เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« เมื่อ: ธันวาคม 01, 2014, 10:34:19 PM » |
|
ข่าวว่า62-63เหรียญละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 10195
ออฟไลน์
กระทู้: 47057
M85.ss
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2014, 10:53:22 PM » |
|
ข่าวว่า62-63เหรียญละครับ
ฟ้าเริ่มสูงน้ำมันเลยต่ำไงเสี่ย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2014, 11:51:45 PM » |
|
ข่าวว่า62-63เหรียญละครับ
ฟ้าเริ่มสูงน้ำมันเลยต่ำไงเสี่ย  เอ.....ตอนน้ำมัน100กว่าเหรียญ ผมว่าเบนซินบ้านเรามันก็40นี่น่า.....ตอนนี้เท่าไหร่ละครับพี่จอย  +
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
seiya-รักในหลวง
"ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 206
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1134
to make a friend, be a friend...
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2014, 11:54:06 PM » |
|
กองทุนน้ำมันทั่วโลก ท่าจะป่วนหนักเลยละครับ ... แม้แต่กองทุนรวมน้ำมันในไทยยังหายไปเป็นสิบเปอร์เซนต์เลย ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2014, 11:57:07 PM » |
|
กองทุนน้ำมันทั่วโลก ท่าจะป่วนหนักเลยละครับ ... แม้แต่กองทุนรวมน้ำมันในไทยยังหายไปเป็นสิบเปอร์เซนต์เลย ..
+ครับท่านseiya-รักในหลวง น้ำมันลงแปลกมากครับ โอเปคก็ไม่ยอมลดกำลังผลิตด้วย รึเค้าเล่นไรกะพี่หมีรัสเซีย รายได้หลักของพี่หมีมาจากน้ำมันและก๊าซ  วันก่อนประชุมG8รึไรเนี่ย รุมด่าว่า พี่ปูตินบินกลับเลย ไม่ประชุมด้วยละ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 48212
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 12:15:20 AM » |
|
จีนและรัสเซียมีปริมาณทองคำสำรองมากกว่าอเมริกาแล้ว ถ้าอเมริกามีทองไม่พอค้ำประกันให้พิมพ์ดอลล่าร์ได้ อเมริกันดอลล่าร์ก็เสี่ยงต่อการมีค่าใกล้กระดาษชำระ เหล่าเกจิเขาว่า มันเป็นสัญญาญก่อสงคราม คือเมื่อใดที่ชาติมหาอำนาจเริ่มสะสมทองคำไว้ในสต็อคมาก มาก มาก จนถึงจุดๆหนึ่ง หมายถึงเขาเตรียมพร้อมเพื่อการมีสงคราม ตอนนี้สองชาติ จีนกับรัสเซีย ดูเหมือนจะจับมือกันเพื่อ บีบ บีบ ให้อเมริกาของโอบาม่า หน้าเขียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 12:20:07 AM » |
|
จีนและรัสเซียมีปริมาณทองคำสำรองมากกว่าอเมริกาแล้ว ถ้าอเมริกามีทองไม่พอค้ำประกันให้พิมพ์ดอลล่าร์ได้ อเมริกันดอลล่าร์ก็เสี่ยงต่อการมีค่าใกล้กระดาษชำระ เหล่าเกจิเขาว่า มันเป็นสัญญาญก่อสงคราม คือเมื่อใดที่ชาติมหาอำนาจเริ่มสะสมทองคำไว้ในสต็อคมาก มาก มาก จนถึงจุดๆหนึ่ง หมายถึงเขาเตรียมพร้อมเพื่อการมีสงคราม ตอนนี้สองชาติ จีนกับรัสเซีย ดูเหมือนจะจับมือกันเพื่อ บีบ บีบ ให้อเมริกาของโอบาม่า หน้าเขียว
 +ครับพี่ดุลย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 01:02:48 AM » |
|
วันนี้ไม่หลอนแบบวันก่อนละ เวปโดนแฮคมันบวก4พันภายในครึ่งชั่วโมง คืนนี้มัน+เกือบ500ครับ ใกล้ได้ลงดอยละเรา อย่ารีบเหี่ยวล่ะ  
