขออนุญาตนะครับ เกิดมาผมไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนเลย หลังจากที่สนใจเรื่องปืนได้ไม่นาน เมือปีที่แล้วนี้เองเห็นมีแต่คนพูดถึงเพชรพระอุมาอยู่บ่อยๆว่าคนชอบปืนควรหาอ่าน ผมเลยได้สั่งซื้อมาหนึ่งชุด บอกตามตรงว่าอ่านแล้วง่วงนอนมากอ่านทีไรหลับทุกที มีบางตอนก็สนุกพออ่านได้ บางตอนก็พร่ำเพ้อยืดยาวจนต้องเปิดข้ามไปเป็นสิบๆหน้า มารู้ทีหลังจากหนังสือ (เจาะลึกเบื้องหลังเพชรพระอุมา) ว่าท่านอาจารย์พนมเทียนพยายามเขียนให้ยืดๆเข้าไว้เพราะท่านบอกว่าคนติดแล้วยังไงก็ขายได้ ท่านบอกว่าก็นี่มันอาชีพท่านจะเขียนให้สั้นยังไงก็ได้แต่ท่านต้องการให้คนติดตามอ่านกันนานๆเลยเขียนให้มันยืดๆยาวๆ พอได้ฟังแบบนี้แล้วก็เลยเข้าใจท่านครับและความคิดที่ว่านิยายเรื่องนี้ไม่เห็นได้ความเลย ก็เลยหมดไปจากความคิดผม
 สรุปสำหรับผมก็ถือว่าเป็นหนังสือที่ไม่เลวครับพอใช้แก้เหงาได้ นี้ผมซื้อมาได้ปีนึงแล้วจนเดี่ยวนี้ผมยังอ่านไม่จบ48เล่มเลย
 ผมกับชอบอ่านหนังสือของท่านชุด (ประสบการณ์เดินป่าในชีวิตจริง ชุด จับตาย)มากกว่าเยอะ มีทั้งหมดสี่เล่มครับ
1 เสือดำที่มายอ
2 ไอ้ลายที่บางลาง
3 ช้องหมู มฤตยูเขี้ยวตัน
4 เมื่อคุณหมอหลงป่า
 สี่เล่มนี้แนะนำให้ไปหาอ่านเลยครับสนุกมากสมกับคำที่ว่าพออ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ แต่เพชรพระอุมานี่ก็อ่านไปวางไป(เพราะหลับครับ)แต่ก็จะใช้ความพยายามอ่านให้จบ ความคิดผมอาจไม่ตรงกับคนอื่นไปบ้างแต่ก็พูดด้วยความจริงใจครับ

                         Grinลืมบอกไปครับผลงานของท่านทั้งหมดหาซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ครับ Grin
อาจเป็นไปได้ว่า คุณไม่ชอบอ่านหนังสือ หรืออ่านแบบผ่านๆ ผมอยากให้ลองดูใหม่
ตั้งใจนิดหนึ่ง แล้วคุณจะเจอ อะไรๆ มากมาย ใน "เพชรพระอุมา" และก็ไม่ทราบว่าคุณเริ่มต้นจากภาคแรกหรือไม่
แม้นว่าบางตอนมันอาจจะโอเวอร์ไปบ้าง แต่รวมแล้ว จะกลายเป็น "เพชรพระอุมา"
ที่คุณอาจจะอยากเดินแบก .458 แม็กมั่ม ตามหลัง รพิน ไพรวัลย์ ก็อาจจะเป็นไปได้
ลองตั้งใจดูใหม่อีกครั้งครับ ผมให้กำลังใจ หุๆ
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #130 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 08:52:55 PM »

