สกอตแลนด์ลงประชามติแยกตัวจากสหราชอาณาจักร ในวันที่ 18 กันยายนนี้

[Yut64]

อย่างนี้ต้องยกเลิกหน่วยสก้อตแลนด์ยาร์ดด้วยหรือเปล่า ต่อไปอังกฤษต้องนำเข้าวิสกี็แล้วซิ
อาจจะผลิกถ้าผ่ายการเมืองไม่โชว์วิสัยทัศน์ให้ชัดเจนกว่านี้

[สุพินท์ - รักในหลวง]

ดีเน๊าะอยากแยกตัวก็ลงประชามติไม่ต้องรบราฆ่าฟันกันอีกฝ่ายก็ไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ถ้าเป็นประเทศอื่นคงรบกันตายเป็นเบือ

การเปรียบเทียบ  ต้องจับคู่ให้มีเงื่อนไขตรงกันด้วย
อังกฤษเป็น "สหรัฐ" คือมีประเทศอิสระหลายประเทศมารวมกัน  การแยกประเทศหนึ่งออกไปจึงเป็นเรื่องที่ทำได้  แต่ถ้าจะมีใครจะแยกเมืองคอนวอลหรือเมืองเคนท์ออกเป็นอิสระจากอังกฤษ ก็ต้องเจอข้อหากบฎเหมือนกัน

อังกฤษ สกอร์ตแลนด์ กับไอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีภาษาของตัวเอง มีวัฒนธรรมของตัวเอง  จนถึงปัจจุบันอังกฤษไม่เคยประกาศว่าภาษาใดเป็นภาษาราชการเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเพราะยังไง ๆ ก็ใช้ภาษาอังกฤษโดยพฤตินัยอยู่แล้ว

ไอร์แลนด์มีสภาพประเทศต่ำกว่าสกอร์ตแลนด์ เพราะไม่ค่อยจะได้มีกษัตริย์ของตัวเอง ฝรั่งเศสบ้าง อังกฤษบ้างแล้วแต่ทางโรมจะกำหนดมา  จนกระทั่งเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษถึงได้ใช้ไม้แข็งแตกหักจากกรุงโรม   ส่วนสกอร์ตแลนด์มีกษัตริย์ของตนเองต่อเนื่องยาวนาน อังกฤษเสียอีกที่ขอ Union Crowns ให้พระเจ้าเจมส์ที่ 6 ของสกอร์ตแลนด์มาเป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ของอังกฤษด้วย และกษัตริย์องค์นี้แหละที่รวมไอร์แลนด์เข้ามาอย่างเป็นทางการ  หลังจากนั้นอีกร้อยปี สกอร์ตแลนด์ถึงได้รวมกับอังกฤษ  นอกจากนั้นราชวงศ์สจ๊วตของสกอร์ตแลนด์ก็เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอังกฤษยาวนานที่สุด

[แปจีหล่อ]

ดีเน๊าะอยากแยกตัวก็ลงประชามติไม่ต้องรบราฆ่าฟันกันอีกฝ่ายก็ไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ถ้าเป็นประเทศอื่นคงรบกันตายเป็นเบือ

การเปรียบเทียบ  ต้องจับคู่ให้มีเงื่อนไขตรงกันด้วย
อังกฤษเป็น "สหรัฐ" คือมีประเทศอิสระหลายประเทศมารวมกัน  การแยกประเทศหนึ่งออกไปจึงเป็นเรื่องที่ทำได้  แต่ถ้าจะมีใครจะแยกเมืองคอนวอลหรือเมืองเคนท์ออกเป็นอิสระจากอังกฤษ ก็ต้องเจอข้อหากบฎเหมือนกัน

อังกฤษ สกอร์ตแลนด์ กับไอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีภาษาของตัวเอง มีวัฒนธรรมของตัวเอง  จนถึงปัจจุบันอังกฤษไม่เคยประกาศว่าภาษาใดเป็นภาษาราชการเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเพราะยังไง ๆ ก็ใช้ภาษาอังกฤษโดยพฤตินัยอยู่แล้ว