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 07:32:44 AM » |
|
จีนและรัสเซียมีปริมาณทองคำสำรองมากกว่าอเมริกาแล้ว ถ้าอเมริกามีทองไม่พอค้ำประกันให้พิมพ์ดอลล่าร์ได้ อเมริกันดอลล่าร์ก็เสี่ยงต่อการมีค่าใกล้กระดาษชำระ เหล่าเกจิเขาว่า มันเป็นสัญญาญก่อสงคราม คือเมื่อใดที่ชาติมหาอำนาจเริ่มสะสมทองคำไว้ในสต็อคมาก มาก มาก จนถึงจุดๆหนึ่ง หมายถึงเขาเตรียมพร้อมเพื่อการมีสงคราม ตอนนี้สองชาติ จีนกับรัสเซีย ดูเหมือนจะจับมือกันเพื่อ บีบ บีบ ให้อเมริกาของโอบาม่า หน้าเขียว
อเมริกาไม่ได้ใช้ทองคำหรือเงินต่างประเทศเป็นทุนสำรองสำหรับการพิมพ์ธนบัตรเหมือนกับประเทศอื่นครับ แต่ค่าเงินมั่นคงเพราะกำลังผลิต กับกำลังซื้อภายในประเทศของเขาสูงมาก เหมือนกับเป็นการค้ำประกันไปในตัว นอกจากนั้น ประเทศอื่นยังนิยมใช้เงินสหรัฐเป็นทุนสำรอง การแลกเปลี่ยนเงิน ก็ยังใช้วิธีเทียบกับเงินสหรัฐ สมัยก่อน ผมยังจำได้ว่าเวลาจะไปต่างประเทศ ต้องซื้อ US D ไปแลกเงินท้องถิ่น แต่ปัจจุบันเราแลกกันตรง ๆ ได้ในเมืองไทย แต่ธนาคารหรือร้านแลกเงินก็ยังต้องใช้วิธีเทียบค่าเงินกับเงินสกุลหลักอยู่ดี ขนาดผู้ก่อการร้ายที่เกลียดอเมริกา แต่ก็ต้องใช้เงินอเมริกันเป็นทุนในการก่อการร้าย เพราะซื้อง่ายขายคล่อง ตามรอยยากกว่าเงินสกุลอื่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6127
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 55373
Let us go..!
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 08:03:53 AM » |
|
เหมือนอาจารย์ว่าครับ อเมริกาไม่ต้องใช้ทองคำสำรองในการผลิตดอลล่าห์ ตะกร้าเงินเขาใหญ่มากๆ ทั่วโลกต่างใช้เงินดอลล่าห์เป็นเงินทุนสำรอง
เรื่องนี้สืบสาวได้จาก ช่วงหลังสงครามโลกทั้งครั้งที่ 2 ตอนนั้นเศรษฐกิจตกต่ำมาก แบบที่เรียกว่าต้นกำเนิดของเสื้อเอวลอย เพราะผ้าขาดแคลน หลายประเทศต้องหาเงินเพื่อไปใช้ในสงคราม ซึ่งญี่ปุ่นที่มาบ้านเราขณะนั้น เกิดแนวคิด นึกพิมพ์เงินใช้เอง โดยไม่มีทองคำสำรอง ทำให้เกิดเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก แต่ประเทศอื่น ไม่ได้ทำตาม เพียงแต่ต้องหาข้อตกลงกันว่า เงินที่ใช้ มากมายจะเอาทองคำที่ไหนมาหนุนหลัง
เลยเกิดข้อตกลงเบรตตันวู้ดส์ (Bretton Woods) เมื่อปี 1944 ประเทศต่างๆ(ขออภัยจำไม่ได้ว่าประเทศไหนบ้าง) ตกลงกันว่าจะ ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "คงที่" โดยหันมาใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นทุนสำรองแทนทองคำ
โดยที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะตั้งไว้ผูกค่าไว้กับทองคำอีกชั้นหนึ่ง ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะลดปัญหาการขาดแคลนทองคำ แทนที่ทุกคน จะถือทองกันหมด ก็ให้มาถือดอลลาร์สำรองไว้แทนบ้าง
แต่พอปี 1971 ปลายสงครามเวียตนาม เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในภาวะย่ำแย่มาก ปัญหาการขาดดุลการชำระเงินทวีความรุนแรง ทุนสำรองของประเทศลดลงเรื่อยๆ เงินดอลลาร์ก็ไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีสงครามเวียตนามเป็นสาเหตุหลัก อเมริกาเป็นหนี้มากมาย สุดท้ายประเทศต่าง ๆ ก็ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระบบอัตราแลกเปลี่ยน"คงที่" จึงล่มไป โดย ที่โลกหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "ลอยตัว" แทนในปี 1973 และจากนั้นไม่นาน อเมริกาก็ถอนทหารออกจากเวียตนาม
การหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวนั้น ไม่ได้หมายความว่าความสำคัญของทองคำในฐานะทุนสำรองโลกจะลดลงเลย ทีเดียว เพราะไม่ว่าธนาคารกลางของชาติไหน ๆ นั้นเขาก็กำหนดไว้ว่าการจะพิมพ์ธนบัตรออกใช้นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีสินทรัพย์มา หนุนหลังเป็นทุนสำรอง และในนั้นต้องมีส่วนหนึ่งเป็นทองคำด้วย แต่การคิดอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ คิดตามดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจจริงๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 02, 2014, 11:21:40 AM โดย submachine -รักในหลวง- »
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ
Thanut Wansuk
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 48212
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 08:47:20 AM » |
|
จีนและรัสเซียมีปริมาณทองคำสำรองมากกว่าอเมริกาแล้ว ถ้าอเมริกามีทองไม่พอค้ำประกันให้พิมพ์ดอลล่าร์ได้ อเมริกันดอลล่าร์ก็เสี่ยงต่อการมีค่าใกล้กระดาษชำระ เหล่าเกจิเขาว่า มันเป็นสัญญาญก่อสงคราม คือเมื่อใดที่ชาติมหาอำนาจเริ่มสะสมทองคำไว้ในสต็อคมาก มาก มาก จนถึงจุดๆหนึ่ง หมายถึงเขาเตรียมพร้อมเพื่อการมีสงคราม ตอนนี้สองชาติ จีนกับรัสเซีย ดูเหมือนจะจับมือกันเพื่อ บีบ บีบ ให้อเมริกาของโอบาม่า หน้าเขียว
อเมริกาไม่ได้ใช้ทองคำหรือเงินต่างประเทศเป็นทุนสำรองสำหรับการพิมพ์ธนบัตรเหมือนกับประเทศอื่นครับ แต่ค่าเงินมั่นคงเพราะกำลังผลิต กับกำลังซื้อภายในประเทศของเขาสูงมาก เหมือนกับเป็นการค้ำประกันไปในตัว นอกจากนั้น ประเทศอื่นยังนิยมใช้เงินสหรัฐเป็นทุนสำรอง การแลกเปลี่ยนเงิน ก็ยังใช้วิธีเทียบกับเงินสหรัฐ สมัยก่อน ผมยังจำได้ว่าเวลาจะไปต่างประเทศ ต้องซื้อ US D ไปแลกเงินท้องถิ่น แต่ปัจจุบันเราแลกกันตรง ๆ ได้ในเมืองไทย แต่ธนาคารหรือร้านแลกเงินก็ยังต้องใช้วิธีเทียบค่าเงินกับเงินสกุลหลักอยู่ดี ขนาดผู้ก่อการร้ายที่เกลียดอเมริกา แต่ก็ต้องใช้เงินอเมริกันเป็นทุนในการก่อการร้าย เพราะซื้อง่ายขายคล่อง ตามรอยยากกว่าเงินสกุลอื่น ขอบคุณครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 48212
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 08:49:27 AM » |
|
เหมือนอาจารย์ว่าครับ อเมริกาไม่ต้องใช้ทองคำสำรองในการผลิตดอลล่าห์ ตะกร้าเงินเขาใหญ่มากๆ ทั่วโลกต่างใช้เงินดอลล่าห์เป็นเงินทุนสำรอง
เรื่องนี้สืบสาวได้จาก ช่วงหลังสงครามโลกทั้งครั้งที่ 2 ตอนนั้นเศรษฐกิจตกต่ำมาก แบบที่เรียกว่าต้นกำเนิดข้องเสื้อเอวลอย เพราะผ้าขาดแคลน หลายประเทศต้องหาเงินเพื่อไปใช้ในสงคราม ซึ่งญี่ปุ่นที่มาบ้านเราขณะนั้น เกิดแนวคิด นึกพิมพ์เงินใช้เอง โดยไม่มีทองคำสำรอง ทำให้เกิดเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก แต่ประเทศอื่น ไม่ได้ทำตาม เพียงแต่ต้องหาข้อตกลงกันว่า เงินที่ใช้ มากมายจะเอาทองคำที่ไหนมาหนุนหลัง
