เสียใจด้วยกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับ
โบราณว่า อย่าไว้ใจทาง(สว่าง) อย่าวางใจคน(อื่น) จะจนใจ(ตัวเรา)เอง ...
ผมเห็นว่าเมื่อจะผ่านเส้นทางแบบนี้ (ที่
ชวนสงสัยว่าจะเกิดอันตราย) ก็ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน เช่นกระชับข้าวของให้รัดกุม มือถนัดจับอาวุธให้พร้อม (ในกระเป๋าหรือข้างเอวก็แล้วแต่) และมองการเคลื่อนไหวของคนที่คาดว่าจะเป็นอันตรายตลอดเวลา .... เมื่อเกิดเหตุ ให้ใช้อาวุธ แล้วเผ่น ....
เวลาผมกลับบ้าน จะเดินผ่านหลังตลาด ซึ่งมีอู่ซ่อมสีรถ ร้านคาราโอเกะห้องแถว และชุมชนแออัด ... ไม่มากครับ ระยะสัก ๑๐๐ เมตรเท่านั้น ถัดจากนั้นจึงเป็นหมู่บ้านซึ่งเงียบสงบอีก ๑๐๐ เมตรจึงถึงบ้านผม ... ผมเดินมาเป็นสิบปี ไม่เคยมีปัญหา (และไม่เคยได้ยินว่ามีปัญหา) พอแฟนแต่งงานและย้ายเข้ากรุงเทพแล้ว ช่วงแรกเธอเดินผ่านเส้นทางนี้ แล้วบอกว่าไม่ชอบ เพราะบางทีมีวัยรุ่นนั่งกินเหล้า พูดแซวบ้าง เธอก็เลยเลี่ยงไม่เดินเข้าเลย (นั่งแท็กซี่แทน) ... และหลังจากเธอไปเรียนขับรถทบทวนความรู้เก่าแล้วก็ไปถอยรถญี่ปุ่นมาขับ ๑ คันครับ .... เวลาใช้รถผมก็ยังเตือนให้ระวังรอบตัวก่อนเข้ารถด้วย และเมื่อเข้ารถแล้วก็ล็อคทันที ...
อยู่ กทม. ถึงจะไม่เครียดเหมือน ๓ จังหวัดภาคใต้ แต่ก็ต้องไม่ประมาทครับ ...
ไปบ้านแฟนที่ร้อยเอ็ดยังไม่ต้องระวังอะไรมากขนาดนี้เลย
