เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 14, 2025, 09:51:27 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่แปลกใจเหตุใดสิงคโปร์จึงรวยเป็นอันดับ 1 ของโลก  (อ่าน 3035 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 10:05:27 AM »

มันมีหลายแง่ เอาเฉพาะเรื่องที่นายสมชายรู้ และมีประสบการณ์ตรงนะครับ... คือรูปแบบธุรกิจ(Business model) ของสิงคโปร์เป็นธุรกิจที่อยู่บนสุดของยอดปิรามิดครับ ได้แก่ 1) ธุรกิจนายหน้า ที่เอาของที่ผู้อื่นผลิตแล้วมาทำการตลาด หรือพูดบ้านๆว่าธุรกิจ"เซ้งลี้", กับ 2) คือธุรกรรมทางการเงิน...

ธุรกิจทั้ง 2 อย่างนี่อยู่บนยอดปิรามิด ไม่ต้องการวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตมาก(เพราะประเทศเป็นเกาะ)...

ข้อได้เปรียบของธุรกิจเซ้งลี้... 1) ตัดความยุ่งยากในการผลิต เพราะแค่หาลูกค้าให้ได้ก่อน จากนั้นควานหาผู้ผลิต(ถ้าไม่มีใครผลิตก็จ้างเขาผลิต), 2) มี Barrier Entrance/Exit น้อย หากสินค้าไหนขายไม่ได้ ก็เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ขายไปเลย ไม่ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตฯ และ 3) ที่สำคัญที่สุดคือได้"เรโชกำไร"มากกว่าผู้ผลิตเพราะแค่ไม่ต้องลงทุนมาก...

ธุรกิจประเภทที่ 2 คือ ธุรกรรมทางการเงิน, เช่นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เก็งกำไรตราสารหนี้ เก็งกำไรค่าเงิน เก็งกำไรน้ำมันดิบ เก็งกำไรโลหะมีค่า ฯลฯ โดยตั้งบริษัทขึ้นมาเรียกว่าพวก"เฮ็ดจ์ฟันด์"(ตัวอย่างเช่นบริษัท เทมาเส็ก)... ธุรกรรมทางการเงินได้ผลตอบแทนมหาศาลครับ(หากทำเป็น)...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 10:13:06 AM »

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจที่ยอดปิรามิดคือองค์ความรู้... ความรู้แบบนี้ไม่มีในการเรียนการสอนในห้องเรียน เพราะจะทำนองเดียวกับสอนให้ขับรถเป็น แต่จะขับรถเก่งต้องอาศัยประสบการณ์บนท้องถนน...

แต่ประสบการณ์บนท้องถนนจะเร็วขึ้น ต้องมีการปลูกฝังนิสัย"ใฝ่รู้"ให้แก่บุคคลากร... ตรงนี้แตกต่างจากประเทศไทย ที่มีแต่คนพูดไม่รู้เรื่อง อธิบายเรื่องราวอะไรไม่ได้เกลื่อนประเทศ, ชนิดที่เดี๋ยวนี้หาใครสักคนที่สามารถอธิบายบอกทางไปโน่นไปนี่แทบไม่ได้ครับ...

คนที่ตัวเองรู้ แต่ไม่สามารถอธิบายเรื่องราวหรือถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไม่ได้(ภาษาอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาไทย)... นั่นแปลว่าตัวเองก็ไม่สามารถค้นคว้าองค์ความรู้ใส่สมองด้วยครับ...
บันทึกการเข้า
van-เรารักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 22
ออฟไลน์

กระทู้: 703


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 10:22:14 AM »

 ก้แค่วัตถุ
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 10:27:08 AM »

มันมีหลายแง่ เอาเฉพาะเรื่องที่นายสมชายรู้ และมีประสบการณ์ตรงนะครับ... คือรูปแบบธุรกิจ(Business model) ของสิงคโปร์เป็นธุรกิจที่อยู่บนสุดของยอดปิรามิดครับ ได้แก่ 1) ธุรกิจนายหน้า ที่เอาของที่ผู้อื่นผลิตแล้วมาทำการตลาด หรือพูดบ้านๆว่าธุรกิจ"เซ้งลี้", กับ 2) คือธุรกรรมทางการเงิน...

ธุรกิจทั้ง 2 อย่างนี่อยู่บนยอดปิรามิด ไม่ต้องการวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตมาก(เพราะประเทศเป็นเกาะ)...