เลยเกิดข้อตกลงเบรตตันวู้ดส์ (Bretton Woods) เมื่อปี 1944 ประเทศต่างๆ(ขออภัยจำไม่ได้ว่าประเทศไหนบ้าง) ตกลงกันว่าจะ ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "คงที่" โดยหันมาใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นทุนสำรองแทนทองคำ
โดยที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะตั้งไว้ผูกค่าไว้กับทองคำอีกชั้นหนึ่ง ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะลดปัญหาการขาดแคลนทองคำ แทนที่ทุกคน จะถือทองกันหมด ก็ให้มาถือดอลลาร์สำรองไว้แทนบ้าง
แต่พอปี 1971 ปลายสงครามเวียตนาม เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในภาวะย่ำแย่มาก ปัญหาการขาดดุลการชำระเงินทวีความรุนแรง ทุนสำรองของประเทศลดลงเรื่อยๆ เงินดอลลาร์ก็ไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีสงครามเวียตนามเป็นสาเหตุหลัก อเมริกาเป็นหนี้มากมาย สุดท้ายประเทศต่าง ๆ ก็ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระบบอัตราแลกเปลี่ยน"คงที่" จึงล่มไป โดย ที่โลกหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "ลอยตัว" แทนในปี 1973 และจากนั้นไม่นาน อเมริกาก็ถอนทหารออกจากเวียตนาม
การหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวนั้น ไม่ได้หมายความว่าความสำคัญของทองคำในฐานะทุนสำรองโลกจะลดลงเลย ทีเดียว เพราะไม่ว่าธนาคารกลางของชาติไหน ๆ นั้นเขาก็กำหนดไว้ว่าการจะพิมพ์ธนบัตรออกใช้นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีสินทรัพย์มา หนุนหลังเป็นทุนสำรอง และในนั้นต้องมีส่วนหนึ่งเป็นทองคำด้วย แต่การคิดอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ คิดตามดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจจริงๆ
แล้วทำไมอเมริกาต้องให้ประเทศอื่นเอาทองไปค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตร หรือ เอาทองคำประเทศอื่นไปเก็บที่อเมริกา เช่นมีข่าวว่า เยอรมันเอาทองไปเก็บเป็นจำนวนมาก และกำลังทวงคืน และทำท่าว่าอเมริกาจะไม่มีคืนให้ซะด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 09:37:51 AM » |
|
เหมือนอาจารย์ว่าครับ อเมริกาไม่ต้องใช้ทองคำสำรองในการผลิตดอลล่าห์ ตะกร้าเงินเขาใหญ่มากๆ ทั่วโลกต่างใช้เงินดอลล่าห์เป็นเงินทุนสำรอง
เรื่องนี้สืบสาวได้จาก ช่วงหลังสงครามโลกทั้งครั้งที่ 2 ตอนนั้นเศรษฐกิจตกต่ำมาก แบบที่เรียกว่าต้นกำเนิดข้องเสื้อเอวลอย เพราะผ้าขาดแคลน หลายประเทศต้องหาเงินเพื่อไปใช้ในสงคราม ซึ่งญี่ปุ่นที่มาบ้านเราขณะนั้น เกิดแนวคิด นึกพิมพ์เงินใช้เอง โดยไม่มีทองคำสำรอง ทำให้เกิดเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก แต่ประเทศอื่น ไม่ได้ทำตาม เพียงแต่ต้องหาข้อตกลงกันว่า เงินที่ใช้ มากมายจะเอาทองคำที่ไหนมาหนุนหลัง
