ผมก็ใช้อยู่ครับ ซื้อเพราะชอบในรูปร่างแท้ๆ เลย มันไม่เหมือนยี่ห้ออื่นดี (ยกเว้นเทารัส

)
และช่วงนั้นบ้าหนังสงครามครับ เห็นทหารอเมริกันใช้ ก็เลยอยากมีบ้าง
จะพกก็ได้ครับ แต่ต้องสะพายไหล่อย่างเดียว ใส่สูท ใส่แจ็คเก็ตทับ เหน็บเอวไม่ได้ หนัก และนูนออกมามาก ดูยังไงก็ออก
เรื่องด้ามใหญ่ ผมว่าไม่ใช่ปัญหา ถ้าลองมันได้มาเป็นปืนประจำตัวเราแล้ว เราได้ยิงทุกวัน ก็คุ้นมือไปเอง
ส่วนที่พี่ๆ บอกว่ายิงไม่ถนัด ด้าม ใหญ่ ไกหนัก ไกไม่คม ฯลฯ ก็เพราะพวกพี่ๆ เค้าได้ลองปืนกันมาเยอะน่ะสิ มันก็เลยมีตัวเปรียบเทียบ ถ้าเราใช้ของเราอยู่กระบอกเดียว ในเมื่อรักมันแล้ว ก็หัดให้มันถนัดได้ครับ (เพราะยังไงก็มีอยู่กระบอกเดียวนี่แหละ

)
Ex. : ยกตัวอย่าง เหมือนเวลาที่เพื่อนยืมรถเราขับ พอมันมาคืน มันต้องติอะไรสักอย่าง รถผมนี่โดนประจำ พวงมาลัยโคตรหนักเลย มึงขับได้ไงไม่ติดพวงมาลัยพาวเวอร์ว่ะ.........ครัชหนักชิบเลย ขาแทบเดี้ยง มึงขับได้ยังไง ทำไมไม่เปลี่ยนเป็นครัชน้ำมันว่ะ.......... กระจกมองหลังไม่เห็นเลยมึง เล็กติ๊ดเดียว เปลี่ยนเป็นใหญ่ๆ ดีมั๊ย.....................ฯลฯ
ผมคิดในใจ : ก็กรูขับของกรูมาจะ 10 ปีแล้วอ่ะ กรูขับไม่เห็นจะมีปัญหาเลย หมุนพวงมาลัยได้สบายมาก........
ส่วนเรื่องสไลด์ขาด ผมว่าเป็นรุ่น 92เฉยๆ หรือ 92F มากกว่า เคยอ่านเจอในบอร์ดนี้แหละไม่รู้ว่ากระทู้ไหน ซึ่งต่อมาในรุ่น 92Fs ได้รับการปรับปรุงแล้วครับ
ถ้าสไลด์มันพังง่ายขนาดนั้น ทำไม US ARMY ถึงเลือกเข้ามาประจำการล่ะครับ (ไม่ใช่เหตุผลด้านการเมืองอย่างเดียวแน่)
ส่วนที่คุณสั่งจากปืนโครงการฯ นั้น ต้องรอนานหน่อยนะครับ ผมก็รอประมาณ 1 ปีครึ่ง เพราะอิตาลีส่งปืนมาช้า ไม่ได้ส่งผ่านอเมริกาครับ ( ปืนโครงการจะเป็น MADE IN ITALY ล้วนๆ

)
การติดขัดนั้น ได้มาวันแรก ล้างไขข้นเสร็จ ก็ซัดกระสุนซ้อมเลย 1 กล่อง ปลอกขัดแบบ "ปล่องไฟ" แค่นัดเดียวครับ คงเพราะปืนยังไม่ได้รัน-อิน อะไรๆ มันคงยังฝืดอยู่ แต่ต่อมาก็ไม่เป็นอีก
โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นปืนที่ดีไซด์สวยงามอีกกระบอกนึงครับ
และเป็นปืนพระเอกอย่างแท้จริง ยิงเท่าไหร่ลูกก็ไม่หมด ยิงผู้ร้ายนัดเดียวตายทันที ขนาดผู้ร้ายสาดด้วยปืนกลเป็นร้อยๆ นัด เจอ 92Fs สวนนัดเดียวจอด แล้วอย่างนี้คุณจะไม่หลงมันได้ไง

ในอนาคต อีก 20-50 ปี ข้างหน้า คงจะเป็นปืนคลาสสิคสวยงาม ที่ลูกหลานของเราภูมิใจ ที่จะรับช่วงต่อจากเราครับ