ไอร์แลนด์มีสภาพประเทศต่ำกว่าสกอร์ตแลนด์ เพราะไม่ค่อยจะได้มีกษัตริย์ของตัวเอง ฝรั่งเศสบ้าง อังกฤษบ้างแล้วแต่ทางโรมจะกำหนดมา  จนกระทั่งเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษถึงได้ใช้ไม้แข็งแตกหักจากกรุงโรม   ส่วนสกอร์ตแลนด์มีกษัตริย์ของตนเองต่อเนื่องยาวนาน อังกฤษเสียอีกที่ขอ Union Crowns ให้พระเจ้าเจมส์ที่ 6 ของสกอร์ตแลนด์มาเป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ของอังกฤษด้วย และกษัตริย์องค์นี้แหละที่รวมไอร์แลนด์เข้ามาอย่างเป็นทางการ  หลังจากนั้นอีกร้อยปี สกอร์ตแลนด์ถึงได้รวมกับอังกฤษ  นอกจากนั้นราชวงศ์สจ๊วตของสกอร์ตแลนด์ก็เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอังกฤษยาวนานที่สุด

ขอบคุณครับ ทีแรกผมเข้าใจว่าสก๊อตแลนด์เป็นรัฐหนึ่งของอังกฤษแบบพม่ามีรัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยงครับ
ขอถามต่ออีกซักสองเรื่องนะครับทำไมคนอังกฤษถึงยอมรับราชวงศ์สจ๊วตของสก๊อตแลนด์ให้ปกครองอังกฤษละครับ
กับอีกเรื่อง ทำไมกรุงโรมจึงสามารถกำหนดได้ว่าใครจะเป็นกษัตริย์ให้กับไอแลนด์ได้ครับ

[สุพินท์ - รักในหลวง]

คือคนอังกฤษในปัจจุบัน ที่จริงแล้วเป็นชาวเยอรมันตอนเหนือ คือพวกแองโกลกับพวกแซกซอน (ปัจจุบันในเยอรมันก็ยังมีแคว้นแซกซอนกับโลเวอร์แซกซอน) อยู่แถว ๆ ที่เป็นประเทศเดนมาร์กในปัจจุบัน  และ 2 พวกนี้มีภาษาของตัวเอง แต่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางติดต่อกัน  แล้วต่อมาก็อพยพมาอยู่ที่อังกฤษ  จนกระทั่งพวกโรมันเข้ามาปกครองอังกฤษ และโรมันเสื่อมลง พวกแองโกลแซกซอนจึงได้เข้าปกครองอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นสกอร์ตแลนด์กับไอร์แลนด์เขาก็ตั้งถิ่นฐานกันอยู่ก่อนแล้ว

กษัตริย์ในระยะแรกก็มีทั้งแซกซอน เดนมาร์ก และยังมีพวกนอร์มันด์ที่ข้ามมารุกรานจากยุโรปเหนือ  จนกระทั่งภายในอังกฤษเข้มแข็งขึ้นจึงปกครองตัวเองได้มั่นคง  แต่ก็เกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ จึงได้นำกษัตริย์จากสกอร์ตแลนด์เข้ามาเป็นกษัตริย์ของอังกฤษเพื่อไม่ให้ตระกูลใดตระกูลหนึ่งของอังกฤษมีอำนาจมากเกินไป

ศาสนจักรเข้ามาครอบงำอาณาจักรโดยใช้สติปัญญาของพวกพระซึ่งมีสูงกว่ากษัตริย์ซึ่งเป็นพวกนักรบ  กำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นครองบัลลังก์ และต้องให้สันตะปาปาสวมมงกุฎให้ โดยศาสนจักรได้ผลประโยชน์จากได้สิทธิเก็บค่าเช่าที่ดิน   จนเขาทนกันไม่ไหว ทางเยอรมันแยกตัวออกเป็นนิกายโปรแตสแตนท์  และเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษก็ทำคล้าย ๆ กัน แต่อังกฤษเรียกของตัวเองว่านิกายแองกลิอัน  แต่สรุปก็คือไม่ต้องฟังทางกรุงโรม

