แค่ผิด สปก หรือครับ

มีข้ออื่นหรือไม่
กรมพลังงานผิดไหม
http://www.dmf.go.th/index.php?act=news&sec=viewDetail&id=2648กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ยืนยันไม่มีการลักลอบผลิตปิโตรเลียม
ของบริษัทผู้รับสัมปทาน ในพื้นที่ ส.ป.ก. จังหวัดเพชรบูรณ์
หมวด : ข่าวประชาสัมพันธ์
19 มิถุนายน 2557
จากประเด็นพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ให้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีที่ พันโทรัฐเขต แจ้งจำรัส
กรรมาธิการพลังงานวุฒิสภาร้องทุกข์กล่าวโทษว่า
บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด
ลักลอบขุดเจาะน้ำมันดิบในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร
โดยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557
พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด
เกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
กรมที่ดิน กรมป่าไม้ รวมถึงผู้แทนจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน
ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557
ได้มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้ ผ่านรายการประเด็นเด็ด 7 สี
โดยการสัมภาษณ์ พันโทรัฐเขต แจ้งจำรัส ซึ่งได้ให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวว่า
การลงพื้นที่เป็นการดำเนินการ เพื่อบุกจับการขุดน้ำมันดิบขาย
ซึ่งได้แอบดำเนินการมาแล้ว 5 ปี และมีการหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าภาคหลวง
ส่งผลให้ประเทศสูญเสียรายได้ซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศมากมาย
ข้อมูลนี้คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงเป็นอย่างมาก
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
ของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม ขอชี้แจงเรื่องดังกล่าว ดังนี้
บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (สัญชาติฮ่องกง)
เป็นผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมตามพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514
ที่มีสิทธิในการดำเนินงานในการประกอบกิจการด้านปิโตรเลียมในพื้นที่ผลิตสัมปทานปิโตรเลียม
เลขที่ 3/2546/60 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L44/43 และสัมปทานเลขที่ 5/2546/62
แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L33/43
โดยแหล่งดังกล่าวเคยมีอัตราการผลิตสูงสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2551 คือ 12,500 บาร์เรลต่อวัน
ต่อมาอัตราการผลิตลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบของหลุมในแหล่งส่วนใหญ่
ได้มาจากชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียมที่เป็นหินภูเขาไฟ ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บน้ำมันดิบได้น้อย
รวมถึงการประสบปัญหาในการผลิตน้ำในอัตราสูงจนเป็นเหตุให้ต้องปิดหลุมผลิตบางส่วน
สำหรับกรณีข้อมูลการใช้ประโยชน์ในที่ดินของ ส.ป.ก. มีรายละเอียด คือ เมื่อวันที่
16 ธันวาคม 2552 บริษัทได้รับอนุมัติพื้นที่ผลิตบ่อรังเหนือ จำนวน 39.39 ตารางกิโลเมตร
ซึ่งบางส่วนมีเนื้อที่ประมาณ 43 ไร่ 3 งาน 35 ตารางวา อยู่ในเขตที่ดินของ ส.ป.ก.
ท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยฐานผลิต จำนวน 6 ฐาน ได้แก่
1. พื้นที่ฐาน Borang (บ่อรัง) จำนวน 4 หลุม
2. พื้นที่ฐาน L44-W จำนวน 4 หลุม
3. พื้นที่ฐาน L44 W-A15 จำนวน 2 หลุม
4. พื้นที่ฐาน L44W-A14 จำนวน 1 หลุม
5. พื้นที่ฐาน 2009-A จำนวน 1 หลุม
6. พื้นที่ฐาน L44-V จำนวน 4 หลุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2555 บริษัทฯ
ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตกรรม (ส.ป.ก). ว่า
พื้นที่ผลิตทั้ง 6 ฐาน ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ของ ส.ป.ก. จึงได้หยุดทำการผลิตโดยทันที
และภายหลังจากนั้นได้มีการตรวจสอบจาก ส.ป.ก.
และมีหนังสือที่ พช 0011/1017 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2555 แจ้งว่า
พื้นที่ L44-V ไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน
บริษัทฯ จึงเริ่มผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ L44-V เพียงแหล่งเดียวอีกครั้ง
คือ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ปัจจุบันมีอัตราการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยประมาณ 142 บาร์เรลต่อวัน
(ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2557) ซึ่งในการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557
ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งดังกล่าวด้วย
แต่ในการนำเสนอข้อมูลมิได้นำข้อเท็จจริงจากการลงตรวจสอบพื้นที่มานำเสนอแต่อย่างใด
ดังนั้น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ขอเรียนว่า
ประเด็นที่มีการเผยแพร่ว่ามีการลักลอบผลิตปิโตรเลียม จากฐานผลิต
จำนวน 6 ฐาน มาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี
โดยไม่เสียค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
ข้อมูลประกอบ
ปัจจุบัน บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด
ได้ดำเนินการผลิตปิโตรเลียมในแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L44/43,L33/43
พื้นที่ผลิตนาสนุ่นตะวันออก บ่อรังเหนือ วิเชียรบุรีส่วนขยาย
และ L33 โดยมีจำนวนฐานผลิตทั้งหมด 45 ฐาน จำนวนหลุมผลิต 24 หลุม จากจำนวนหลุมทั้งหมด 110 หลุม
มีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบน้ำมันดิบเฉลี่ย 4,790 บาร์เรลต่อวัน
ปริมาณก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 1.113 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
และปริมาณน้ำที่เกิดจากการผลิตเฉลี่ย 3,583 บาร์เรลต่อวัน (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2557)
19 มิถุนายน 2557
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