เคยแล้วครับ
ทะเบียนปืนเป็นชื่อแม่ครับแต่เงินผมซื้อ(ทำงานเก็บเงินเล็กๆน้อยๆระหว่างเรียน)
เพราะตอนที่ซื้อนั้นคุณสมบัติยังไม่ครบ
ซื้อเมื่อปี39 (ตอนนั้นอายุ20 เรียนรัฐศาสตร์ปีสุดท้ายและยังไม่มีงานทำมั่นคง)
เป็นปืนสวัสดิการทอ.(เบเร็ตต้า92FS) ห้ามโอนภายในกำหนด5ปี
ซึ่งหมายความว่าจะโอนได้เมื่อพ้นปี44 ผมก็อดทนรอมานาน
เหตุเกิดปี43หรือ44นี่แหล่ะ ช่วงก่อนเลือกตั้งมั๊ง ผมเอาปืนไปซ้อมยิงคนเดียว
เจอตั้งด่าน(สน.บางเขน)ท่านรองวรนารถ(ถ้าจำชื่อไม่ผิด)เป็นนายด่าน(ถ้ามาอ่านเจอในนี้ก็ขอสวัสดีด้วยนะครับ)
โดนจับข้อหาปืนผิดมือ
กราบอ้อนวอนทุกอย่าง
"อย่าดำเนินคดีผมเลยครับ ผมเพิ่งจะสมัครสอบบรรจุนายร้อยตำรวจ"
"ผมมีประวัติเสียไม่ได้"
"ตอนเด็กๆ ผมก็เป็นลูกเสือจราจร"
"ผมทำงานเพื่อสังคมมาตลอด"
"ยังอยากเป็นคนดีในสังคม"
"ไม่เคยเอาปืนไปยิงใคร ไม่เคยข่มขู่ใคร"
"ผมไม่ใช่นักเลง ไม่ใช่อาชญากร เคยเป็นแต่นักกีฬายิงปืนทีมมหาลัย เป็นคนรักปืน ชอบเล่นปืนแค่นั้น"
แต่ตำรวจ : ต้องดำเนินคดีให้ได้
คดีขึ้นสู่ศาล
อัยการฟ้อง : ครอบครองอาวุธปืน(92FS)โดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาลตัดสิน : ปรับประมาณ6000 และรอลงอาญา2ปี(ไม่ต้องเข้าไปจำคุก)ช่วงนั้นไม่เอาปืนไปไหนเลย(กลัวมาก)
พอประมาณปี46 นี่แหละ(พ้นรอลงอาญาแล้ว) ไปยื่นเรื่องขอป.3เพื่อโอนปืนจากแม่
ซึ่งคุณสมบัติผมครบถ้วนแล้ว
1.ตำแหน่งการงานก็ หัวหน้าแผนกการตลาด(มั่นคงแน่นอน)อายุก็เกิน20แล้ว
2.เงินฝากในบัญชี1แสนบาท
3.มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
4.ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาให้จำคุก(เพราะเป็นการรอลงอาญาเท่านั้น)
5.เคยเป็นนักกีฬายิงปืนทีมมหาวิทยาลัย
6.เป็นสมาชิกสนามยิงปืน เช่น วังกานนท์,ค่ายเสนีย์รณยุทธ,กองทัพอากาศ
7.เคยแข่งยิงปืนได้เหรียญทอง 1เหรียญ ทองแดง3เหรียญ ถ้วยรางวัลอีก1ถ้วยจากสนามร.1รอ.