เลยเกิดข้อตกลงเบรตตันวู้ดส์ (Bretton Woods) เมื่อปี 1944 ประเทศต่างๆ(ขออภัยจำไม่ได้ว่าประเทศไหนบ้าง) ตกลงกันว่าจะ ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "คงที่" โดยหันมาใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นทุนสำรองแทนทองคำ
โดยที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะตั้งไว้ผูกค่าไว้กับทองคำอีกชั้นหนึ่ง ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะลดปัญหาการขาดแคลนทองคำ แทนที่ทุกคน จะถือทองกันหมด ก็ให้มาถือดอลลาร์สำรองไว้แทนบ้าง
แต่พอปี 1971 ปลายสงครามเวียตนาม เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในภาวะย่ำแย่มาก ปัญหาการขาดดุลการชำระเงินทวีความรุนแรง ทุนสำรองของประเทศลดลงเรื่อยๆ เงินดอลลาร์ก็ไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีสงครามเวียตนามเป็นสาเหตุหลัก อเมริกาเป็นหนี้มากมาย สุดท้ายประเทศต่าง ๆ ก็ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระบบอัตราแลกเปลี่ยน"คงที่" จึงล่มไป โดย ที่โลกหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "ลอยตัว" แทนในปี 1973 และจากนั้นไม่นาน อเมริกาก็ถอนทหารออกจากเวียตนาม
การหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวนั้น ไม่ได้หมายความว่าความสำคัญของทองคำในฐานะทุนสำรองโลกจะลดลงเลย ทีเดียว เพราะไม่ว่าธนาคารกลางของชาติไหน ๆ นั้นเขาก็กำหนดไว้ว่าการจะพิมพ์ธนบัตรออกใช้นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีสินทรัพย์มา หนุนหลังเป็นทุนสำรอง และในนั้นต้องมีส่วนหนึ่งเป็นทองคำด้วย แต่การคิดอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ คิดตามดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจจริงๆ
แล้วทำไมอเมริกาต้องให้ประเทศอื่นเอาทองไปค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตร หรือ เอาทองคำประเทศอื่นไปเก็บที่อเมริกา เช่นมีข่าวว่า เยอรมันเอาทองไปเก็บเป็นจำนวนมาก และกำลังทวงคืน และทำท่าว่าอเมริกาจะไม่มีคืนให้ซะด้วย มันเป็นกลไกอัตโนมัติครับ ถ้าไม่มีทุนสำรอง ประเทศอื่นก็ไม่เชื่อถือค่าเงิน เงินที่พิมพ์ออกมาก็กลายเป็นแบงค์กงเต๊ก ทุนสำรอง มีทั้งทองและเงินสกุลหลัก รวมทั้งการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลประเทศเศรษฐกิจเข้มแข็ง และที่ต้องนำไปเก็บไว้ต่างประเทศ (นิยมอเมริกา, อังกฤษและสวิส) ก็เพื่อยืนยันให้ประเทศอื่นเชื่อว่ามีทุนสำรองอยู่จริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 48212
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 09:46:27 AM » |
|
เหมือนอาจารย์ว่าครับ อเมริกาไม่ต้องใช้ทองคำสำรองในการผลิตดอลล่าห์ ตะกร้าเงินเขาใหญ่มากๆ ทั่วโลกต่างใช้เงินดอลล่าห์เป็นเงินทุนสำรอง
เรื่องนี้สืบสาวได้จาก ช่วงหลังสงครามโลกทั้งครั้งที่ 2 ตอนนั้นเศรษฐกิจตกต่ำมาก แบบที่เรียกว่าต้นกำเนิดข้องเสื้อเอวลอย เพราะผ้าขาดแคลน หลายประเทศต้องหาเงินเพื่อไปใช้ในสงคราม ซึ่งญี่ปุ่นที่มาบ้านเราขณะนั้น เกิดแนวคิด นึกพิมพ์เงินใช้เอง โดยไม่มีทองคำสำรอง ทำให้เกิดเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก แต่ประเทศอื่น ไม่ได้ทำตาม เพียงแต่ต้องหาข้อตกลงกันว่า เงินที่ใช้ มากมายจะเอาทองคำที่ไหนมาหนุนหลัง