อังกฤษถึงกับแก้กฎมณเทียรบาล ห้ามคาธอลิกเป็นกษัตริย์อังกฤษ  ซึ่งมาเกิดปัญหาเอาในสมัยควีนแอนน์ กษัตริย์ราชวงศ์สจ๊วตองค์สุดท้ายใน ค.ศ.1714 ที่รวมสกอร์ตแลนด์เข้ากับอังกฤษนี่แหละ  ปรากฏว่าทายาทของพระองค์เป็นคาธอลิก  ขึ้นครองบัลลังก์ไม่ได้  ต้องไปเอากษัตริย์ราชวงศ์แฮนโอเวอร์ของเยอรมันมาเป็นกษัตริย์อังกฤษจนถึงปัจจุบัน

มีการเปลี่ยนชื่อราชวงศ์ 2 ครั้ง  แต่จริง ๆ แล้วเป็นการสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์แฮนโอเวอร์ทั้งหมด  ราชวงศ์แฮนโอเวอร์มี 6 รัชกาล องค์สุดท้ายคือควีนวิคตอเรีย (ฉายาสมเด็จย่าของยุโรป เพราะลูกหลานปกครองยุโรปเต็มไปหมด) ที่ตราเหรียญกล้าหาญวิคตอเรียครอสนั่นแหละ  ควีนวิคตอเรียไปแต่งงานกับเจ้าชายในราชวงศ์แซก-โคเบิร์กของเยอรมัน  คิงเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ลูกของควีนวิคตอเรียจึงต้องเป็นราชวงศ์แซก-โคเบิร์กตามพ่อ  แต่ก็ใช้ชื่อนี้ได้แค่ 2 รัชกาล ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1  อังกฤษรบกับเยอรมัน  ราชวงศ์อังกฤษจึงต้องตัดความสัมพันธ์กับเยอรมัน  เมืองแซก-โคเบิร์กตั้งกษัตริย์ของตัวเองขึ้นใหม่  ส่วนทางอังกฤษก็เปลี่ยนชื่อเป็นราชวงศวินเซอร์มาจนถึงทุกวันนี้

[สีอำพัน-รักในหลวง]

มาเก็บความรู้ ขอบคุณครับ

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

55555  เช้ามืด  ของพรุ่งนี้  ( ตีสาม ตีสี่ ของคืนนี้ )  อ่ะครัช  ฮา   

เราจะได้  รู้ผล  ว่า   " แยก หรือ  ไม่แยก " อ่ะ ฮา

แล้วถ้าแยกสำเร็จ  มันจะส่งผล  ไปกระทบ  " ภูมิภาคไหน " ในโลกบ้าง อ่ะ ฮา
เพราะกระแส  เรียกร้อง  การบริหาร  " ปกครองตนเอง "  มันระบาด  สูงมาก อ่ะ ฮา


555555   รอดูการเปลี่ยนแปลง  " ครั้งสำคัญ "  ของโลก อ่ะ ฮา   

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

5555  ดูเหมือนว่า  " จีน "  เขาไม่ค่อย แฮปปี้  กับที่การ สก๊อต จะแยก ประเทศ อ่ะ ฮา 555

เพราะเขาแสดง  " ความเห็น " กึ่งๆ  บอกว่า  ไม่รอด อ่ะ ฮา

ยายก็กลับมาดูเหตุผล  ว่า " ทำมัย "  เขาแสดงความเห็นอย่างนั้น อ่ะ ฮา
เพราะเป็นเรื่อง  " กิจการภายใน " ของอังกฤษ  อ่ะ ฮา

มาร้อง  อ๋อ  ตรงมันเป็น  "ปัญหา เดียวกัน "  กับเรื่องของจีน อ่ะ ฮา

" อุย์กรู  ซินเกียง  ธิเบต  ฮ่องกง  ไต้หวัน " กำลังเป็น  หนามยอกอก เขาเหมือนกัน อ่ะ ฮา 

5555 ถึงขนาดขู่  จะใช้กำลัง  " ทางทหาร " เข้าจัดการ เชียวอ่ะ ฮา 555555

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

55555  คะแนน  แยก  ไม่แยก  ยัง  " สูสี "  กันอ่ะ ฮา

เหมือน  ม้าแข่ง  วิ่งออกจากโค้งวัดเบญจ  แย่งกัน ควบ  " เข้าวิน " อ่ะ ฮา

5555  บีบีซี  เขาเอาเหตุการณ์  มาให้เราอ่านกัน อ่ะ ฮา   


https://www.facebook.com/BBCThai/photos/a.1527194487501586.1073741828.1526071940947174/1558646724356362/?type=1&theater

