เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 17, 2025, 04:48:22 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ....จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นปืนสวมทะเบียน...สาเหตุที่โครงปืน 1911 ถูกไสเพื่ออะไร..  (อ่าน 9282 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yah&yim™รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 50
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 590



« ตอบ #30 เมื่อ: มกราคม 13, 2007, 09:36:28 PM »

น่าสนใจ ขอดูด้วยคน
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #31 เมื่อ: มกราคม 13, 2007, 10:23:39 PM »

มาแล้วครับ......
สาเหตุแห่งการไถ การถูปืน เอ็ม 1911 และ 1911 เอ1 ก็สืบเนื่องมาจาก ความแพงของปืนในเมืองไทย นั่นเอง
ถ้าปืนไม่แพง ก็ไม่ต้องมาไถกันให้เมื่อย ให้เสียสตางค์ ให้เสียลักษณะเด่นของปืน
และถ้าปืนไม่แพง มันก็จะไม่ทำให้เจ้ากระดาษใบน้อยๆ (เล็กกว่า กระดาษเอ 4 เสียอีก) แต่มีชื่อเรียกว่า ป.4 มันกลายเป็นเงิน เป็นทอง ขึ้นมาได้ ทำเล่นไป ทะเบียนปี 18 เปลือยๆ ไม่มีปืน ขายกันได้ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลัก เจ็ดพัน เดี๋ยวนี้ คงเป็นหมื่นๆ แล้วกระมัง
................ประเภทปืนที่นำมาถูกไถ มากที่สุด คือ เอ็ม 1911 และ เอ็ม 1911 เอ1 นั่นเอง ยี่ห้ออื่น ไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ มีก็ บราวนิง ไฮพาวเวอร์ ก็อีกนั่นแหละ คือปืนทหาร หลุดเข้ามาอยู่ในครอบครองของประชาชน แต่ก็ไม่มากเหมือน 1911 แน่นอน
................ลำดับรองลงมาก็ ซีรีส์ 70 เพราะถือว่า ยังทันในพ.ศ.2518
................ประเภทที่นำมาไถ แล้วตอกทะเบียนปี 18 แต่โครงปืน ดันเป็นแบบซีรีส์ 80 ถ้าใครโดนแบบนี้ คุกจะมารอท่านโดยเร็วไว เพราะท่านโกหก ไม่แนบเนียน เพราะ 1911 เอ1 ซีรีส์ 80 มันเกิดหลังปี 18 แล้ว เวลาจะไปหาป.4 มาสวม โปรดระวังด้วย กรรมจะเข้าตัว  เอาละ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน

ย้อนกลับไป เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ใกล้สิ้นสุด สหรัฐ ได้ส่งกำลัง ทั้งอาวุธต่างๆ มาสนับสนุน กลุ่มกู้ชาติใต้ดินของไทย หลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็น ปืนพก ปืนกล ปืนสับเพเหระ ที่ใช้ยิงได้ ยึดมาจากข้าศึกของฝ่ายอักษะ ก็ยังมี
(กล่าวอ้างจากพี่มะขิ่น) นำมาสนับสนุนกลุ่มใต้ดิน
พวกเราเรียกกันนักกันหนา ว่ากลุ่มใต้ดิน เพราะเปิดเผยไม่ได้ และแน่นอน อาวุธก็ต้องมาแบบใต้ดินเช่นกัน ไม่งั้นพวกใต้ดิน จะเอาอาวุธบนดิน มาใช้ได้อย่างไร
.....เมื่อสงครามสงบ อาวุธใต้ดินเหล่านี้ ก็ถือเป็นอาวุธปืน ......เถื่อน....สารพัดรูปแบบ ได้แก่ ปืนกลมือทอมสัน ปืนเอ็มวัน กาแรนด์ (ปลย.บ. 88 ที่พวก รด. ใช้ฝึก) ปืนคาร์บิน .30  และรวมถึง 1911 และ 1911 เอ1 ชนิดแบบผสมพันธ์มาแล้ว  อาวุธเหล่านี้ ส่วนหนึ่ง ก็ตกอยู่ในความครอบครองของอดีต วีรบุรุษกู้ชาติ ใต้ดิน ที่ไม่ได้คืนให้แก่สหรัฐ
ท่านเหล่านั้น ก็ยังคงเก็บเงียบไว้ต่อไป ทั้งที่มันเขียนอยู่ชัดๆ ว่า ยูไนเต็ดสเตท พร้อพเพอร์ตี้ (อ้าว ...มาว่ากันได้ไง ก็ไอ้อเมริกัน มันไม่ทวงเองนี่หว่า) แต่ท่านเหล่านั้น ก็เก็บไว้เฉยๆ เป็นที่ระลึกแห่งความหลังอันแสนเจ็บปวดในขณะเป็นขบวนการใต้ดิน ก็เป็นได้
.......แต่ทว่า อาวุธปืน อีกส่วนหนึ่ง ปริมาณ มหาศาล เช่นกัน ที่ตกหล่นไปอยู่ในมือของ ซุ้มโจร ชุมโจร  เสือไอ้นั่น เสือไอ้นี่ ไม่รู้ไปเรียกว่าเสือได้อย่างไร น่าจะเรียกว่า อันธพาล มากกว่า เพราะปล้นคนอื่นเขากิน เสือ มันหากินแค่อิ่ม แล้วก็นอน ขนาดเวลาอิ่มๆ เหยื่อเดินผ่านหน้า มันยัง เฉยๆ ไม่คิดไปเอาเปรียบใคร แต่พวกปล้นที่ได้ฉายาว่า เสือ ขนาดมันอิ่มแล้ว ยังไปปล้นชาวบ้านเขาต่อ อย่างนี้ จะเรียกว่า เสือ หรือ ตัวอะไรดี

..0........แสดงว่า ในช่วงปี 2484-2488 และหลังจากนั้นต่อมา ถึงประมาณ ปี 2500 มีปืนเถื่อนอยู่ในเมืองไทยมากมาย
อาวุธสงครามเหลือใช้ ตกหล่นจากสงคราม ตามแนวชายแดนไทย ตลอดมา ตั้งแต่ ช่วงที่มีการขับไล่ฝรั่งเศส ออกจากลาว เวียตนาม กัมพูชา ก็ยังมีตกหล่นเข้ามาในไทยด้วย (เพราะไทย รับทุกอย่างอยู่แล้ว เงินดีกว่าเขา ก็คอยรับซื้อ เอาเข้ามา ก่อ อาชญกรรม ในเมืองไทย  อาชญากรรม ในเมืองไทย สมัยนั้น รุนแรงเอาเรื่อง ถึงขนาด เอามาทำเป็นหนัง 2499 อันธพาล ครองเมือง ถ่ายทอดความรู้สึกกันเยอะแยะไป

