เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 15, 2025, 10:01:33 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: นอกเรื่อง, จิตร ภูมิศักดิ์ จากกระทู้ลอบสังหารบรรลือโลก  (อ่าน 3067 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 11:16:43 AM »

จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของผู้ต่อต้านระบอบศักดินา และความไม่เท่าเทียมกันในสังคม

สำหรับหลายๆท่าน อาจได้อ่านหนังสือ บทความและข้อเขียนของจิตร และยึดถือเป็นฮีโร่ หรือต้นแบบในชีวิตก็มี
แต่ถ้าได้อ่านและวิเคราะห์ข้อมูลความสามารถ ทั้งภายในข้อเขียนและตัวจิตรเองก็ตาม จะเห็นความขัดแย้งภายในมากเหลือเกิน
จริงอยู่ว่าสำหรับชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าปราดเปรื่อง ได้เขียนข้อความวิพากย์ได้อย่างเจ็บแสบ
แต่ในอีกมุมหนึ่งด้วยอายุยังน้อย ประสบการณ์ยังอ่อน สิ่งที่เขียนก็ใช่ว่าจะเข้าใจอย่างถ่องแท้

ครั้งหนึ่งจิตร เขียนวิพากย์ดนตรีไทยไว้อย่างรุนแรงว่า ด้อยพัฒนา ขาดการปรับปรุงให้ทันสมัยเข้ากับสากล
เสียงมีเพียงแค่เจ็ดเสียง ทำอะไรไม่ได้มาก ยึดถือกฎเกณฑ์คร่ำครึ ห้ามนอกครู จึงไม่พัฒนา ฯลฯ อีกมาก

ถ้าวิเคราะห์กันจริงจัง จะเห็นว่าข้อเขียนเรื่องดนตรีไทยของจิตร อ้างอิงจากมาตรฐานสากล
แต่ เรื่องของศิลปะวัฒนธรรม ไม่ใช่การเปรียบเทียบ หรือวัดค่าด้วยมาตรฐานใดๆ นอกจากมาตรฐานของชาตินั้นเอง

จริงอยู่ไทยเราอาจไม่เป็นไปตามที่สากลต้องการ แต่นี่คือเมืองไทย ศิลปวัฒนธรรมไทย ใยต้องให้ต่างชาติมาวัดครับ
ถ้าหากครูบาอาจารย์โบราณ ไม่ยึดถือกฎเกณฑ์ ระเบียบวิธี แบบแผนไว้เป็นกระบวน เป็นรากให้ยึดเหนี่ยว
วันนี้จะมีสิ่งใด้เหลืออยู่ให้เราเรียกได้ว่า ศิลปะวิทยาการและวัฒนธรรมประจำชาติไทย
ให้คนได้สำนึกว่า กูเป็นไทย

ผมละกลัวจริงๆ ว่าหนังสือหรือข้อเขียน ที่เบี่ยงเบนผิดไปจากความเป็นจริงยังมีอยู่มากในสังคมไทย
คนที่ไม่รู้ตื้นลึกมาอ่าน อาจจำไปผิด นำหลักผิดๆไปใช้ยึดเหนี่ยว เราก็จะได้แต่สังคมบิดๆเบี้ยวๆ
จนหนีห่างไปจากทางสายที่ถูกที่ควร 

ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ

ด้วยว่าภูมิใจที่เกิดเป็นไทยอย่างเต็มเปี่ยม


อ้างอิงกระทู้    http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=2298.30
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 11:29:01 AM โดย ทัดมาลา » บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 11:25:44 AM »

ส่วนตัวนะขอใช้คำว่าโคตะระเกลียดเลยคับหนังสือที่ไอ้พวกฝรั่งมันเขียนเกี่ยวกับผู้หญิงไทย ผมเคยไปเจอที่เอเชียบุคนะคับอยากด่าอ่ะ  มีทั้งวิธีจีบวิธีxxxไอ้@!$!$#@$@#$$เอ้ย   แบบที่มาเที่ยวเมืองไทยได้หญิงไทยแบบไหนที่ไหนอย่างไร  ทุเรสอ่าคับเห้นแล้วเกลียดหนักกว่าเดิมอีก Angry
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 12:33:09 PM »