บีบีซีไทย - BBC Thai
6 hours ago · Edited
ตลาดเงินตลาดทุนจับตาผลลงประชามติ

อีกไม่กี่ชั่วโมงชาวสกอตจะออกไปใช้สิทธิกำหนดก็จะเริ่มหย่อนบัตรลงประชามติกันแล้ว
ในเวลาเดียวกันความเคลื่อนไหวของตลาดเงินตลาดทุนในระยะนี้
เป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นมาตรวัดที่จับต้องมองเห็นได้รวดเร็วและชัดเจน

อย่างค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมาก
เมื่อโพลชี้ว่าฝ่ายที่หนุนให้สกอตแลนด์เป็นเอกราชอาจแพ้
ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ต่อเงินสกุลอื่นกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย
และส่งผลในทางตรงกันข้ามเมื่อโพลออกมาให้อีกฝ่ายมีคะแนนนำ

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่โพลบอกก็คือ การลงประชามติหนนี้คะแนนจะออกมาสูสี
จึงเป็นผลให้ดัชนีวัดความเสี่ยง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Volatility Index ขึ้นไปเกือบ 20% เมื่อวานนี้
ดัชนีความเสี่ยงตัวนี้เป็นอีกดัชนีที่นักลงทุนจับจ้องไม่แพ้ดัชนีอื่น ๆ
นั่นก็เพราะดัชนีความเสี่ยงก็คือดัชนีความกลัวนั่นเอง ยิ่งดัชนีสูงก็แปลว่านักลงทุนยิ่งไม่มั่นใจและยิ่งกลัว

นายธนาคารบางคนบอกกับบีบีซีไทยว่า
"เพราะไม่ว่าผลลัพธ์จากการลงประชามติหนนี้จะออกมา 'เยส' หรือ 'โน'
ผลกระทบต่อการลงทุนไม่น้อยแน่

ถ้า 'เยส' พวกเขาก็ต้องจับตาดูว่าจะเกิดภาวะลูกค้าในสกอตแลนด์แห่กันถอนเงินฝากออกหรือไม่
ผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลกจะรุนแรงทันที เพราะธุรกรรมแบงกิ้งในปัจจุบันเกี่ยวโยงกันไปหมด
และหากฝ่าย 'โน' ชนะ สิ่งที่รัฐบาลอังกฤษในกรุงลอนดอนไปสัญญาไว้กับชาวสกอต
เพื่อให้พวกเขาโหวตให้อยู่ร่วมกันต่อไป อาจจะเป็นหอกทิ่มแทงทั้งเศรษฐกิจ
และการเมืองต่ออังกฤษเองในระยะยาวได้ ซึ่งก็จะมีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนในระยะยาวของบริษัทหลายแห่ง"

อดัม ไมเยอร์ส จากธนาคารเครดิต อะกริโคล บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า
ผลกระทบด้านอัตราแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้นทันที
หากฝ่ายที่สนับสนุนให้สกอตแลนด์เป็นเอกราชชนะ

ค่าเงินปอนด์อาจจะตกได้มากถึงสิบเปอร์เซนต์
แต่หากอีกค่ายชนะ เงินปอนด์จะวิ่งกลับไปที่ 1.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์
(จากอัตราปิดตลาดเมื่อวานที่ 1.63 ดอลลาร์/ปอนด์)

จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมการลงประชามติหนนี้
จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองภายในของอังกฤษเท่านั้น
แต่เป็นสิ่งที่หลายประเทศทั่วโลกอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียไปพร้อม ๆ กับชาวสกอตและชาวอังกฤษ

[แปจีหล่อ]

คือคนอังกฤษในปัจจุบัน ที่จริงแล้วเป็นชาวเยอรมันตอนเหนือ คือพวกแองโกลกับพวกแซกซอน (ปัจจุบันในเยอรมันก็ยังมีแคว้นแซกซอนกับโลเวอร์แซกซอน) อยู่แถว ๆ ที่เป็นประเทศเดนมาร์กในปัจจุบัน  และ 2 พวกนี้มีภาษาของตัวเอง แต่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางติดต่อกัน  แล้วต่อมาก็อพยพมาอยู่ที่อังกฤษ  จนกระทั่งพวกโรมันเข้ามาปกครองอังกฤษ และโรมันเสื่อมลง พวกแองโกลแซกซอนจึงได้เข้าปกครองอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นสกอร์ตแลนด์กับไอร์แลนด์เขาก็ตั้งถิ่นฐานกันอยู่ก่อนแล้ว