.........ผมอยากรณรงค์ ให้คนรักปืนเก่า ๆ ทั้งหลาย ลองไปติดตามประวัติแห่งความเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนของประเทศไทยในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองดูว่า มันป่าเถื่อนขนาดไหน ในขณะที่หลังสงครามโลก อเมริกา เขาพัฒนา ก้าวต่อไป แต่ของไทย กลับถอยหลัง ตกต่ำ ถึงขนาด......ทั้งที่เป็นหลังสงครามเหมือนกัน
.........ขอเชิญชาวปืนไปเที่ยวชม ตลาดเก้าห้อง ผมไม่แน่ใจว่า เป็น บางปลาม้า สุพรรณบุรี หรือเปล่า เคยไปทำงาน แล้วผ่านไป เขามีหอดูโจร ชาวบ้านพึ่งพาตำรวจ หรือ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ได้เลย
พวกไอ้เสือทั้งหลาย มันจะส่งคนมาบอกคนที่ตลาดเก้าห้อง โดยนัดว่า พรุ่งนี้ จะมาปล้นแล้ว ให้เตรียมทรัพย์สินเอาไว้ ................ให้ตายเถอะ นี่หรือประเทศไทย แล้วพวกโจร ก็มาตั้งแถว อยู่นอกตลาดจริงๆ แล้วเข้าปลดทรัพย์สิน โดยสงบ .......จะว่าไป ก็เป็นการปล้นที่มีวัฒนธรรมสูงส่งเอาเรื่อง
.......ตลาดเก้าห้อง ทนไม่ไหว โดนปล้นบ่อยๆ ก็เลยทำหอดูโจร ทำด้วยคอนกรีต ไว้กลางตลาด สูง ประมาณ 4 ชั้น มีดาดฟ้า และมีรูรอบทิศ ไว้สอดปากกระบอกปืน ยิงโจรได้ โจรยิงมา ก็ยิงไม่ถูกคนที่อยู่ในหอ  ผมปีนขึ้นไปบนยอด
สภาพหอ ทรุดโทรมเอาเรื่อง พาลจะพังลงมา แต่บันไดเหล็กยังเป็นของแท้ อยู่เลย
....................เล่าให้ฟังเป็นน้ำท่วมทุ่ง จ.สุพรรณบุรี เพื่อชักจูงให้ท่านเห็นว่า บ้านเมืองสมัยนั้น ปืนเถื่อน เยอะจริงๆ
..................ปี 2506-2507 สถานการณ์ในเวียตนาม สุกงอมเต็มที่ สงครามเวียตนาม ระเบิดขึ้น ลาว กัมพูชา และไทย ล้วนมีแนวร่วมเป็น คอมพิวเตอร์ เอ้ย.....ขอโทษ พูดผิด ........คอมมิวนิตส์ ....ผู้มีความฝันว่า จะทำให้คนในโลกนี้ เสมอภาค เท่าเทียมกันโดยไม่มีเงื่อนไข (ซึ่งผิดธรรมชาติมนุษย์)
เมื่อสงคราม ระเบิดขึ้น เป็นการรบเพื่อ ต่อสู้กันทางด้านลัทธิการปกครอง เป็นการสู้กันของค่ายโลกเสรี กับ คอมมิวนิตส์ เป็นสงครามที่ไม่ได้เกิดแบบต่อสู้ป้องกันประเทศ เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารอเมริกัน มารบโดยถูกบังคับ ให้มารบ ไม่ได้รบเพื่อชาติเหมือนตอน ประกาศอิสระภาพ เมื่อประมาณ ค.ศ. 17......(จำไม่ได้)
ดังนั้น เมื่อมารบก็มาแบบไม่สมัครใจ ก็มีตำนาน การทิ้งอาวุธ การขายอาวุธ ให้คนไทย เล่าขานกันไปอย่างไม่จบสิ้น