ข้อได้เปรียบของธุรกิจเซ้งลี้... 1) ตัดความยุ่งยากในการผลิต เพราะแค่หาลูกค้าให้ได้ก่อน จากนั้นควานหาผู้ผลิต(ถ้าไม่มีใครผลิตก็จ้างเขาผลิต), 2) มี Barrier Entrance/Exit น้อย หากสินค้าไหนขายไม่ได้ ก็เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ขายไปเลย ไม่ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตฯ และ 3) ที่สำคัญที่สุดคือได้"เรโชกำไร"มากกว่าผู้ผลิตเพราะแค่ไม่ต้องลงทุนมาก...

ธุรกิจประเภทที่ 2 คือ ธุรกรรมทางการเงิน, เช่นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เก็งกำไรตราสารหนี้ เก็งกำไรค่าเงิน เก็งกำไรน้ำมันดิบ เก็งกำไรโลหะมีค่า ฯลฯ โดยตั้งบริษัทขึ้นมาเรียกว่าพวก"เฮ็ดจ์ฟันด์"(ตัวอย่างเช่นบริษัท เทมาเส็ก)... ธุรกรรมทางการเงินได้ผลตอบแทนมหาศาลครับ(หากทำเป็น)...

ในข้อ 1 นี่ผมเห็นชัดเจนที่สุดครับ มีหลายบริษัทผู้ผลิตสินค้าชั้นยอดจากยุโรปหลายบริษัทมาตั้งสาขาจัดจำหน่ายในสิงคโปร์
            หากสินค้านั้นต้องการวิศวกรผู้มีความรู้และประสบการณ์สูงในการให้บริการ สิงคโปร์ ไม่มีคนแบบนี้ครับถึงมีก็สู้วิศวกร
            จากต่างประเทศไม่ได้ (เช่นไทย) เพราะสิงค์โปร์ไม่มีภาคอุตสาหกรรมการผลิตจริงๆ ประสบการณ์จึงไม่มี
            แต่สิงคโปร์ก็ไม่ยอมลดละ ยอมจ้างวิศวกรที่มีความชำนาญจากต่างชาติเข้าไปทำงานในสิงคโปร์จนได้
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 10:39:25 AM »

ในข้อ 1 นี่ผมเห็นชัดเจนที่สุดครับ มีหลายบริษัทผู้ผลิตสินค้าชั้นยอดจากยุโรปหลายบริษัทมาตั้งสาขาจัดจำหน่ายในสิงคโปร์
            หากสินค้านั้นต้องการวิศวกรผู้มีความรู้และประสบการณ์สูงในการให้บริการ สิงคโปร์ ไม่มีคนแบบนี้ครับถึงมีก็สู้วิศวกร
            จากต่างประเทศไม่ได้ (เช่นไทย) เพราะสิงค์โปร์ไม่มีภาคอุตสาหกรรมการผลิตจริงๆ ประสบการณ์จึงไม่มี
            แต่สิงคโปร์ก็ไม่ยอมลดละ ยอมจ้างวิศวกรที่มีความชำนาญจากต่างชาติเข้าไปทำงานในสิงคโปร์จนได้

นั่นยังดีนะครับ ที่สิงคโปร์จ้างวิศวกรไปทำงานที่โน่น... ธุรกิจประเภทอื่นหลายประเภท สิงคโปร์ไม่สนใจผลิตเองเลย แล้วพวกนี้มันไม่สนใจอะไรมากไปกว่าข้อมูลการตลาดเท่านั้นครับ, นั่นแปลว่าหากที่ประเทศไทยต้นทุนแพงเมื่อไหร่มันจะย้านฐานการผลิตไปประเทศอื่นทันทีเลย ปล่อยให้โรงงานเดิมกลายเป็นโรงงานร้าง!!!...

หรือบางธุรกิจที่เป็น Core ของระบบเศรษฐกิจ มันก็กุมหัวใจเอาไว้... ลองดูบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Oil & Gas ในประเทศไทยซิครับ มีแต่สิงคโปร์ถือหุ้นใหญ่ทั้งนั้นเลย ตั้งแต่ บ.ผลิตแท่นเจาะ บ.วางท่อฯ(บนบก/ในทะเล) บ.รับจ้างจ้อบอื่น เช่นงานเคเตอร์ริ่ง งานเรือท้องแบนขนส่ง ฯลฯ...
บันทึกการเข้า
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 10:59:13 AM »

