เห็นการแชร์กันทางโซเชี่ยล. เรื่องญี่ปุ่นไม่มีกองทัพ.ยังพัฒนาประเทศให้เจริญขึ้นได้....ความหมายของคนเขียนเรื่องนี้คือต้องการดิสเครดิตทหาร..ของประเทศ ในความเห็นของผมแล้ว ทุกประเทศต้องพึ่งกองทัพ จะอ่อนแอไม่ได้
ญี่ปุ่นหลังประกาศแพ้สงคราม ประกาศยกเลิกกองทัพ มีเพียงกองกำลังป้องกันตัวเอง...ผมเองยังมองไม่ออกว่ามันต่างกันตรงไหน ญี่ปุ่นมีการพัฒนาอาวุธทั้งหนักและเบา โดยเน้นผลิตใช้เอง ในบัญชีที่แจ้งว่ามี
ทหารทั้งหมดราว8หมื่นนายเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ในประเทศเกือบทุกจังหวัดจะมีโรงเรียนมัธยมปลายของทหาร จากม.4-6เป็นรร.กินนอน เรียน-กิน-อยู่ฟรี โรงเรียนพวกนี้ตั้งมาไม่
ถึง40ปีเลย (แสดงว่าเขาเตรียมไว้) รับทั้งชาย-หญิง จะเรียนเหมือนปรกติทั่วไป แต่จะเพิ่มวิชาทหารเสริมเข้าไปด้วย เรียนรู้เรื่องทหารอยู่ในระดับ1และ2 (ไม่มีการฝึกอาวุธด้วยกระสุนจริง) เมื่อจบแล้วก้เหมือนเด็ก
ทั่วๆไป ถ้าใครอยากเข้าเป็นทหารต้องเข้าเรียนต่อ ซึ่งจะมีการสอบและคัดเลือกเพื่อเป็นทหารประจำการ เรียน1ปีแล้วจะเลือกไปอยู่เหล่าไหน เรียนเหล่าอีก1ปีแล้วจะจบ จะได้บรรจุ สำหรับนายทหารระดับเสธ.จะ
ต้องเรียนอีก2ปี เท่ากับเรียนมหาลัย ระดับสูงนี้จะต้องสอบเข้าและอาจมีสายจากประชาชนทั่วไปด้วย มีจำนวนมากที่จบออกมาแล้ว ไม่เป็นทหาร ออกมาทำงานเอกชน
งบประมาณด้านทหารเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ละปีมากพอๆกับงบประมาณทั้งประเทศไทยเลยทีเดียว อาวุธทั้งเล็กและใหญ่ ปรับปรุงมาตลอด ทั้งรถ-เรือ-บินรบ ทันสมัยมาก นั่นหมายถึงการพัฒนาของเขา
หลายๆคนคงสงสัยว่าถ้าเกิดเหตุคับขันต้องการกำลังคนแล้วจะรวมคนได้ทันรึ...คนไทยเกือบทั้งประเทศยังไม่ทราบคือมีกฎหมายอยู่แล้วคือ...คนญี่ปุ่นทุกๆคนคือทหารของประเทศ แม้ญี่ปุ่นจะยอมแพ้สงคราม แต่กฎหมายนี้ยังอยู่
ญี่ปุ่นเรียกใบนี้ว่า อะก้าเทกะมิ แปลไทยว่า จดหมายแดง ถูกบรรจุในรัฐธรรมนูญ ในอดีตช่วงสงครามญี่ปุ่นจะประกาศรับสมัครชาย-หญิงเพื่อเข้าเป็นทหาร เมื่อไม่พอก็จะตามตามถึงบ้านเรียกไปเป็นทหารด้วยจดหมายแดง ในอดีตจะมีสัสดีประจำทุกอำเภอเหมือนบ้านเรา ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว เมื่อชายวัยหนุ่มหมดเกือบทั้งประเทศ ก็เอาทั้งเด็นรุ่นและวัยกลางคน
คนญี่ปุ่นทุกคนเมื่อมีหมายแดงมาถึงตัวแล้ว จะถือว่าเป็นเกียรติยศเป็นความภาคภูมิใจ ที่ได้รับใช้แผ่นดินและต้องไป ไม่ว่าทำอะไรอยู่ก้ตามต้องละทิ้งไว้แล้วเข้าไปรายงานตัวด่วน มีทั้งแบบทันทีและ24-48ชม. มี
การสร้างละครมากมาย เช่นชายหนุ่มเมื่อได้รับจดหมายแดง ทุกคนจะรู้ทันทีว่ามีโอกาสรอดกลับมาน้อย จึงรีบไปขอหญิงสาวมาแต่งงานทัน แม้จะมีโอกาสได้นอนกับเมียเพียง1คืน เขาก้ฝันว่าจะมีลูกสืบสกุล
ในช่วงสงครามมีชาวญี่ปุ่นออกไปทำมาค้าขายในต่างประเทศเยอะ พอทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกแล้ววันต่อมาจะเห็นชาวญี่ปุ่นคนนั่นเป็นทหารไปด้วย ไม่ใช่สายลับหรอกครับ...พวกเขาถูกจดหมายแดงนั่นเอง ถูก
เรียกเข้ากองทัพทันที
ล่าสุดที่มีการใช้จดหมายแดงคือถูกแผ่นดินไหวและสึนามิ บ้านเรือนพินาศคร่าชีวิตประชาชนไป3หมื่น ที่เมืองเซนได มีค่ายทหาร-สนามบินและโรงเรียนทหารด้วย จึงมีการเรียกคนในพื้นที่เข้ากองทัพทันที แม้ว่าคนนั้นกำลังค้นหาศพญาติพี่น้องอยู่ก็ตาม จดหมายแดงคือสิ่งสักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวญี่ปุ่นเสมอ
ผมมั่นใจว่าในเวลา3เดือนญี่ปุ่นจะสร้างทหารได้หลายหมื่นคน ใน1ปีเขาสามารถรวมพลได้เป็นแสน.
ผมก็หวังว่าจะไม่มีนักวิชาการเมืองไทยหรือนักการเมือง มาโชว์โง่เรื่องญี่ปุ่นอีก
ญี่ปุ่นมี Standing Army ประมาณสองแสนสี่หมื่นคนเท่ากับไทย กำลังสำรองชั้น 1 ประมาณหกหมื่นคนเท่ากับไทยเหมือนกัน
แต่ญี่ปุ่นมีกำลังสำรองประเภท Fit for military service ภายใน 8 อาทิตย์ ประมาณ 26 ล้านคน รวมทั้งพลังทางอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก สามารถผลิตอาวุธรองรับกองทัพได้เร็วมาก