.....ปืนเถื่อนล้นประเทศไทยละซิครับ .....ก่ออาชญากรรมที่ไร ยิงเสร็จ ทิ้งปืน หรือจับปืนได้ ก็ ปืนยูเอสอาร์รมี่ เพียบเลย สมมุติ ค่าจ้างยิง คน 5000 บาท ต่อ 1 ศพ ก็หัก ซัก 1000 บาท ไปหาซื้อ ยูเอสอาร์มมี่ เถื่อน ๆ ซักกระบอก
หักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือ ประมาณ เกือบ สี่พัน (หักค่ากระสุนอีกหน่อย) มือปืนรับจ้างในสมัย ก่อนปี 2510 ก็ถือว่า รายได้ โอเคแล้ว
.....ด้วยความที่ 1911 ยูเอสอาร์มมี่ หาซื้อแบบเถื่อนๆ ได้ง่าย เพื่อนำมายิงคน ตามคำสั่งเจ้าพ่อ แทนที่จะเป็นผลร้ายให้คนมอง เอ็ม 1911 ในฐานะ ปืนของคนเลว มือปืนรับจ้าง
คนไทย กลับมองต่างมุมเข้าไปอีก .....อ๋อ ....ที่มือปืนมันใช้ยิงคนนะหรือ ...ก็มันชัวร์นะซิ  .....ลูกใหญ่ดี ...โป้งเดียวจอด .......กลับกลายเป็นการสร้างความเชื่อถือ เชื่อมั่น ในศักยภาพ และพลัง ของกระสุนขนาด .45 หรือ สิบเบ็ด.....สิบเบ็ด.....มอมอ...เข้าไปอีก ทั้งที่ปืนเถื่อนแบบอื่นๆ ก็ยิงคนตายได้ แต่เนื่องจากในสมัยนั้น มันทะลักเข้ามาจากชายแดน ก็เลยราคาถูกกว่าปืนพาณิชย์ที่พวกลักขโมย  ขโมยมาขายโดยอ้างว่า ของร้อนเสียอีก
.....เมื่อมีแต่ปืนเถื่อน ฆ่าคน หาหลักฐานไม่ได้ซักที่ ..........รัฐบาลก็ปวดหัว เลยคิดเอาปืนเถื่อนมาขึ้นทะเบียน
เพราะว่า เวลาเอาไปยิงใครตาย อย่างน้อย ปืน ก็เป็นจุดเริ่มตันในการสืบสาวตัวคนร้ายได้ แม้จะไม่ 100 เปอร์เซนต์ก็ตาม
ปี 2510 รัฐาล จึงเปิดขึ้นทะเบียน ปืนเถื่อน
เมื่อขึ้นทะเบียน ปืนเถื่อน ปืนพวก ทอมสัน คาร์บิน เอ็มวันกาแรนด์ ขึ้นทะเบียนไม่ได้ หลวงคงขอคืน แบบไม่ติดคุก
แต่พวกปืนพก รัฐบาลให้ตีทะเบียน แสดงกรรมสิทธิ์ กันได้ เอ็ม 1911 และปืนพก อีกหลากหลายชนิด จึงพากกันขึ้นทะเบียนได้
...........หลังปี 2510 เป็นต้นมา สงครามเวียตนาม ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง มันเหมือนเชื้อเอดส์ ที่แพร่กระจายเข้ามาประชิดประเทศไทย และแทรกซึมเข้ามาในไทย จนเกิดเหตุการณ์ ต่างๆ ที่ไม่ต้องพูดก็รู้กันทุกคน ทุกวันนี้ เห็นแก่ เห็นสภาพแต่ละคน ก็อายุ อานาม เข้าไปหลายแล้ว กันทุกคน มองกลับไปในวันที่เป็นหนุ่มเป็นสาวในตอนนั้น ไม่รู้จะเข้าใจอะไรมากขึ้นหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
............ปืน เอ็ม 1911 ทั้ง เอ และไม่เอ ก็ยังทะลักเข้ามาอย่างหยุดไม่อยู่
ปี 2518  ปืนเถื่อน เอ็ม 1911 เต็มเมืองอีกแล้ว แต่ทีนี้ มามาดใหม่
คนที่มีบทเรียนในปี 2510 เห็นช่องทางว่า พอมีปื่นเถื่อนมากขึ้น ก็รอ นั่งรอ นอนรอ ว่า รัฐบาล จะเปิดให้ขึ้นปืนเถื่อน เป็นปืนไม่เถื่อนอีกเมื่อไหร่ ในระหว่างรอ ก็ซื้อปืนเถื่อน เอ็ม 1911 รอไว้ ฟ้าสีทองเมื่อไหร่ รัฐบาล เปิดให้ขึ้นทะเบีนยปืนเถื่อนเมื่อไหร่ เราจะรวยเมื่อนั้น เพราะซื้อไว้ถูกๆ กระบอกละไม่กี่พันเท่านั้น
......และแล้ว ฝันก็เป็นจริง ปี่ 2518 รัฐบาลเปิดให้นำปืนเถื่อนมาขึ้นทะเบียนอีกครั้ง ก็มีคนนำมาขึ้นกันมากมาย
......มีบทเรียนใหม่ว่า เพียงแต่ทะเบียน เปล่าๆ หรือ ป.4 เปล่า ไม่มีปืน ก็มีราคา ถ้าทำไว้ได้ แบบเปลือยๆ
ก็เอาไปขายให้ พวกมาไม่ทัน ในปี 2518 ซื้อไป ตอกทะเบียนสวมตัวปืน กระบอกอื่นๆ ก็ได้