กษัตริย์ในระยะแรกก็มีทั้งแซกซอน เดนมาร์ก และยังมีพวกนอร์มันด์ที่ข้ามมารุกรานจากยุโรปเหนือ  จนกระทั่งภายในอังกฤษเข้มแข็งขึ้นจึงปกครองตัวเองได้มั่นคง  แต่ก็เกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ จึงได้นำกษัตริย์จากสกอร์ตแลนด์เข้ามาเป็นกษัตริย์ของอังกฤษเพื่อไม่ให้ตระกูลใดตระกูลหนึ่งของอังกฤษมีอำนาจมากเกินไป

ศาสนจักรเข้ามาครอบงำอาณาจักรโดยใช้สติปัญญาของพวกพระซึ่งมีสูงกว่ากษัตริย์ซึ่งเป็นพวกนักรบ  กำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นครองบัลลังก์ และต้องให้สันตะปาปาสวมมงกุฎให้ โดยศาสนจักรได้ผลประโยชน์จากได้สิทธิเก็บค่าเช่าที่ดิน   จนเขาทนกันไม่ไหว ทางเยอรมันแยกตัวออกเป็นนิกายโปรแตสแตนท์  และเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษก็ทำคล้าย ๆ กัน แต่อังกฤษเรียกของตัวเองว่านิกายแองกลิอัน  แต่สรุปก็คือไม่ต้องฟังทางกรุงโรม

อังกฤษถึงกับแก้กฎมณเทียรบาล ห้ามคาธอลิกเป็นกษัตริย์อังกฤษ  ซึ่งมาเกิดปัญหาเอาในสมัยควีนแอนน์ กษัตริย์ราชวงศ์สจ๊วตองค์สุดท้ายใน ค.ศ.1714 ที่รวมสกอร์ตแลนด์เข้ากับอังกฤษนี่แหละ  ปรากฏว่าทายาทของพระองค์เป็นคาธอลิก  ขึ้นครองบัลลังก์ไม่ได้  ต้องไปเอากษัตริย์ราชวงศ์แฮนโอเวอร์ของเยอรมันมาเป็นกษัตริย์อังกฤษจนถึงปัจจุบัน

มีการเปลี่ยนชื่อราชวงศ์ 2 ครั้ง  แต่จริง ๆ แล้วเป็นการสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์แฮนโอเวอร์ทั้งหมด  ราชวงศ์แฮนโอเวอร์มี 6 รัชกาล องค์สุดท้ายคือควีนวิคตอเรีย (ฉายาสมเด็จย่าของยุโรป เพราะลูกหลานปกครองยุโรปเต็มไปหมด) ที่ตราเหรียญกล้าหาญวิคตอเรียครอสนั่นแหละ  ควีนวิคตอเรียไปแต่งงานกับเจ้าชายในราชวงศ์แซก-โคเบิร์กของเยอรมัน  คิงเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ลูกของควีนวิคตอเรียจึงต้องเป็นราชวงศ์แซก-โคเบิร์กตามพ่อ  แต่ก็ใช้ชื่อนี้ได้แค่ 2 รัชกาล ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1  อังกฤษรบกับเยอรมัน  ราชวงศ์อังกฤษจึงต้องตัดความสัมพันธ์กับเยอรมัน  เมืองแซก-โคเบิร์กตั้งกษัตริย์ของตัวเองขึ้นใหม่  ส่วนทางอังกฤษก็เปลี่ยนชื่อเป็นราชวงศวินเซอร์มาจนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณท่านผู้การครับ

[Hang Forever]