แบบที่ท่านaxolotกล่าว ผมก็เคยเห็น
คล้ายๆกะนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทย แล้วต้องการความช่วยเหลือซักอย่าง
หากผู้หญิงไทยเดินผ่านก็ไถ่ถามผู้หญิง
ซึ่งเขาอาจเห็นว่าผู้หญิงให้ความช่วยเหลือในข้อสงสัยของเขาได้
ก็เลยคิดว่า จีบง่าย
หากเค้าขอถ่ายรูป ก็ไม่มีใครปฏิเสธ โดยวัฒนธรรมใทยที่ให้การต้อนรับชาวต่างชาติ
ก็เลยเหมาไปว่าความเป็นมิตรตรงนั้น.. เป็นสิ่งที่ผู้หญิงมีใจให้

หากฝรั่งคนนั้นไปเที่ยวประเทศอื่นๆ แถวๆเอเชียตะวันออกไกล ซึ่งเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่เมื่อซัก10-15ปีที่แล้ว
เค้าไม่มีทางได้รับมิตรภาพแบบนั้น เพราะขนาดเดินชนกันยังไม่มีเวลาแม้แต่ขอโทษเลย
ที่สำคัญ ซื้อของ ต่อราคาหน่อย ถ้าไม่พอใจ มีหน้าบึ้งแล้วล้งเล้งใส่ บางทีตะเพิดออกมาก็มี
ทั้งๆที่เป็นร้านค้าบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว
ใครเคยไป ก็ลองมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

...GlockGlack™...
โพสท์ถึง 999 ก็พอ
Sr. Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 991


สติหมา ปัญญาหมี


« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 12:47:08 PM »

เคยอ่านข้อเขียนของ "ปัญญาชนสยาม" อยู่พักหนึ่ง  เลยเพี้ยนตามเขาไปพักหนึ่งเหมือนกันครับ

พอมาพิจารณาด้วยสติปัญญา และด้วยสามัญสำนึกที่ว่า บรรพบุรุษท่านไม่ได้โง่งม หรือคร่ำครึอย่างที่คนทั้งหลายชอบคิดกันตื้นๆ  เพราะท่านสร้างชาติและดำรงความเป็นไทมาได้จนถึงรุ่นของเรา  แสดงว่าท่านย่อมมีสิ่งล้ำลึกกว่าที่จะมาวิพากษ์กันง่ายๆ โดยเอาวิทยาการความรู้หรือค่านิยมแบบใหม่ไปวัดได้

คนหลายคนชอบฟังเพลงคลาสสิค  ยกให้เป็นของเลิศ ในขณะที่มองว่าเพลงไทยเดิมนั้นเนิบนาบน่าง่วง  หารู้ไม่ว่าหากจะฟังหรือบรรเลงกันให้เข้าถึงจิตใจได้นั้น ต้องอาศัยสมาธิระดับฌานนะเออ  เพลงไทยเดิม จึงเป็นการสะท้อนถึงระดับจิตใจของบรรพบุรุษไทยครับ  ไม่ใช่ล้อเล่น
บันทึกการเข้า

วันใดที่อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุจริตชนจะพ่าย แต่โจรผู้ร้ายกลับชนะ

Success Begins With A Fellow's Will,  It's All In The State Of Mind  Smiley
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 12:54:12 PM »

ท่านใดเคยอ่านหนังสือเรื่อง " คนขวางโลก " บ้างครับ , อีกเรื่องก็ "แฉชีวิตนักเรียนนอก"  อ่านแล้วก็ได้รู้อะไรดีเหมือนกันเนาะ.........
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 01:00:43 PM »

ยุคนั้นเป็นยุค ขวาจัด ซ้ายจัด ขาวจัด ดำจัด
เหมือนเหรียญที่มีสองด้านแต่หันหลังให้กันเสมอ
ประวัติศาสตร์ไม่เคยมีการบันทึกว่ามีการ.....ประนีประนอมในยุคนั้น
ว่ากันแบบแตกหักไปเลย เหมือนความคิดด้านเดียว
ในความเป็นจริง ไม่มีใครหรือระบบไหน ดีที่สุด
มีแต่ดีๆด้อยๆปนๆกันไป

ว่ากันว่ายุคนั้นมีการเผาวรรณคดีไทยไปไม่น้อย เพราะฝ่ายซ้าย....ถือว่าเป็นสิ่งมอมเมา.....
โดยยกตัวอย่างฉากบรรยายบทรักของขุนแผน.....และเรื่องอื่นๆ....ว่าเป็นเรื่องประโลมโลกย์
ตรงนั้นเป็นสิ่งน่าเสียดายมาก สำหรับนักอ่าน