........จึงเกิดอาการ ทะเบียน ปี่ 2518 ลอยๆ ไว้เพียบ ในสมัยนั้น โดยไม่มีตัวปืน ป.4 แบบนี้ สามารถซื้อขายกันได้ แบบใต้ดิน แล้วไปสวมปืน มาจดทะเบียนโอนกันมากมาย
........จดทะเบียนเปลี่ยนเจ้าของไป เปลี่ยนเจ้าของมา ซัก สองสามทอด ก็ฟอกทะเบียนเสีย ขาวจั๊ว จนหาต้นขั้วเดิมไม่พบแล้วครับ
เล่าที่มาเสียยืดยาว ขอพักแป็บ
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #32 เมื่อ: มกราคม 13, 2007, 10:36:39 PM »

ถ้าใครอ่านข้อความของท่านครูดำ คงเห็นได้ไม่ยาก
ปืน 1911 จำนวน 1 กระบอก ตอกเช้า ลบ  จะได้ ป.4  .45 แบบ ลอยๆ         แล้ว 1 ใบ
เที่ยง เอาไปลบ ตอกใหม่   แล้วลบอีกครั้ง  จะได้ป.4                                  แล้ว 1 ใบ
ก่อนปิดอำเภอ เอาไปตอกอีกครั้ง               จะได้ ป.4                                 แล้ย 1 ใบ
สรุป ปืนกระบอกนี้ มีทะเบียนติดปืน 1 ใบ สามารถผลิต ทะเบียนเปล่าๆ ได้อีก 2 ใบ


......เจ้าของปืน เอาไปพกติดตัว เข้าบ่อนเล่นการพนัน เสียหมดตูด ทำไงดี ควักปืนวางบนโต๊ะ (ไม่ได้ยิง)
แต่เอาลงเดิมพัน ในการเล่นครั้งหน้า แทงเต็มที่ ......ถูกกิน.....เจ้ามือบ่อน ก็ริบปืนไป

ตอนนี้ ก็จะได้ ทะเบียน เปล่า ทั้งหมด 3 ใบ ต่างเลขกันทั้งสามทะเบียน

พอมีใครมาขอซื้อทะเบียนเปล่าๆ ก็ขายได้ เพราะเขาซื้อไปสวมกับ ยูเอส อาร์รมี่ ที่ได้มาหลังปี 2518 นั่นเอง

มาถึงช่วงตอบคำถาม
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #33 เมื่อ: มกราคม 13, 2007, 10:41:53 PM »

ถามว่า ไสปืนทำไม ไสไป เพราะถูกสวม ใช่หรือไม่
ตอบว่า ใช่ เพราะ ทะเบียน ปี 2518 ส่วนใหญ่ ไม่ระบุ ซีรีส์ นัมเบอร์ จะตอกแต่หมายเลขทะเบียนปืนที่ระบุ ตัวย่อ ของพื้นที่จังหวัดต่างๆ เท่านั้น
แต่ของคุณมาไสข้าง ทำซีรีส์ นัมเบอร์ด้วย แบบนี้ สวมแหงๆ เลยครับ
หมดแรงแล้ว .......ไว้มาต่อให้อีก สัก สองสามวันนะจ๊ะ
บันทึกการเข้า
thamcharoen
Full Member
***

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 267


...ดื่มแต่พองาม...แต่ห้ามมาว...เมา


« ตอบ #34 เมื่อ: มกราคม 13, 2007, 10:54:26 PM »