55555  เช้ามืด  ของพรุ่งนี้  ( ตีสาม ตีสี่ ของคืนนี้ )  อ่ะครัช  ฮา   

เราจะได้  รู้ผล  ว่า   " แยก หรือ  ไม่แยก " อ่ะ ฮา

แล้วถ้าแยกสำเร็จ  มันจะส่งผล  ไปกระทบ  " ภูมิภาคไหน " ในโลกบ้าง อ่ะ ฮา
เพราะกระแส  เรียกร้อง  การบริหาร  " ปกครองตนเอง "  มันระบาด  สูงมาก อ่ะ ฮา


555555   รอดูการเปลี่ยนแปลง  " ครั้งสำคัญ "  ของโลก อ่ะ ฮา   

ยายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอสักทีได้ไหมยาย
ไอ้ อะ ครัช นี่มันเคืองสายศิลป์-ภาษา นะยาย
จะครับก็ครับ จะค่ะก็ค่ะ..... อะ ครัช อ่ะ ครัช ..เป็นอีตุ๊ด ไปได้ ฮึ

[เบิ้ม]

คือคนอังกฤษในปัจจุบัน ที่จริงแล้วเป็นชาวเยอรมันตอนเหนือ คือพวกแองโกลกับพวกแซกซอน (ปัจจุบันในเยอรมันก็ยังมีแคว้นแซกซอนกับโลเวอร์แซกซอน) อยู่แถว ๆ ที่เป็นประเทศเดนมาร์กในปัจจุบัน  และ 2 พวกนี้มีภาษาของตัวเอง แต่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางติดต่อกัน  แล้วต่อมาก็อพยพมาอยู่ที่อังกฤษ  จนกระทั่งพวกโรมันเข้ามาปกครองอังกฤษ และโรมันเสื่อมลง พวกแองโกลแซกซอนจึงได้เข้าปกครองอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นสกอร์ตแลนด์กับไอร์แลนด์เขาก็ตั้งถิ่นฐานกันอยู่ก่อนแล้ว

กษัตริย์ในระยะแรกก็มีทั้งแซกซอน เดนมาร์ก และยังมีพวกนอร์มันด์ที่ข้ามมารุกรานจากยุโรปเหนือ  จนกระทั่งภายในอังกฤษเข้มแข็งขึ้นจึงปกครองตัวเองได้มั่นคง  แต่ก็เกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ จึงได้นำกษัตริย์จากสกอร์ตแลนด์เข้ามาเป็นกษัตริย์ของอังกฤษเพื่อไม่ให้ตระกูลใดตระกูลหนึ่งของอังกฤษมีอำนาจมากเกินไป

ศาสนจักรเข้ามาครอบงำอาณาจักรโดยใช้สติปัญญาของพวกพระซึ่งมีสูงกว่ากษัตริย์ซึ่งเป็นพวกนักรบ  กำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นครองบัลลังก์ และต้องให้สันตะปาปาสวมมงกุฎให้ โดยศาสนจักรได้ผลประโยชน์จากได้สิทธิเก็บค่าเช่าที่ดิน   จนเขาทนกันไม่ไหว ทางเยอรมันแยกตัวออกเป็นนิกายโปรแตสแตนท์  และเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษก็ทำคล้าย ๆ กัน แต่อังกฤษเรียกของตัวเองว่านิกายแองกลิอัน  แต่สรุปก็คือไม่ต้องฟังทางกรุงโรม

อังกฤษถึงกับแก้กฎมณเทียรบาล ห้ามคาธอลิกเป็นกษัตริย์อังกฤษ  ซึ่งมาเกิดปัญหาเอาในสมัยควีนแอนน์ กษัตริย์ราชวงศ์สจ๊วตองค์สุดท้ายใน ค.ศ.1714 ที่รวมสกอร์ตแลนด์เข้ากับอังกฤษนี่แหละ  ปรากฏว่าทายาทของพระองค์เป็นคาธอลิก  ขึ้นครองบัลลังก์ไม่ได้  ต้องไปเอากษัตริย์ราชวงศ์แฮนโอเวอร์ของเยอรมันมาเป็นกษัตริย์อังกฤษจนถึงปัจจุบัน