ดูจากทุกข้อแล้วน่าจะขอได้นะครับ คุณสมบัติเพียบแปล้เลย
แต่พอเรื่องตอบกลับมา
ผลจากการตรวจสอบลายนิ้วมือ(ปืนทุกขนาด และทุกอำเภอ ต้องตรวจลายนิ้วมือนะครับ ไม่ใช่ว่าขนาดเล็กกว่า11มม.ก็ไม่ต้อตรวจนะครับ)
ผลออกมาว่า "ผมเคยถูกศาลตัดสินว่าได้กระทำความผิดตามพรบ.อาวุธปืนเมื่อปี43" ไม่สามารถออกป.3ให้ได้

เลยขอนั่งคุยกับท่านปลัด ว่าจะหาทางทำไงกันดี ท่านก็เอาตัวบทกฏหมาย พรบ.อาวุธปืนมานั่งคุยกัน
บุคคลต้องห้ามคือ "เคยทำกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน"
คำว่า "เคยกระทำความผิด"
หากศาลตัดสินว่าทำผิด ถึงแม้ว่าศาลจะตัดสินลงโทษอย่างไรนั้น ไม่สำคัญ
ไม่มีกำหนดด้วยว่า พ้นการลงโทษกี่ปีจึงมีสิทธ์ขอป.3ได้
เพราะเป็นการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนโดยเจตนา ไม่ใช่ประมาท ไม่ใช่ละหุโทษ
หมายความว่า ดูตามตัวบทของพรบ.จริงๆแล้ว ผมมีชนักติดหลังไปจนตาย ว่าไม่สามารถขอป.3ได้อีก
จนกว่าพรบ.จะมีการแก้ไขโดยตัดข้อห้ามนี้ออกไปครับ
ตลกไม๊ล่ะครับ

คนที่เคยกระทำความผิดที่ดูหนักกว่าครอบครองอาวุธปืน เช่นทำร้ายร่างกาย ฆ่าคนโดยประมาท ฯลฯ เมื่อพ้นโทษแล้วรอเวลาตามที่กฏหมายกำหนด ก็สามารถขอป.3ได้
แต่ผมไม่เคยติดคุก ไม่เคยทำร้ายร่างกายใคร ไม่เคยลักทรัพย์ ไม่เคยก่อคดีข่มขืน ไม่เคยปล้นทรัพย์ ฯลฯ
กลับไม่สามารถขอป.3ได้ตลอดชีวิต
เพียงเพราะ "เคยกระทำความผิดในพรบ.อาวุธปืน ฐานมีและครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต"
โอ้ววว พระจ้าวจอร์จ นี่หรือเมืองไทย นี่หรือกฏหมายไทย นี่หรือการเมืองการปกครองของไทย
สรุป หากเคยกระทำความผิดตามพรบ.อาวุธปืน จะไม่สามารถขอป.3ได้ครับ
เพราะถือว่าขาดคุณสมบัติแล้ว เว้นแต่ จะเตี๊ยมกับนายทะเบียนให้เพิกเฉยในข้อนี้ไป
แต่จะมีนายทะเบียนซักกี่คนที่จะเสี่ยงให้คุณ เพราะเค้าจะต้องเสี่ยงที่จะโดนข้อหาปฏิบัติหน้าที่บกพร่องได้นะครับ
และจนทุกวันนี้ปืนยังเป็นชื่อแม่อยู่ครับ ผมรอว่าแต่งงานเมื่อไหร่คงให้เมียไปรับโอนละกัน(เซ็งชีวิต)
แต่ก็จะเอาใจช่วยให้ขอป.3ให้ได้นะครับ หรือลองปรึกษากับเจ้าหน้าที่ว่ามีทางออกยังไงบ้าง
ได้ผลประการใดก็บอกต่อด้วยนะครับ
หรือท่านใดที่แม่นๆเรื่องพรบ.อาวุธปืน ผมก็อยากรบกวนขอความช่วยเหลือด้วยนะครับ
จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
ผมเองทุกวันนี้ก็นั่งคิดพยายามหาทางออกอยู่เหมือนกัน
ยังนึกไม่ออกเลย
หรือยังไงเมล์มาคุยกันก็ได้นะครับ
force4g@hotmail.com โอ๊ะครับ(รักปืนมากกว่าเมีย)