...โธ่..พี่กำลังเข้าด้าย เข้าเข็ม...กำลังมันเลยครับ...พี่มาทำให้อยากแล้วก็จากไปยังงี้ได้ไง...มันยังไม่สุดนะครับ...
บันทึกการเข้า

....ม้าแก่...แต่อยากกินหญ้าอ่อน.....
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #35 เมื่อ: มกราคม 13, 2007, 11:07:18 PM »

...โธ่..พี่กำลังเข้าด้าย เข้าเข็ม...กำลังมันเลยครับ...พี่มาทำให้อยากแล้วก็จากไปยังงี้ได้ไง...มันยังไม่สุดนะครับ...
อ้าว.....ขอโทษที ออนไลน์อยู่ก็ไม่บอก ......ก็มันง่วงแล้วนี่นา ....คิดมุข ไม่ออกแล้ว ....เรียงประโยคก็ผิดๆ ถูกๆ แล้วด้วย ....เดี๋ยวจะไม่มันส์อะดิ...Huh?
บันทึกการเข้า
408
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 281


« ตอบ #36 เมื่อ: มกราคม 13, 2007, 11:33:27 PM »

มาตอบเร็วๆนะครับ อยากอ่านอีกกำล้งมันส์
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #37 เมื่อ: มกราคม 14, 2007, 05:36:39 AM »

มาต่อให้
.............จากเรื่องของครูดำ แสดงให้เห็นถึงวิธีผลิต ป.4 ในช่วง ปี 2518 โดยไม่มีตัวปืน
ปืน 1 กระบอก ได้ป.4 ลอยไว้ขายอีก 3 ใบ สบายสบาย เลย
............ยังไม่รวม ถึงแบบ การออก แบบ ลอยๆ ..............ลอยจริงๆ แบบไม่มีตัวปืน ก็คาดว่า น่าจะมี เพราะให้หลัง ปี2518มาหลายปี ก็ยังมีตกทอดเป็นใบลอย เปล่าๆ ก็เยอะเอาเรื่อง
ประโยชน์ กันมหาศาลของ ทะเบียนปี 2518 คือ
1.มีแต่ เลขทะเบียน ไม่มีซีรีส์ นัมเบอร์ ระบุไว้  ดังนั้น เวลาจะสวม ก็ไปหาปืน เอ็ม 1911 ขนาด หนาๆ มาหน่อย
ถ้าเป็นปืนยูเอสแท้ มือหนึ่งจากชายแดน ไม่มีทะเบียน มีแต่ ซีรีส์ นัมเบอร์  ก็อัดทะเบียน ลงไปอย่างเดียว
มันก็กลายเป็นการนำปืน เข้าสู่ระบบแล้ว โดยไม่มีซีรีส์ นัมเบอร์
2.ต่อมา เจ้าของ นำปืนไปขาย (ต่างจังหวัดนิยมมากๆ ) ขายปืน แต่ไม่ขายทะเบียน นึกออกไหมครับ Huh
เพราะทะเบียน .45 มันขออนุญาต ยากมากๆ แต่ปืนเถื่อน .45 มันหาง่ายกว่าการขออนุญาต ซื้อจากอำเภอเป็นไหนๆ
เมื่อขายปืนไป คนซื้อก็เอาไป  คนขายเก็บทะเบียนไว้ รอซื้อของใหม่
สมมุติว่า ได้กระบอกใหม่มา พอแหงะ ดูที่หน้าด้าม อ้าว ......มีตอกทะเบียนมาด้วยแฮะ.....ไม่สนใจละ
ลบเสียเลย แล้วตอกเลข ตามใบทะเบียน ปี 2518 ที่ตนครอบครองอยู่ .....แบบนี้ ก็สวมทะเบียนแล้วครับ
แต่ถือว่า ง่ายหน่อย ลบแค่ที่เดียว
.........แต่ถ้าจะสวมทะเบียน แบบสมัยใหม่ คือ ทะเบียนที่มีการระบุทั้ง ซีรีส์ นัมเบอร์ ทั้ง ระบุทะเบียนปืน ที่ระบุจังหวัด
แบบนี้ แหละ ที่ต้องมีการไสโครงปืนด้านข้างทิ้ง เพื่อทำให้ เลขซีรีส์ ด้านข้างซ้ายของโครงปืน ตรงกับใบทะเบียนที่จะเอามาสวม ไม่งั้น มันจะดูไม่กลมกลืน
........แล้วไอ้ซีรีส์ นัมเบอร์ เนี่ย มันตอกจากโรงงานมาลึกเอาเรื่อง ถ้าจะเอาออก ต้องไถโครงลึกมาก มันจึงทำให้โครงปืนด้านซ้าย บางลงอย่างเห็นได้ ชัด เพราะเขาต้องไล่ เลขออกให้หมด
.........โชคดีว่า ของเจ้าของกระทู้ ยังมีร่องรอยด้านขวามือ จำพวกตัวพี  ตัว รับรอง เอฟ เจ เอ ให้เห็นอยู่บ้าง เลยพอทราบที่มาที่ไป ว่าเป็น ยูเอส อาร์มมี่ แม้คำว่า เอ็ม 1911 เอ1 ยูไนเตทสเตท ฯ หายไปหมดแล้วก็ตาม
.........ถ้าไปเจอ บางกระบอก ไสออกทั้งสิ้น ทุกจุด มันจะโล้น เหมือนทะเลทรายเลย ท่านจะปวดหัวกว่านี้อีก
........มันจะเป็น 1911 เอ1 ในอุดมคติเลย ตามแบบพิมพ์เขียวทุกอย่าง แต่ว่า.....ไม่รู้ที่มาที่ไปเลย มันโล้นไปหมด
.........ต้องไปคลำหาจากอะไหล่ และการตอกเครื่องหมาย ภายในอีก ซึ่งดูยากกว่าภายนอก หลายสิบเท่า