แม้แต่ทุกวันนี้ ก็ยังมีแบบซ้ายตกขอบทะเลาะกับฝ่ายอื่นๆอยู่เสมอ
เช่นการตำหนิเพลงเพื่อชีวิตในยุคนี้ว่า
"เพลงเพื่อชีวิต เกิดมาด้วยหัวใจ ไปตายไนร้านเหล้า"
กล่าวคือ
ฝ่ายแรกบอกว่า เพลงเพื่อชีวิตเกิดมาในยุคแสวงหา ด้วยหัวใจบริสุทธิ์ แต่ปัจจุบันใครก็ได้เอาไปร้องในร้านเหล้า ผับ บาร์ เพียงเพื่อแลกเงิน ดำรงชีพ ขับกล่อมคนเมา ไม่ใช่เพื่ออุดมการณ์ และไม่เข้าใจในเนื้อหาของเพลงมากมายไปกว่า เพลงนี้ดัง หรือไม่ดัง

อีกฝ่ายก็บอก เพลงเพื่อชีวิต ที่ยังอยู่เพราะยังมีการต้อนรับ คนร้องหรือนักดนตรี ยังต้องมีรายได้เพื่อดำรงชีพ สถานที่เล่นก็ต้องมี ถึงไม่ใช่ร้านเหล้าก็ต้องเป็นที่อื่นๆอยู่ดี ตราบใดเพลงเพื่อชีวิตไม่ได้สร้างความแตกแยกในสังคม ก็ยังยินดีสนันสนุน

สองฝ่ายนี้ทะเลาะกันประจำครับ
น่าเบื่อหน่ายที่สุด

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

chew - รักในหลวง
VOTE NO = ไม่เลือกควายตัวไหน และ สัตว์คอกใด ทั้งสิ้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1892
ออฟไลน์

กระทู้: 10589


เอาแผ่นดินของพ่อหลวงคืนมา เอาคนโกงชาติเข้าคุกไป


« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 01:13:16 PM »

There are differnt between conservation/preservation and innovation na krub.  We may and should preserve our root and culture but we shall not rule out new innovation either.  I would be more fare if we are to keep the goods and dish the bads and try not to bad mouth what we dislike as bad things na krub. 

I love Thai culture, which also tradition music is part of, but I won't rule out hearing classical music either as I think that soothes my soul quiet well.   However if one ever had a chance to hear a real good Thai Traditional Music played by those expert musicians, be it Thais or Farangs, then one should understand clearly how beautiful Thai music is and not because of those Techno Machines that mix and make the sound any better krub Smiley

Just my 2 cents here and I am sorry for having to type in English krub. 

Regards,
บันทึกการเข้า
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 02:05:18 PM »

 Grin เคยอ่านหนังสือที่ไม่เข้าท่ามาบ้างเหมือนกัน และเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เข้าท่า ไม่ส่งเสริมความรู้สึก "กูเป็นไทย" ล่าสุดโฆษณา บ. มือถือยี่ห้อหนึ่งชุดใหม่ ที่แม่หนูน้อยทำหน้าคิ้วขมวดพูดใส่แม่ "แม่ไม่น่าตามหาหนูเลย หนูอยากอยู่ที่นี่นาน ๆ" ดูแล้วขัด ๆ กับความรู้สึก อะไรกันเนี่ย เดี๋ยวนี้เค้าสอนให้ลูกทำแบบนี้กับแม่หรือ จะหาว่าผมแอนตี้ บ. นี้ก็เกือบจะใช่ล่ะครับ เพราะเห็นออกโฆษณามาหลายชุดมันแย้ง ๆ กับความรู้สึกอย่างไรบอกไม่ถูก แต่ก็ใช่ว่าจะแค่ บ. นี้ หรือโฆษณา เพียงอย่างเดียว หลาย ๆ อย่างในรายการทีวี หนังสือ หนังสือพิมพ์ หรือสื่อทุก ๆ แขนงในปัจจุบัน มีมากครับที่ไม่ส่งเสริมความรู้สึก "กูเป็นไทย" ตอนนี้เอง ผมมักจะตักเตือนญาติพี่น้องเสมอเมื่อมาชวนลูกสาวผมไปกิน KFC หรืออะไรทำนองนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าห้าม แต่จะบอกให้ลองชวนเค้าไปกินอะไรไทย ๆ ก่อนดีกว่ามั๊ย ถ้าเค้าอยากกิน KFC จริง ๆ ค่อยพาไป เค้าจะได้รู้จักอะไรที่เป็นไทย ๆ บ้าง นี่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วลูกสาวบอกจะขอเรียนดนตรีไทย (ไม่ใช่ตีฉิ่ง บอกดักตาซับไว้ก่อน เยาะเย้ย) ช่วงปิดเทอม ผมล่ะดีใจมาก ๆ เลย Grin
บันทึกการเข้า

ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 02:23:18 PM »

เรื่องคนไทยไม่สนใจของไทย ก็เป็นไปในทางเดียวกับ ทำไมไม่ใส่ใจพระศาสนา

สิ่งดีๆมีค่า แต่ไม่มีคนรู้ค่า เกิดจากขาดการนำเสนอที่ดี
ผู้นำสาสน์ ไม่สามารถสื่อให้คนทั่วไปเข้าใจหรือรับรู้ถึงประโยชน์ที่มีได้
คนทั่วไปจึงมองข้ามและไม่เห็นค่า ไม่เห็นความสำคัญ

และเหนือสิ่งอื่นใด เมื่อมันสื่อยาก มันก็ไม่ทำกำไร ไม่มีกำไร ก็ไม่มีใครอยากทำ..............

พูดไปก็กลับไปสู่ปัญหาสังคมและการเมือง

ท่านทราบหรือไม่ หลายหลักสูตรในมหาวิทยาลัยกำลังมีปัญหา เพราะในแต่ละปีมีผู้เรียนเพียง 3-5 คนเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาวิชาทาง ศิลปะวัฒนธรรม เช่น วรรณคดี ประวัติศาสตร์ ฯลฯ
อันเป็นสาขาที่ดำรงความเป็นรากเหง้าแห่งไทยไว้

น่าอนาจใจ ที่รัฐไม่เห็นค่า ไม่ให้การสนับสนุน เพราะไม่ทำกำไร ไม่มีคนเรียน เปิดไปก็เป็นภาระแก่มหาวิทยาลัย
นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในแวดวงการศึกษา  ใครๆก็วิ่งไปหาวิชาที่จบมาแล้วทำมาค้าขึ้น มีเงินมีเกียรติ

แต่ไอ้สิ่งเหล่านี้ ถ้าวันนึงไม่มีคนเรียนคนสอนสืบต่อมา เราจะกลายเป็นคนไร้ราก ขาดความเป็นไทย

ดูอย่าง สหรัฐอเมริกา หรือ สิงคโปร์ มีเทคโนโลยีและความมั่งคั่ง แต่ไร้รากทางวัฒนธรรม

อย่าให้ไทยเราต้องเป็นอย่างนั้นเลยครับ
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 02:41:20 PM »

คนไทยเราเก่งและมีดีเยอะครับ แต่แบบเรียบๆ เลยโดนพวกตะวันตกและญี่ปุ่นเข้าครอบงำพวกวัยรุ่นไทยได้ง่าย อีกอย่างครับรัฐบาลไทยหลายยุคหลายสมัยไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้ จนปัจจุบันวัยรุ่นเราโดนพวกนี้ล้างสมองไปหมด สมัยก่อนเวลาจะยึดหรือเข้าปกครองประเทศเขาจะส่งกำลังทหารเข้าไป แต่สมัยปัจจุบันเขาจะส่งพวกสิ่งมอมเมา สังเกตุได้จากอเมริกาจะพยามพูดอยู่เสมอว่า ต้องมีเสรีภาพ การค้าเสรี มนุษยธรรม นั้นแหละเราเคยคิดหรือเปล่าว่าสังคมไทยต้องอยู่แบบไทย เราไม่เหมือนอเมริกาหรือยี่ปุ่น เดี๋ยวนี้ผมเห็นเด็กนักเรียนพานิชย์แล้วคิดว่าตัวเองอยู่ญี่ปุ่น ทำไมเราต้องไปเลียบแบบเครื่องแต่งกายของเขา ไปที่ใหนก็ดื่มแต่ชาเขียว ไอ้ชาเขียวเนี๊ยจริงๆแล้วมันดีกว่าน้ำใบบัวบกของเราหรือเปล่า เห็นสังคมไทยสมัยใหม่แล้วกลุ้ม หรือว่าผมแก่เกินไปสำหรับวัฒนธรรมสมัยใหม่
บันทึกการเข้า
ช.ช้าง
Rifle Team
Sr. Member
****

คะแนน 32
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 826


หลงรสเหล้าเมาควันปืน


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 04:48:52 PM »

มีซ้ายก็ต้องมีขวา...
มีขาวก็ต้องมีดำ...
มีหยินก็ต้องมีหยาง...
ในหยินหลักมีหยางรอง...
ในหยางหลักมีหยินรอง...
ทั้งสองจะต้องสอดประสานและคานซึ่งกันและกัน...
บันทึกการเข้า