บทความนี้แล้วแต่จะมองครับ

คนที่มองเพื่อพัฒนาตัวเองก็จะเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพคน , ประสิทธิภาพในการจัดการ

คนที่มีความสุขกับชีวิตตัวเองดีอยู่แล้ว , ความรู้สึกในการต้องต่อสู้ดิ้นรนก็จะมองสวนขึ้นไปที่ความสุขในการดำเนินชีวิต


ผมไม่รู้จักคนสิงคโปร์เลย แต่กับคนนอร์เวย์พอจะบอกได้ ว่าเป็นพวกที่ชอบทำหน้าตาไร้อารมณ์,มักติดนิสัยเคร่งเครียดจริงจัง เล่นอะไรก็มักออกแนวเพื่อปลดเปลื้อง/ระบายอารมณ์
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 11:23:47 AM »

นั่นยังดีนะครับ ที่สิงคโปร์จ้างวิศวกรไปทำงานที่โน่น... ธุรกิจประเภทอื่นหลายประเภท สิงคโปร์ไม่สนใจผลิตเองเลย แล้วพวกนี้มันไม่สนใจอะไรมากไปกว่าข้อมูลการตลาดเท่านั้นครับ, นั่นแปลว่าหากที่ประเทศไทยต้นทุนแพงเมื่อไหร่มันจะย้านฐานการผลิตไปประเทศอื่นทันทีเลย ปล่อยให้โรงงานเดิมกลายเป็นโรงงานร้าง!!!...

หรือบางธุรกิจที่เป็น Core ของระบบเศรษฐกิจ มันก็กุมหัวใจเอาไว้... ลองดูบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Oil & Gas ในประเทศไทยซิครับ มีแต่สิงคโปร์ถือหุ้นใหญ่ทั้งนั้นเลย ตั้งแต่ บ.ผลิตแท่นเจาะ บ.วางท่อฯ(บนบก/ในทะเล) บ.รับจ้างจ้อบอื่น เช่นงานเคเตอร์ริ่ง งานเรือท้องแบนขนส่ง ฯลฯ...

ยากครับ ที่จะเป็นโรงงานนั้น เท่าที่เคยสัมผัสงานส่งออกในช่วงวัยหนุ่ม
สินค้าตัวเดียว แบ่งเป็น3ระดับ
ผู้ผลิตเดียวกัน ไทย มีมาตรฐานสูงกว่าประเทศอื่นในละแวกภูมิภาคเดียวกัน
อย่างผลิตสินค้า A  คนสิงคโปร์มีสินค้าA อยู่อย่างน้อย3ระดับราคาให้เลือก
ราคาสูง เอาของผู้ผลิตไทยไป ราคากลางเอาของผู้ผลิตอินโดฯไป ราคาต่ำเอาของอินเดียไปขาย
อยู่ที่เวลาใดมีผู้ซื้อสินค้าระดับใดมากที่สุดครับ
มีแต่ผู้ผลิตไทยนี่แหละแข่งขันกันเอง เพราะสิงคโปร์(รวมถึงญี่ปุ่น) มักใช้กลยุทธ์จัดอันดับของผู้ผลิตไทยไว้อีกที
อย่างมีผู้ผลิต5รายที่ทำ เขาจะจัดไว้ว่าใครเป็นอันดับ12345 บางทีเจอเขาบอกว่า
ผู้ผลิตรายนี้ (บ.ที่ผมทำงาน)เป็นลำดับที่4ใน5 ในผู้ผลิตชาวไทยที่เขาซื้อของด้วย
เราก็งง หากเราเป็นลำดับที่4ใน5 ของผู้ผลิตเมืองไทย แล้วใครเป็น123 เพราะในวงการธุกิจสินค้าชนิดนั้นในเมืองไทย
ต่างยอมรับ กันว่าบ.ผมเป็นอันดับ2ในไทย แต่สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ดัีนบอกว่าเราเป็นลำดับ4
ช่วงระหว่างที่กำลังงงๆ มันถือโอกาสนั้นต่อราคาทันที  หัวเราะร่าน้ำตาริน

ยิ่งนึกยิ่งแค้น  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 11:52:15 AM »