ผมขออนุญาตนะครับ เกิดมาผมไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนเลย หลังจากที่สนใจเรื่องปืนได้ไม่นาน เมือปีที่แล้วนี้เองเห็นมีแต่คนพูดถึงเพชรพระอุมาอยู่บ่อยๆว่าคนชอบปืนควรหาอ่าน ผมเลยได้สั่งซื้อมาหนึ่งชุด บอกตามตรงว่าอ่านแล้วง่วงนอนมากอ่านทีไรหลับทุกที มีบางตอนก็สนุกพออ่านได้ บางตอนก็พร่ำเพ้อยืดยาวจนต้องเปิดข้ามไปเป็นสิบๆหน้า มารู้ทีหลังจากหนังสือ (เจาะลึกเบื้องหลังเพชรพระอุมา) ว่าท่านอาจารย์พนมเทียนพยายามเขียนให้ยืดๆเข้าไว้เพราะท่านบอกว่าคนติดแล้วยังไงก็ขายได้ ท่านบอกว่าก็นี่มันอาชีพท่านจะเขียนให้สั้นยังไงก็ได้แต่ท่านต้องการให้คนติดตามอ่านกันนานๆเลยเขียนให้มันยืดๆยาวๆ พอได้ฟังแบบนี้แล้วก็เลยเข้าใจท่านครับและความคิดที่ว่านิยายเรื่องนี้ไม่เห็นได้ความเลย ก็เลยหมดไปจากความคิดผม
 สรุปสำหรับผมก็ถือว่าเป็นหนังสือที่ไม่เลวครับพอใช้แก้เหงาได้ นี้ผมซื้อมาได้ปีนึงแล้วจนเดี่ยวนี้ผมยังอ่านไม่จบ48เล่มเลย
 ผมกับชอบอ่านหนังสือของท่านชุด (ประสบการณ์เดินป่าในชีวิตจริง ชุด จับตาย)มากกว่าเยอะ มีทั้งหมดสี่เล่มครับ
1 เสือดำที่มายอ
2 ไอ้ลายที่บางลาง
3 ช้องหมู มฤตยูเขี้ยวตัน
4 เมื่อคุณหมอหลงป่า
 สี่เล่มนี้แนะนำให้ไปหาอ่านเลยครับสนุกมากสมกับคำที่ว่าพออ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ แต่เพชรพระอุมานี่ก็อ่านไปวางไป(เพราะหลับครับ)แต่ก็จะใช้ความพยายามอ่านให้จบ ความคิดผมอาจไม่ตรงกับคนอื่นไปบ้างแต่ก็พูดด้วยความจริงใจครับ

 Grinลืมบอกไปครับผลงานของท่านทั้งหมดหาซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ครับ Grin
อาจเป็นไปได้ว่า คุณไม่ชอบอ่านหนังสือ หรืออ่านแบบผ่านๆ ผมอยากให้ลองดูใหม่
ตั้งใจนิดหนึ่ง แล้วคุณจะเจอ อะไรๆ มากมาย ใน "เพชรพระอุมา" และก็ไม่ทราบว่าคุณเริ่มต้นจากภาคแรกหรือไม่
แม้นว่าบางตอนมันอาจจะโอเวอร์ไปบ้าง แต่รวมแล้ว จะกลายเป็น "เพชรพระอุมา"
ที่คุณอาจจะอยากเดินแบก .458 แม็กมั่ม ตามหลัง รพิน ไพรวัลย์ ก็อาจจะเป็นไปได้
ลองตั้งใจดูใหม่อีกครั้งครับ ผมให้กำลังใจ หุๆ
เรื่องไม่ชอบอ่านหนังสือนี่คงจะจริงบางส่วนนะครับเพราะผมไม่ชอบอ่านนิยายครับ ฉนั้นนิยายเรื่องแรกที่ตัดสินใจอ่านก็คือเรื่องนี้เพราะเชื่อมั่นว่าคงจะสนุกแน่ แต่ก็ผิดหวังเล็กน้อยครับ ผมชอบอ่านแนวสารคดีมากกว่า เรื่องความโอเวอร์ของเนื้อเรื่องนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมไม่ชอบและทำให้น่าเบื่อหรอกครับ มันน่าเบื่อตรงที่ความยืดของเรื่องเช่นพระเอกคุยกันนางเอกทีนึงก็เป็นสิบๆหน้าแล้วครับ อาจจะเป็นเพราะว่าผมเองชอบเดินป่าด้วยก็ได้ครับเลยทำให้อ่านแล้วมันขัดๆกับใจอยู่บ้าง ภาคหนึ่งก็โอเคนะครับพอมาภาคสองพระเอกเรากลายเป็นหมอผีไปซะแล้วไม่เข้าท่าเลยครับ
 ตอนนี้อ่านถึงเล่มที่32แล้วครับ พออ่านครบ48เล่มผมก็จะยกหนังสือชุดนี้ให้เพื่อนไปครับเพราะรู้ว่าเก็บไว้ที่ผมก็เหมือนไก่ได้พลอยและคงไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรกับมันอีก เพื่อนผมยังบอกเลยครับว่าคนอื่นเค้าอ่านแล้วชอบกันทั้งนั้นมาเจอผมนี่หละครับที่อ่านแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 11, 2006, 08:56:09 PM โดย o/uboy » บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #131 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 09:14:31 PM »