เพราะชิวิตไม่สวยงามเหมือนความฝัน...การฆ่าฟันจึงยังคงอยู่
...GlockGlack™...
โพสท์ถึง 999 ก็พอ
Sr. Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 991


สติหมา ปัญญาหมี


« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 06:34:39 PM »

... แต่ก็ใช่ว่าจะแค่ บ. นี้ หรือโฆษณา เพียงอย่างเดียว หลาย ๆ อย่างในรายการทีวี หนังสือ หนังสือพิมพ์ หรือสื่อทุก ๆ แขนงในปัจจุบัน มีมากครับที่ไม่ส่งเสริมความรู้สึก "กูเป็นไทย" ...
เคยผ่านตาโฆษณาขายเหล้า "บรั่นดีไทย" ที่ว่าเชิดชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย  แต่ดันเอาฝรั่งมาเป็นนางแบบ แต่งชุดไทย  Tongue
บันทึกการเข้า

วันใดที่อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุจริตชนจะพ่าย แต่โจรผู้ร้ายกลับชนะ

Success Begins With A Fellow's Will,  It's All In The State Of Mind  Smiley
poe kerpetkaew
Sr. Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 806


« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 07:13:31 PM »

เหล้า "บรั่นดีไทย" ที่ว่าเชิดชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย  แต่ดันเอาฝรั่งมาเป็นนางแบบ แต่งชุดไทย
เหรอ..รีเจนซี่แหง..ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย..ผมก็ชักทะแม่งกับนางแบบคนนี้ตั้งนานแล้ว..ช่วงไหล่กว้างมาก..นึกว่ากะเทยควาย
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2005, 09:08:03 PM »

 Grinเอาจากประสบการณ์ชิวิตของผมเลยนะครับ เมื่อสมัยเป้นวัยรุ่นผมเรียกได้ว่าเป็นพวกวัตถุนิยม ไม่ค่อยจะนิยมของไทย ต้องเห่อตามแฟชั่น ไปตามกระแส่นิยม ตามกลุ่มเพือน ๆ แต่พออยู่ปี 3 ได้เข้าไปทำกิจกรรมกับทางมหาลัย(สโมสรนักศึกษา)ก็เปลี่ยนไปอีกอย่างคือไม่ตามแฟชั้นมากเหมือนสมัยก่อนวัตถุนิยมก็ยังมีอยู่บ้าง ยังดูหนังฝรั่งมากกว่าหนังไทย เสื้อผ้าก็ยังต้องของมียี่ห้อ(ของนอก)สูบบุรี่ก็ต้องของนอกแต่ลดราคาลง จบมาแล้วทำงานช่วงแรก ๆ ก็ยังเหมือนเดิม แต่พอผ่านไปสัก 1 ปี ก็เปลี่ยนอีก รู้คุณค่าของเงินมากขึ้นแต่ก็ย้งตามแฟชั่นอยู่บ้าง สุดท้ายตกงานต้องกลับบ้านและทำงานที่ต่างจังหวัด-ปัจจุบันเสื้อผ้า เอาถูก ๆ ไว้ก่อน มีแบบอยากได้ของมียี่ห้อบ้างแต่ต้องคิดก่อนซื้อ มีของอย่างเดียวที่อยากมีและอยากได้คือปืน พอลองมองย้อนไปดูเออนี้ถ้าเราทำตัวแบบปัจจุบันคงมีเงินเหลือซื้อปืนได้หลายกระบอกอยู่แต่ถ้าถามผมว่าเสียใจมั้ยที่เคยทำตัวอย่างนั้นตอบตัวเองว่า "ไม่" ผมถือว่าเป็นบทเรียนหนึงของชีวิต แล้วเดี๋ยวนี้ละมองเด็กวัยรุ่นว่าไง "เออมันก็เป็นเหมือนเรานะสมัยวัยรุ่นยังฟุ้งเฟ้ออยู่เพระยังไม่ได้หาเงินเองอีกหน่อยพอมันโตขึ้นมันก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร" แต่ผมก็แนะนำพวกรุ่นน้องผมแถวๆ  บ้านที่เพิ่งเข้าเรียนมหาลัยโดยเล่าชิวิตให้ผมฟังแต่ไม่บอกเขาว่าอะไรผิดอะไรถูก ให้เขาได้ตัดสินใจที่จะดำเนินชีวิตในวัยรุ่นของเขาด้วยสติและปัญญาของเขาเอง Cheesy
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 21 คำสั่ง