...............ครับ ...........พอทราบเหตุผลของการทำร้ายปืนแล้วนะครับ .....ท่านบอกไม่สุด ......ผมอุตส่าห์ตื่นมาต่อให้ตอนตีห้ากันเลยครับ .............ขอได้รับความขอบคุณจาก เต่า เต๋า  บางเขนครับ
..........ไว้เจอกันเมื่อคิดถึง เอ็ม 1911 จ้า
บันทึกการเข้า
sigsax
Hero Member
*****

คะแนน 206
ออฟไลน์

กระทู้: 1778


ขึ้นลำแล้วลดนก


« ตอบ #38 เมื่อ: มกราคม 14, 2007, 07:35:46 AM »

ข้อมูลปืนดีอย่างนี้ต้องเรียกท่านเต๋าว่าอาจารย์ใหญ่เสียแล้ว Cheesy   ขอบคุณครับ หลงรัก
บันทึกการเข้า

หรอย
การไม่เป็นโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 618
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6416



« ตอบ #39 เมื่อ: มกราคม 14, 2007, 10:17:10 AM »

ขอบคุณมากๆๆครับ คุณ เต๋า อธิบายได้ละเอียดมากครับ
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #40 เมื่อ: มกราคม 15, 2007, 10:27:39 AM »

ข้อมูลปืนดีอย่างนี้ต้องเรียกท่านเต๋าว่าอาจารย์ใหญ่เสียแล้ว Cheesy   ขอบคุณครับ หลงรัก
กราบขอบพระคุณอย่างสูง แต่กระผมรับไม่ได้หรอกครับสำหรับ ตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ผมมันก็แค่คนรักปืน ที่ต้องการแสดงความจริงใจโดยปราศจากสิ่งปิดบัง ในเวปนี้ เท่านั้นเอง ขอรับกระผม
บันทึกการเข้า
thamcharoen
Full Member
***

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 267


...ดื่มแต่พองาม...แต่ห้ามมาว...เมา


« ตอบ #41 เมื่อ: มกราคม 15, 2007, 11:57:37 AM »