ถ่ายภาพกับท่านอาจารย์พนมเทียนและอาจารย์หญิง  Grin



บันทึกการเข้า

51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #132 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2006, 10:21:23 PM »

บันทึกการเข้า
แมวบ้า(น)
Sky is the limit, so do with it what you can
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 84
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15900


เช้าไดร์ฟ บ่ายชิพท์ เย็นพัตท์ สักวันเราจะเป็นโปร


« ตอบ #133 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2006, 02:32:09 PM »

ผมขออนุญาตนะครับ เกิดมาผมไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนเลย หลังจากที่สนใจเรื่องปืนได้ไม่นาน เมือปีที่แล้วนี้เองเห็นมีแต่คนพูดถึงเพชรพระอุมาอยู่บ่อยๆว่าคนชอบปืนควรหาอ่าน ผมเลยได้สั่งซื้อมาหนึ่งชุด บอกตามตรงว่าอ่านแล้วง่วงนอนมากอ่านทีไรหลับทุกที มีบางตอนก็สนุกพออ่านได้ บางตอนก็พร่ำเพ้อยืดยาวจนต้องเปิดข้ามไปเป็นสิบๆหน้า มารู้ทีหลังจากหนังสือ (เจาะลึกเบื้องหลังเพชรพระอุมา) ว่าท่านอาจารย์พนมเทียนพยายามเขียนให้ยืดๆเข้าไว้เพราะท่านบอกว่าคนติดแล้วยังไงก็ขายได้ ท่านบอกว่าก็นี่มันอาชีพท่านจะเขียนให้สั้นยังไงก็ได้แต่ท่านต้องการให้คนติดตามอ่านกันนานๆเลยเขียนให้มันยืดๆยาวๆ พอได้ฟังแบบนี้แล้วก็เลยเข้าใจท่านครับและความคิดที่ว่านิยายเรื่องนี้ไม่เห็นได้ความเลย ก็เลยหมดไปจากความคิดผม
 สรุปสำหรับผมก็ถือว่าเป็นหนังสือที่ไม่เลวครับพอใช้แก้เหงาได้ นี้ผมซื้อมาได้ปีนึงแล้วจนเดี่ยวนี้ผมยังอ่านไม่จบ48เล่มเลย
 ผมกับชอบอ่านหนังสือของท่านชุด (ประสบการณ์เดินป่าในชีวิตจริง ชุด จับตาย)มากกว่าเยอะ มีทั้งหมดสี่เล่มครับ
1 เสือดำที่มายอ
2 ไอ้ลายที่บางลาง
3 ช้องหมู มฤตยูเขี้ยวตัน
4 เมื่อคุณหมอหลงป่า
 สี่เล่มนี้แนะนำให้ไปหาอ่านเลยครับสนุกมากสมกับคำที่ว่าพออ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ แต่เพชรพระอุมานี่ก็อ่านไปวางไป(เพราะหลับครับ)แต่ก็จะใช้ความพยายามอ่านให้จบ ความคิดผมอาจไม่ตรงกับคนอื่นไปบ้างแต่ก็พูดด้วยความจริงใจครับ