ยากครับ ที่จะเป็นโรงงานนั้น เท่าที่เคยสัมผัสงานส่งออกในช่วงวัยหนุ่ม
สินค้าตัวเดียว แบ่งเป็น3ระดับ
ผู้ผลิตเดียวกัน ไทย มีมาตรฐานสูงกว่าประเทศอื่นในละแวกภูมิภาคเดียวกัน
อย่างผลิตสินค้า A  คนสิงคโปร์มีสินค้าA อยู่อย่างน้อย3ระดับราคาให้เลือก
ราคาสูง เอาของผู้ผลิตไทยไป ราคากลางเอาของผู้ผลิตอินโดฯไป ราคาต่ำเอาของอินเดียไปขาย
อยู่ที่เวลาใดมีผู้ซื้อสินค้าระดับใดมากที่สุดครับ
มีแต่ผู้ผลิตไทยนี่แหละแข่งขันกันเอง เพราะสิงคโปร์(รวมถึงญี่ปุ่น) มักใช้กลยุทธ์จัดอันดับของผู้ผลิตไทยไว้อีกที
อย่างมีผู้ผลิต5รายที่ทำ เขาจะจัดไว้ว่าใครเป็นอันดับ12345 บางทีเจอเขาบอกว่า
ผู้ผลิตรายนี้ (บ.ที่ผมทำงาน)เป็นลำดับที่4ใน5 ในผู้ผลิตชาวไทยที่เขาซื้อของด้วย
เราก็งง หากเราเป็นลำดับที่4ใน5 ของผู้ผลิตเมืองไทย แล้วใครเป็น123 เพราะในวงการธุกิจสินค้าชนิดนั้นในเมืองไทย
ต่างยอมรับ กันว่าบ.ผมเป็นอันดับ2ในไทย แต่สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ดัีนบอกว่าเราเป็นลำดับ4
ช่วงระหว่างที่กำลังงงๆ มันถือโอกาสนั้นต่อราคาทันที  หัวเราะร่าน้ำตาริน

ยิ่งนึกยิ่งแค้น  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

ทักษะการเจรจาต่อรองนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่ครับ... การเจรจาต่อรองเป็นเรื่องของการ"เล่นกับ"องค์ความรู้ 3 ด้านคือพฤติกรรมผู้บริโภค ความรู้ในผลิตภัณฑ์ และความสามารถในการจับประเด็นฯ(ไม่นับทักษะการเล่นโป๊กเกอร์เกมส์/เกทับบลั๊ฟแหลก - ซึ่งในระยะยาวจะไม่มีใครให้ความเชื่อถือ)...

ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคจะต้องสนับสนุนด้วยฐานข้อมูลขนาดมหึมา และในประเทศไทยเรื่องนี้จะมีอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่ ที่สามารถเก็บสถิติต่างๆ สำหรับเอามาเป็นข้อมูลวิจัยตลาด(เช่นเครือข่ายร้านสะดวกซื้อต่างชาติ หรือสถาบันการเงิน/ที่ปรึกษาธุรกิจ ฯลฯ)... สำหรับบริษัทขนาดเล็ก(ประชาชนทั่วไป)ไม่เคยมีใครนึกถึง เพราะทุกคนจ้องแต่จะผลิตลูกเดียว โดยไม่คิดจะเปลี่ยนเป็นธุรกิจบนยอดปิรามิด(ยกเว้นบางบริษัท เอาหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วค่อยๆแปรรูปเป็น"บริษัทโฮลดิ้ง")...

สำหรับเรื่องความสามารถในการจับประเด็นนี่ถือว่าเป็นเรื่องยอดแย่ของสังคมไทยอันดับที่หนึ่งเลย... โดยเราดูได้จากมีข่าวอยู่เรื่อยว่า ผลจากการวัดสัมฤิทธิ์ผลทางการศึกษาของนักเรียนไทยลดต่ำลงเรื่อยๆ, ตรงนี้ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร เพราะพื้นฐานมาจากการ"อ่านน้อยลง"...
บันทึกการเข้า
แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 01:15:51 PM »

ยายเพลาๆมั่งเหอะ อะไรที่ไม่น่าจะลากมามั่วก้ออย่าลาก เห็นปะจับช้างชนกวางไปหมด

เห็นด้วยอย่างแรง ถ้าเข้าเส้น ย้ายไปการเมืองเถอะครับยาย
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2013, 05:43:02 AM »