...ขอบคุณครับ พี่เต๋า บางเขน...ถึงแก่นเลยครับ...ทราบต้นสาย ปลายเหตุที่มาที่ไปครบถ้วน....แต่ว่ายังมีสิ่งค้างคาใจอีกนิดหน่อย
ครับ..คือว่าสรุปแล้ว ปืนกระบอกที่ผมได้มานี้ผิดกฏหมายใช่หรือไม่...ไม่สมควรเก็บไว้...แต่ถ้าเก็บไว้จะมีผลอะไรตามมาหรือไม่...ต้องเก็บเอาไว้เฉย ๆ เอาเข้าสนามก็ไม่ได้ใช่หรือไม่ ผมจะทำอย่างไรกับเจ้าแก่ตัวนี้ดี (ขออภัยที่ถามโง่ ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดีครับ)
บันทึกการเข้า

....ม้าแก่...แต่อยากกินหญ้าอ่อน.....
kung13kunpon
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 14
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 482



« ตอบ #42 เมื่อ: มกราคม 15, 2007, 12:07:29 PM »

น่าสนนะครับ
บันทึกการเข้า

ด้วยสองมือสองเท้าที่ก้าวมั่น
 จะสร้างฝันด้วยแรงอันแข็งขืน
 จะคว้าจันทร์งามยามค่ำคืน
 จะหยัดยืนปีนไปให้ถึงดาว
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #43 เมื่อ: มกราคม 15, 2007, 03:38:31 PM »

...ขอบคุณครับ พี่เต๋า บางเขน...ถึงแก่นเลยครับ...ทราบต้นสาย ปลายเหตุที่มาที่ไปครบถ้วน....แต่ว่ายังมีสิ่งค้างคาใจอีกนิดหน่อย
ครับ..คือว่าสรุปแล้ว ปืนกระบอกที่ผมได้มานี้ผิดกฏหมายใช่หรือไม่...ไม่สมควรเก็บไว้...แต่ถ้าเก็บไว้จะมีผลอะไรตามมาหรือไม่...ต้องเก็บเอาไว้เฉย ๆ เอาเข้าสนามก็ไม่ได้ใช่หรือไม่ ผมจะทำอย่างไรกับเจ้าแก่ตัวนี้ดี (ขออภัยที่ถามโง่ ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดีครับ)
สรุปว่า อย่ากังวลเลยครับ รัชกาลที่6 ท่านตรัสไว้ว่า "ความรู้เปรียบคู่ กำลัง กายเฮย  สุจริตคือเกราะบัง ศาตร์พ้อง "
ดังนั้น ตราบใด ที่เราได้มันมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน แล้วละก็  ไม่มีปัญหา หรอกครับ สามารถ นำไปใช้ นำไปยิง
และสามารถใช้ยิงป้องกันตัว พอสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ได้อีกด้วย (ยิงคนแล้วไม่ผิดกฎหมาย) สามารถทำได้ เพราะทะเบียนของท่านถูกต้อง ท่านได้มาโดยสุจริต ไม่ได้ไปทำการสวมมาด้วยตนเองเสียหน่อย ทะเบียนที่ถูกต้องก็มียืนยันอยู่แล้ว
.....ความผิดเกี่ยวกับเรื่องสวมทะเบียนปืน มันสำเร็จไปตั้งแต่คนก่อนเขาทำแล้ว ท่านไม่เกี่ยวครับ .....ใช้ได้เลย ไม่มีปัญหาครับ
เหมือนที่ครูดำท่านกล่าวไว้ ....อย่าไปกังวลเลยครับ
บันทึกการเข้า
thamcharoen
Full Member
***

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 267


...ดื่มแต่พองาม...แต่ห้ามมาว...เมา


« ตอบ #44 เมื่อ: มกราคม 15, 2007, 03:58:17 PM »

 หลงรัก ขอบคุณพี่ท่าน..ขอคารวะ 1 จอก...
บันทึกการเข้า

....ม้าแก่...แต่อยากกินหญ้าอ่อน.....
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.094 วินาที กับ 21 คำสั่ง