 Grinลืมบอกไปครับผลงานของท่านทั้งหมดหาซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ครับ Grin
อาจเป็นไปได้ว่า คุณไม่ชอบอ่านหนังสือ หรืออ่านแบบผ่านๆ ผมอยากให้ลองดูใหม่
ตั้งใจนิดหนึ่ง แล้วคุณจะเจอ อะไรๆ มากมาย ใน "เพชรพระอุมา" และก็ไม่ทราบว่าคุณเริ่มต้นจากภาคแรกหรือไม่
แม้นว่าบางตอนมันอาจจะโอเวอร์ไปบ้าง แต่รวมแล้ว จะกลายเป็น "เพชรพระอุมา"
ที่คุณอาจจะอยากเดินแบก .458 แม็กมั่ม ตามหลัง รพิน ไพรวัลย์ ก็อาจจะเป็นไปได้
ลองตั้งใจดูใหม่อีกครั้งครับ ผมให้กำลังใจ หุๆ
เรื่องไม่ชอบอ่านหนังสือนี่คงจะจริงบางส่วนนะครับเพราะผมไม่ชอบอ่านนิยายครับ ฉนั้นนิยายเรื่องแรกที่ตัดสินใจอ่านก็คือเรื่องนี้เพราะเชื่อมั่นว่าคงจะสนุกแน่ แต่ก็ผิดหวังเล็กน้อยครับ ผมชอบอ่านแนวสารคดีมากกว่า เรื่องความโอเวอร์ของเนื้อเรื่องนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมไม่ชอบและทำให้น่าเบื่อหรอกครับ มันน่าเบื่อตรงที่ความยืดของเรื่องเช่นพระเอกคุยกันนางเอกทีนึงก็เป็นสิบๆหน้าแล้วครับ อาจจะเป็นเพราะว่าผมเองชอบเดินป่าด้วยก็ได้ครับเลยทำให้อ่านแล้วมันขัดๆกับใจอยู่บ้าง ภาคหนึ่งก็โอเคนะครับพอมาภาคสองพระเอกเรากลายเป็นหมอผีไปซะแล้วไม่เข้าท่าเลยครับ
 ตอนนี้อ่านถึงเล่มที่32แล้วครับ พออ่านครบ48เล่มผมก็จะยกหนังสือชุดนี้ให้เพื่อนไปครับเพราะรู้ว่าเก็บไว้ที่ผมก็เหมือนไก่ได้พลอยและคงไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรกับมันอีก เพื่อนผมยังบอกเลยครับว่าคนอื่นเค้าอ่านแล้วชอบกันทั้งนั้นมาเจอผมนี่หละครับที่อ่านแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร

ผมว่าแล้วแต่คนชอบหล่ะครับ สำหรับผมเป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตเหมือนกันครับที่ได้อ่าน เห็นเพื่อนๆแนะนำให้อ่านก็เลยยืมมาอ่าน ผมอ่านแล้วติดครับแทบจะอยากอ่านตะบี้ตะบันให้จบให้ได้ไม่หลับไม่นอนกันอย่างนั้นเลยครับ พออ่านจบก็เลยไปซื้อทั้งชุดมาเก็บไว้ครับ ผมมองว่าเป็นวรรณกรรมที่ไม่ล้าสมัยเลยครับทั้งๆที่ผมพึ่งจะได้อ่านก็เมื่อ 6 ปีที่แล้วมานี้เอง ทำให้ผมรักการอ่านขึ้นเยอะเลยครับ
ซึ่งต่างจากหนังสือเรื่อง รหัสลับดาวินชี่ ที่เขียนไว้หน้าปกว่า unputdownable ผมอ่านไปไม่กี่หน้าก็หลับแล้วครับ ทั้งๆที่ผมเป็นคนชอบอ่านแนวปริศนา ฆ่าตกรรม วิทยาศาสตร์ และ medical detective แท้ๆ จนแล้วจนลอด จนหนังเค้าก็เอามาฉายแล้ว จนวันนี้ผมยังอ่านไม่จบเลย โดนชก
ถึงบอกว่าแล้วแต่คนชอบหละครับ  Wink
บันทึกการเข้า

CrazyCat CrazyGlock CrazyDog ^v^
แมว 084-128-9257

V for Vendetta
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #134 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2006, 04:30:03 PM »

 หลงรัก
ลางเนื้อลางยาครับ คุณ o/uboy บางคนไม่ชอบอ่านนวนิยาย ผมก็อ่านได้ไม่ทุกประเภท สารคดีก็ชอบ

ชอบยิง .45
ไม่ชอบยิง 9 มม.(ไม่มัน) เพราะยิงเอามันเข้าว่า  หลงรัก หลงรัก

บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10 11 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.101 วินาที กับ 21 คำสั่ง