ท่านรองฯ ครับ หนังสือราคาถูกๆ ลองมาซื้อที่จตุจักรสิครับ 25 - 70% เชียว ใหม่เอี่ยมด้วยครับ
1. หวงอี้แต่งได้ดีมาก เป็นความลงระหว่างปรัชญาแนวใหม่ของโก้วเล้ง + คารมและแนวคิดมุมกลับของอึ้งย้ง
3. จินตนาการของเราสนุกว่าในหนัง 100 เท่าครับ หนังทำหมัดเทพยดาร้อยก้าว สภาวะจันทร์ในบ่อ พลังราชสีห์คำราม ฯลฯ สู้เราไม่ได้แน่นอน
วิ่งจู๊ดดดดมาชูมือคร๊าบบบบ
ถึงเล่ม9แล้ว เหมือนกับว่าจะสู้มังกรคู่สู้สิบทิศไม่ได้อ่ะครับพี่

ถ้าจะเอาความกระชับเนื้อเรื่อง ผมว่า เจาะเวลาหาจิ๋นซี เยี่ยมสุด (ยุค ก่อนรวมแผ่นดินจีน)
ความมันส์ ยกให้ เทพมารสะท้านภพ (ต้นแผ่นดินฮั่น) กับมังกรคู่สู้สิบทิศ (สมัยราชวงศ์ถังก่อตั้ง)
เรื่องนี้ อ่านไปสิบเล่มแล้ว หวงอี้ ค่อนข้างจะลากยาว แต่ยังงัยก็ตาม
ผมก็ชอบสำบัดสำนวนของหวงอี้ เพราะนักแต่งรุ่นใหม่ ยังไม่มีใครแปลมาให้อ่าน
......................เริ่มเรื่องจากที่ว่า แผ่นดินจีนขณะนั้น ยังไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียว มีแผ่นดินทางเหนือ และทางใต้
โดยมี เมืองที่อยู่ระหว่างกลางของทางเหนือทางใต้คือ เมืองฮวน ซึ่ง ประชาชนในเมืองนั้น ไม่นับถือกฎหมาย
ตั้งตนเป็นเอกเทศ เป็นศูนย์รวมของการค้าขายทางแดนเหนือและแดนใต้ พระเอกของเราในท้องเรื่องชื่อว่า
เอี้ยนเฟย เป็นคนสองเชื้อชาติ โดยมีพ่อเป็นคนจีน แต่มีแม่เป็นชนเผ่าเซียนเปย มีคนมีอดีตและความหลัง
หนีความจริงมาซ่อนตัวอยู่ในเมืองฮวน รับจ้างเป็นผู้คุ้มครอง มีเพลงกระบี่เป็นเลิศ แต่ยังไม่เก่งถึงขนาด
ตอนนั้น ข่านของชนเผ่า ได้ยกทัพจะมาตีแดนใต้ ยกกำลังพลมาหลายแสน กะว่าเมืองใต้เป็น
เฉกเช่นส้มในลัง หรือลูกมือในกำไก่ ราชวงศ์ที่ปกครองแดนใต้ขณะนั้น คือราชวงศ์จิ้นตะวันออก
ซึ่งเป็นกษัตริย์ในตระกูล สุมา (สุมาอี้ ในสามก๊ก คือต้นตระกูล) ก็ได้ปรึกษาอัครเสนาบดีซึ่งได้แก่ เซี่ยอาน
ให้ทำหน้าที่รับศึกในครั้งนี้ เซี่ยอาน ได้ให้หลานเป็นแม่ทัพใหญ่ชื่อ เซี่ยเสียน นำกำลังพล ๘๐,๐๐๐ คน
ซึ่งเรียกได้ว่า กองกำลัง เป่ยฝู่ ซึ่งรวบรวมขึ้นจาก ประชาชนที่ไม่ใช่ชนชั้นปกครอง เป็นพวกยากไร้แต่
นำมาฝึกอย่างเข้มแข็ง โดยมีขุนศึกที่โดดเด่นคือ ซุนอู่จง หลิวเหลาจือ เหอเชียน อยู่ในกองกำลังดังกล่าว
ตอนนี้ ได้เกิดนายทัพเล็กซึ่งเป็นสายสืบที่โดดเด่นคือ หลิวอวี้ (ต่อไปจะได้เป็นกษัตริย์แดนใต้)
อยู่ในกองกำลังดังกล่าว ในตอนต้นเรื่อง บทบาทพระเอกยังไม่เด่นนัก กล่าวถึงยุทธวิธีมากกว่า
สรุปว่า ข่านที่ยกทัพมาตี กำลังหลายแสน ได้แพ้กองทัพที่มีไพร่พลเพียง ๘๐,๐๐๐ จากศึกครั้งนั้น
ทำให้ เอี้ยนเฟย ได้รู้จักกับ หลิวอวี้ หลิวอวี้ รู้จักกับทัวปากุย ในเมืองฮวน แห่งนี้ เมื่อศึกสงบลง
เซี่ยเสียน ซึ่งเป็นแม่ทัพ ก็มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการสู้รบกับ มู่หยงฉุย
และ ประมุขนิกายสราญรมย์ เป็นอาการบาดเจ็บภายในค่อนข้างจะสาหัส แต่เก็บอาการไม่ให้ปรากฎ
ก็มี ตัวร้าย ๆ โผล่ขึ้นมาดังนี้คือ
๑. จู๋ฝ่าซิ่ง ซึ่งเป็นนักบวชอลัชชี อ้างตนเป็นพระศรีอารยเมตไตยมาเกิด
๒. ซุนเอิน ฉายา ศาสดาฟ้า เป็นกบฎทางเกาะไหหลำ
๓. มู่หยงฉุย ชนต่างชาติที่เข้มแข็งที่สุด ทำร้ายเซี่ยเสียนบาดเจ็บ
๔. ประมุขนิกายสราญรมย์ ( หลานของโจโฉ)
๕. นิกายเทพไทอี
และได้มีของวิเศษที่ทุกคนหากัน ได้แก่ หยกประดับ ฟ้า ดิน ใจ ซึ่งเล่ากันว่าเป็นของ
ปฐมกษัตริย์ หวงตี้ หากใครได้หยกประดับทั้งสามอันจะได้ค้นพบสุดยอดวิชา และทางแห่งเซียน
เอี้ยนเฟย ก็บังเอิญ ได้ของวิเศษชิ้นหนึ่งคือ โอสถกา ซึ่งเป็นของวิเศษตกทอดมาแต่อดีต
มีประวัติคือ มีนักบวชบำเพ็ญเพียรจนร่างกลายเป็นกองไฟ และมีนักบวชนิกายเต๋า ได้เก็บกองไฟ
ไว้ในโอสถกานี้.................................จบแค่นี้ก่อน ง่วงแล้ว ความจำเสื่อม
ท่านรองฯ ลืม แม่นางเชียนเชียนได้ไงครับ นี่คือของวิเศษในแดนดินที่หาไม่ได้ นอกจากในเมืองเปียนฮวนนะครับ