อียูเตรียมใช้กำลังสกัดและทำลายเรือลักลอบขนผู้อพยพสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียู ลงมติเห็นชอบแผนการใช้กำลังทหารสกัดและทำลายเรือที่จะใช้ลักลอบขนผู้อพยพ
ล่องเรือข้ามทะเลเมดิเตอเรเนียนเข้าสู่ยุโรป หลังจากมีผู้อพยพหลั่งไหลเข้าสู่ยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและมีผู้เสียชีวิต
กว่า 1,800 คนจากอุบัติเหตุทางเรือในปีนี้
รัฐมนตรีต่างประเทศและกลาโหมของชาติสมาชิกอียู 28 ประเทศประชุมร่วมกันที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเมื่อวาน
และลงมติเห็นชอบแผนการใช้กำลังทหารในการยับยั้งเรือบรรทุกผู้อพยพข้ามทะเลเมดิเตอเรเนียนเข้ายุโรป
ซึ่งรวมถึงการใช้เรือรบและเครื่องบินลาดตระเวนรวบรวมข่าวกรองและใช้กำลังทำลายเรือที่จะถูกใช้ลักลอบบรรทุกผู้อพยพ
ออกจากลิเบีย ที่กำลังเกิดสงครามกลางเมืองและกลายเป็นศูนย์กลางของ กระบวนการค้ามนุษย์ แต่อียูยังต้องรอมติจาก
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 7 ของกฎบัตรสประชาชาติ จึงจะสามารถดำเนินการได้
นางเฟเดริก้า โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู เปิดเผยว่า ปฏิบัติการนี้จะมีสำนักงานในกรุงโรมของอิตาลี
แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ รวบรวมข่าวกรองบุกค้นบนเรือผู้อพยพ รวมทั้งยึดและทำลายเรือ โดยคาดหวังว่าปฏิบัติการนี้
จะสามารถเริ่มได้ภายใน 25 มิ.ย.
ปฏิบัติการใช้กำลังทหารนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนพิมพ์เขียวของอียูในการแก้ไขวิกฤติผู้อพยพที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ที่จะมีทั้งการแบ่งโควต้าให้ชาติสมาชิกร่วมกันรองรับผู้อพยพ ตั้งศูนย์คัดกรองที่ไนเจอร์เพื่อจำกัดจำนวนผู้อพยพ ร่วมมือปกป้อง
ชายแดนกับประเทศต้นทางผู้อพยพ และเพิ่มงบและทรัพยากรในภารกิจค้นหากู้ภัย เป็นต้น
การเคลื่อนไหวของอียูเป็นความพยายามลดความสูญเสียชีวิตหลังมีผู้อพยพตายกว่า 1,800 คนในปีนี้จากอุบัติเหตุเรืออัปปาง
ขณะล่องเรือจากเมดิเตอเรเนียนไปยุโรป
แต่แผนของอียูยังคงได้รับเสียงคัดค้านทั้งจากสมาชิกบางประเทศในอียูและลิเบีย โดยโฆษกรัฐบาลลิเบีย บอกว่า ปฏิบัติการ
ทางทหารใดๆจะต้องดำเนินโดยอาศัยความร่วมมือของทางการลิเบีย และบอกว่าการใช้กำลังใดๆกับเรือทั้งที่อยู่ในหรือนอก
น่านน้ำลิเบียเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม
ขณะเดียวกันหลายชาติในอียูคัดค้านการแบ่งโควต้ารับผู้อพยพ เพราะวิตกว่าจะกระตุ้นให้มีผู้อพยพหลั่งไหลไปยุโรปมากขึ้น
http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378456338/?fb_action_ids=10206701328469970&fb_action_types=og.sharesของเราแค่ไม่ให้เข้าประเทศ แต่ที่ EU ใช้กำลังทหารทำลายเรือผู้อพยพ ไม่เห็นสหรัฐฯ หรือ UN กล้าว่าอะไรเลย