อย่างน้อยๆ ผมขับรถได้ระยะทางเฉลี่ย 300 กม. ต่อวัน ขับไปชมทิวทัศน์สีเขียวๆข้างทาง ร่มรื่นใจดีครับ คนสิงค์โปร์กว่าจะใช้รถได้ถึง 300 กม. คงใช้เวลาเป็นเดือน.. คิก คิก
ชีวิตวันๆอยู่แต่ในห้องแคบๆ ว่างหน่อยก็ไปเดินห้างฯ ไม่เหมือนบ้านเรา เสาร์-อาทิตย์ ขับรถสัก 200-300 กิโลฯ ไปกินข้าวเที่ยงริมทะเลหรือน้ำตก ขนาดเพื่อนที่ทำงานสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ บ้านยังไม่มีจะอยู่ คิก คิก
บันทึกการเข้า

ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15855
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2013, 07:29:03 AM »

ยายเพลาๆมั่งเหอะ อะไรที่ไม่น่าจะลากมามั่วก้ออย่าลาก เห็นปะจับช้างชนกวางไปหมด

เห็นด้วยอย่างแรง ถ้าเข้าเส้น ย้ายไปการเมืองเถอะครับยาย


บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ICKILAS
HS 7 VLP
Hero Member
*****

คะแนน -1666
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1106


จงกลัวใจตัวเอง แต่อย่ากลัวปืน


« ตอบ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2013, 07:41:58 AM »

ลองถ้าไทยขุดคลองลัดอันดามัน-อ่าวไทย  สิงคโปร ร้องจ๊ากแน่   สิงคโปร อาจจะใช้เงินมหาศาล ยับยั้งโครงการนี้อยู่ก็ได้  แล้วเงินมหาศาลนี้  ใครจะได้ไป  Huh
บันทึกการเข้า

ผู้กำกับภาพยนตร์อิสระ เสรี เหนือสิ่งอื่นใด
Ghostreporting
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

กระทู้: 1392


ขอเจอตัวจริงของเทอสักครั้ง


« ตอบ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2013, 08:22:12 AM »

ลองถ้าไทยขุดคลองลัดอันดามัน-อ่าวไทย  สิงคโปร ร้องจ๊ากแน่   สิงคโปร อาจจะใช้เงินมหาศาล ยับยั้งโครงการนี้อยู่ก็ได้  แล้วเงินมหาศาลนี้  ใครจะได้ไป  Huh
ผมขอเดาว่าน่าจะล๊อบบี้กับทางไทยมานานละครับ ถึงได้ดองโครงการนี้ไปนานร่วมศตวรรษ
บันทึกการเข้า

http://www.thaispyshot.com/index.php?topic=718.0 อ้างเพิ่มระดับความเขี้ยวของมาตรฐานไอเสีย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม เราไม่โง่พอที่จะเชื่อคุณหรอก ที่รถบรรทุกทิ้งหินทิ้งทราย ทิ้งควันดำปื๋อดันไม่ไปกวดขัน ทุเรศประเทศสารขันธ์
Victor&Sugus
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 85
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1062


รักสนุกทุกถนัด เฉพาะเรื่องปืน.....


« ตอบ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2013, 08:45:20 AM »

อยู่เมืองไทยนี่แหละดีแล้วครับ มีภูเขา ทะเล เสียตรงปัญหาคอรัปชั่นนี่แหละ
ไม่งั้น เมืองไทยสวรรค์แท้ ๆ ......
บันทึกการเข้า

☀ <º))))><.·´¯`·. h £ ® ß € ¯|¯ •·.·´¯`·.·• .·´¯`·.><((((º> —(•·÷[ ]÷·•)—·‡±±‡±÷· Oº°‘¨ ¨‘°ºO •°o.O O.o°• ¨°o.O O.o°¨ —¤÷(`[¤* *¤]´)÷¤— •·.·´¯`·.·• •·.·´¯`·.·• «·´`·.(`·.¸ ¸.·´).·´`·» ׺°”˜`”°º× ׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)✿*Maxx™❀●• ♬✿❀●• ♬
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2013, 09:53:25 AM »

ลองถ้าไทยขุดคลองลัดอันดามัน-อ่าวไทย  สิงคโปร ร้องจ๊ากแน่   สิงคโปร อาจจะใช้เงินมหาศาล ยับยั้งโครงการนี้อยู่ก็ได้  แล้วเงินมหาศาลนี้  ใครจะได้ไป  Huh
ผมขอเดาว่าน่าจะล๊อบบี้กับทางไทยมานานละครับ ถึงได้ดองโครงการนี้ไปนานร่วมศตวรรษ
ถึงสร้างตอนนี้สิงคโปร์ก็ไม่กลัวแล้ว เพราะเขาเข้าถือหุ้น กองเรือใหญ่ๆใว้หมดแล้ว อ๋อย
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 20 คำสั่ง