เลยเกิดข้อตกลงเบรตตันวู้ดส์ (Bretton Woods) เมื่อปี 1944 ประเทศต่างๆ(ขออภัยจำไม่ได้ว่าประเทศไหนบ้าง) ตกลงกันว่าจะ ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "คงที่" โดยหันมาใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นทุนสำรองแทนทองคำ
โดยที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะตั้งไว้ผูกค่าไว้กับทองคำอีกชั้นหนึ่ง ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะลดปัญหาการขาดแคลนทองคำ แทนที่ทุกคน จะถือทองกันหมด ก็ให้มาถือดอลลาร์สำรองไว้แทนบ้าง
แต่พอปี 1971 ปลายสงครามเวียตนาม เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในภาวะย่ำแย่มาก ปัญหาการขาดดุลการชำระเงินทวีความรุนแรง ทุนสำรองของประเทศลดลงเรื่อยๆ เงินดอลลาร์ก็ไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีสงครามเวียตนามเป็นสาเหตุหลัก อเมริกาเป็นหนี้มากมาย สุดท้ายประเทศต่าง ๆ ก็ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระบบอัตราแลกเปลี่ยน"คงที่" จึงล่มไป โดย ที่โลกหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ "ลอยตัว" แทนในปี 1973 และจากนั้นไม่นาน อเมริกาก็ถอนทหารออกจากเวียตนาม
การหันมาใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวนั้น ไม่ได้หมายความว่าความสำคัญของทองคำในฐานะทุนสำรองโลกจะลดลงเลย ทีเดียว เพราะไม่ว่าธนาคารกลางของชาติไหน ๆ นั้นเขาก็กำหนดไว้ว่าการจะพิมพ์ธนบัตรออกใช้นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีสินทรัพย์มา หนุนหลังเป็นทุนสำรอง และในนั้นต้องมีส่วนหนึ่งเป็นทองคำด้วย แต่การคิดอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ คิดตามดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจจริงๆ
แล้วทำไมอเมริกาต้องให้ประเทศอื่นเอาทองไปค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตร หรือ เอาทองคำประเทศอื่นไปเก็บที่อเมริกา เช่นมีข่าวว่า เยอรมันเอาทองไปเก็บเป็นจำนวนมาก และกำลังทวงคืน และทำท่าว่าอเมริกาจะไม่มีคืนให้ซะด้วย มันเป็นกลไกอัตโนมัติครับ ถ้าไม่มีทุนสำรอง ประเทศอื่นก็ไม่เชื่อถือค่าเงิน เงินที่พิมพ์ออกมาก็กลายเป็นแบงค์กงเต๊ก ทุนสำรอง มีทั้งทองและเงินสกุลหลัก รวมทั้งการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลประเทศเศรษฐกิจเข้มแข็ง และที่ต้องนำไปเก็บไว้ต่างประเทศ (นิยมอเมริกา, อังกฤษและสวิส) ก็เพื่อยืนยันให้ประเทศอื่นเชื่อว่ามีทุนสำรองอยู่จริง ขอบคุณครับ  ฝากที่อเมริกากลัวครับ กลัวโดนอม หรือ ไม่อม...แต่ไม่คืนเวลาต้องการจะเอาคืน 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
zamphol
ปืน-อยู่-ที่-ปาก
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 831
ออฟไลน์
กระทู้: 2628
ชีวิต-ดั่ง-ละคร
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 09:56:38 AM » |
|
ข่าวไม่กี่วัน เห็นว่าสวิตขนทองที่ฝากเมกาไว้ ขนกลับบ้านมาร้อยกว่าตัน มันเกิดอะไรขึ้น?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|