มีการเปลี่ยนชื่อราชวงศ์ 2 ครั้ง  แต่จริง ๆ แล้วเป็นการสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์แฮนโอเวอร์ทั้งหมด  ราชวงศ์แฮนโอเวอร์มี 6 รัชกาล องค์สุดท้ายคือควีนวิคตอเรีย (ฉายาสมเด็จย่าของยุโรป เพราะลูกหลานปกครองยุโรปเต็มไปหมด) ที่ตราเหรียญกล้าหาญวิคตอเรียครอสนั่นแหละ  ควีนวิคตอเรียไปแต่งงานกับเจ้าชายในราชวงศ์แซก-โคเบิร์กของเยอรมัน  คิงเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ลูกของควีนวิคตอเรียจึงต้องเป็นราชวงศ์แซก-โคเบิร์กตามพ่อ  แต่ก็ใช้ชื่อนี้ได้แค่ 2 รัชกาล ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1  อังกฤษรบกับเยอรมัน  ราชวงศ์อังกฤษจึงต้องตัดความสัมพันธ์กับเยอรมัน  เมืองแซก-โคเบิร์กตั้งกษัตริย์ของตัวเองขึ้นใหม่  ส่วนทางอังกฤษก็เปลี่ยนชื่อเป็นราชวงศวินเซอร์มาจนถึงทุกวันนี้

      ขอบคุณความรู้ครับท่านผู้การสุพินท์  + + +

[R2D2]

-คนสก๊อตต์..นี่แปลก ชอบใส่กระโปรง
-คนไอร์แลนด์..ล่ะครับ..เป็นพวกไหน ?..ทำไมไม่เก่งเหมือนคนอังกฤษ และสก๊อตต์

[Hang Forever]

โห  พวกไอร์แลนด์เทียวฆ่าพวกอังกฤษอยู่เรื่อยๆนะท่าน

[สุพินท์ - รักในหลวง]

-คนสก๊อตต์..นี่แปลก ชอบใส่กระโปรง
-คนไอร์แลนด์..ล่ะครับ..เป็นพวกไหน ?..ทำไมไม่เก่งเหมือนคนอังกฤษ และสก๊อตต์

เป็นคนพื้นถิ่นดั้งเดิมครับ
แต่ก็เก่ง ๆ เยอะนะ  อย่างเช่นบอยล์ คนคิดกฎเรื่องความดันที่นักดำน้ำทุกคนต้องศึกษาให้ดี, เบอร์นาด ชอว์ ก็คนไอริช  เพียซ บรอสแนน ก็ไอริช, พวกเคเนดี ก็เป็นไอริช   ปัจจัยหนึ่งอาจจะอพยพไปอยู่อเมริกากันมาก ประมาณว่ามีคนไอริชอยู่ในอเมริการาวยี่สิบล้านคน อยู่ในไอร์แลนด์แค่สี่ล้าน

ไอร์แลนด์เหนือมีความขัดแย้งกับอังกฤษรุนแรง เพราะความแตกต่างเรื่องศาสนา  อังกฤษเองก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะมีคนอังกฤษที่เป็นโปรแตสแตนท์เข้าไปอยู่อาศัยในไอร์แลนด์เหนือมาก  ถ้าปล่อยให้ไปรวมกับประเทศไอร์แลนด์ คนอังกฤษในไอร์แลนด์เหนืออาจจะกลายเป็นผู้ก่อการร้ายแทนไออาร์เอ

สกอร์ตแลนด์  ไอร์แลนด์เหนือ กับเวลล์ เขามีรัฐสภา  มีรัฐบาลของตัวเอง มีรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ด้วย แล้วก็มีหัวหน้ารัฐมนตรี แต่ไม่เรียกนายกรัฐมนตรี  เรียกว่าเฟิร์สมินิสเตอร์

ตรงนี้คล้าย ๆ กับอินเดีย  ตรงที่อินเดียมี 29 รัฐ ทุกรัฐมีรัฐธรรมนูญ มีรัฐสภาของตัวเอง มีรัฐบาล มีรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ  แต่เรียก หน.รัฐบาลว่าชีฟท์มินิสเตอร์  แต่ละรัฐมีภาษาของตัวเอง  และมีภาษากลางที่รัฐธรรมนูญรับรองมากถึง 15 ภาษา  ถ้าสกอร์ตแลนด์แยกตัวออกจากอังกฤษ อินเดียก็มีสิทธิแยกออกเป็นยี่สิบกว่าประเทศได้

[R2D2]

ขอบคุณครับท่านผู้การ