ยาสั่งคืออะไร มีอำนาจทางไสยศาสตร์หรือปฏิกิริยาทางเคมี (MAGICAL-POISON)
ยาสั่งมีอนุภาพจริงหรือไม่ และมีผลต่อผู้ถูกใช้ด้วยอำนาจลึกลับทางไสยศาสตร์ หรือปฏิกิริยาทางเคมีในทางเป็นพิษต่อร่างกาย
ก่อนข้าพเจ้าจะเขียนเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้รับฟังข่าวโจทย์จรรย์กันมาหลายสิบปีแล้วว่า มีมนุษย์บางพวกที่ตั้งตนเป็นอาจารย์ทางไสยศาสตร์ มีอำนาจเอายาไปโรยในอาหารให้ผู้อื่นรับประทาน และเมื่อต้องการจะสั่งให้ผู้นั้นตายด้วยรับประทานอาหารชนิดใดภายหลังผู้นั้นจะตายใน 3 วัน ข้าพเจ้าก็รับฟังหูไว้หู และผู้ที่ถูกสั่งจะแก้ด้วยรากรางจืดฝนกับน้ำซาวข้าวรับประทานจะพ้นอันตราย แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยเห็นผู้ถูกยาสั่งสักคนเดียว ครั้นต่อมาในราวปี พ.ศ.2482 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสสนทนากัยบรรดามิตรสหายที่เป็นนายตำรวจ ซึ่งเคยรับราชการในจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดพัทลุงและภาคตะวันออก เฉพาะที่อำเภอกบิลบุรี จ.ปราจีนบุรี ณ 2 แห่งดังกล่าวเป็นที่นิยมทดลองยาสั่งแก่ผู้แปลกหน้าและรับจ้างฆ่าคนด้วยยาสั่ง โดยเฉพาะบรรดานายตำรวจที่ไปตรวจท้องที่ จะขึ้นไปพักบ้านใดแล้วจะต้องให้เจ้าของบ้านและครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วขณะ โอ่งน้ำ ถ้วยชาม หม้อไหและภาชนะต่างๆ หากจะยืมเจ้าของบ้านใช้ต้องเทล้างทำความสะอาดเสียก่อนจึงจะใช้ได้ ฉะนั้นจะไม่ปลอดภัยจากยาสั่ง และชาวบ้าน2 จังหวัดนี้มีรากรางจืดประจำตัวและครอบครัวทุกครอบครัว เพื่อไว้แก้ยาสั่ง เมื่อข้าพเจ้าได้รับคำบอกเล่าจากผู้ที่เคยพบเหตุการณ์มาแล้ว ข้าพเจ้าเริ่มสนใจว่าเรื่องยาสั่งนี้ต้องเป็นความจริงแน่ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไรแน่ และมีอิทธิพลแก่ผู้ถูกอย่างไร ครั้นต่อมาในปี พ.ศ.2483 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสพบปะสังสรรกับบรรดามิตรสหายของข้าพเจ้าได้ติดตามและสนใจอยู่แล้ว บังเอิญมีผู้แทนราษฎรคนหนึ่งมีญาติเป็นหมอไสยศาสตร์ทางจังหวัดภาคใต้อยู่คนหนึ่ง และญาติของผู้แทนนี้มีความเชี่ยวชาญทางใช้ยาสั่งที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงได้รู้ส่วนผสมของยาสั่งจากผู้แทนผู้นี้ และการแก้ผู้ที่ถูกยาสั่งจากปากคำของผู้แทนฯ ผู้นี้ก็คือ ใช้รากรางจืดฝนน้ำซาวข้าวรับประทานดังที่ทราบมาก่อน
ส่วนผสมของยาสั่งที่ใช้ในจังหวัดภาคใต้ มีดังนี้
1. ใช้หนอนชนิดหนึ่งเกิดในป่าทึบในฤดูฝน หนอนชนิดนี้เรียกชื่อทางภาคใต้ว่า หนอนกล้วยปิ้ง
2. ใช้รากไม้พวกสมุนไพรชนิดหนึ่งขอปิดนาม เพื่อมิให้เป็นอันตรายแก่ผู้อื่น มิฉะนั้นอาจมีบางท่านนำไปทดลอง ข้าพเจ้าอาจต้องรับบาปในภายหลัง
3. ใช้ตัวตะกงหรือกิ้งก่าขนาดใหญ่ ซึ่งมีชุกชุมในป่าจังหวัดภาคใต้
วิธีผสม ให้นำหนอนกล้วยปิ้งและรากไม้มาตากแห้งแล้วบดเป็นผงและจับตัวตะกงเป็นๆ มาขังไว้ หากจะให้ผู้ถูกยาสั่งรับประทานเนื้อวัวตายก็ให้นำเนื้อวัวมาคลุกกับผงยาแล้วให้ตะกงกิน โดยยัดปากตะกงจนเต็มท้อง เมื่อตัวตะกงตายแล้ว ให้นำมาปิ้งไฟจนกรอบแล้วบดเป็นผง ไปโรยในอาหารให้คนกิน เมื่อผู้นั้นรับประทานยาสั่งแล้ว ยาสั่งก็กระจายซึมอยู่ในโนโลหิตของผู้นั้น และยังไม่เกิดปฏิกิริยาแก่ร่างกายอย่างไร แต่หากผู้นั้นรับประทานเนื้อวัวเมื่อใด ยาสั่งนั้นจะเกิดปฏิกิริยาเป็นพิษต่อหัวใจผู้นั้นทันที ผู้นั้นก็จะถึงแก่ความตาย หากจะให้รับประทานอะไรตายก็ใช้สิ่งนั้นเป็นสื่อกลางคลุกยาพิษให้ตัวตะกงกิน เช่นจะให้กินข้าวสุกตายก็ใช้ข้าวสุกคลุกยาพิษให้ตัวตะกงกิน ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ท่านจะเห็นได้ว่าคนโบราณเราก็มีความฉลาดรู้จักปรุงยาที่มีปฏิกิริยาทางเคมีไม่แพ้แพทย์แผนปัจจุบันเลย แต่เป็นที่น่าเสียใจที่ใช้ความฉลาดของตนในทางที่ผิดและเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์
ยาสั่ง
จากหนังสือแว่นส่องจักรวาล ภาค2 ของ พ.ต.อ. ชลอ อุทกภาชน์ ธบ. น.บท.พิมพ์เมื่อ พ.ศ.2512
ตอบได้เหมือนของจริงเลย จังหวัดตรังก็มี ท่านหนองหัวพรานสืบดูให้ดี พี่ชายผมโดนมาแล้ว เมื่อประมาณ สัก20กว่าปี แกเป็นตำรวจชายแดน วางในเหล้า คนโดนยาสั่ง จะไม่รู้ตัวในครั้งแรกถ้าโดน (เพราะสิ่งที่กินเข้าไป ก็คือสิ่งปกติ รสชาติก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาว่างั้น มันเป็นความเก่งของภูมิปัญญา) แต่จะแสดงอาการเมื่อกินของเดิมซ้ำที่หลัง ส่วนมากแล้วที่ทราบข่าวจะเป็นอย่างนี้ คือใส่ในสิ่งใหน เมื่อกินสิ่งนั้นซ้ำ ก็จะแสดงอาการในภายหลัง เพื่อมิให้ผู้โดนวางยารู้ตัว หรือรู้แหล่งที่มา
พี่ชายผมโชคดี ที่เมื่อรู้ตัวแล้วรีบรักษา ได้ทัน