
...ตามมุมมองส่วนตัวของผม...เรื่องปืนสวัสดิการ...แรกเริ่มเดิมที...น่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อ ขรก. ชั้นผู้น้อย...เงินเดือนน้อย...ที่มีหน้าที่ที่จำเป็นต้องใช้อาวุธ...ทหาร/ตำรวจ/ฝ่ายปกครอง/ปราบปรามยาเสพติด/ความมั่นคง...(อะไรประมาณนั้น)...สาเหตุ...อาจเนื่องมาจากอาวุธปืนทางราชการเก่ามากแล้ว...มีปัญหาในการใช้งาน...ปืนหลวงต้องดูแลเป็นพิเศษ...ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้...ถ้าสูญหายต้องถูกสอบสวนทางวินัย...ต้องชดใช้ในราคาปืนใหม่...จำนวนที่มีอยู่ก็ไม่พอต่อจำนวนผู้ใช้งาน...ก็เลยเกิดโครงการปืนสวัสดิการขึ้น...
...แต่ต่อมา...ด้วยสาเหตุใดไม่อาจคาดเดาได้...ได้มีการแปรวัตถุประสงค์และเจตนาที่ดีนี้ไปเป็นอย่างอื่น...จนกระทั่ง...สมัยท่านปุระชัย(มท.1)...จึงได้ยกเลิกการอนุมัติโครงการเหล่านี้...
...ต่อมา...เมื่อเกิดเหตุสถานการณ์ 3 จชต. ...โครงการเหล่านี้ก็เกิดขึ้นมาใหม่...โดยอ้างเหตุจากสถานการณ์ 3 จชต. ...ซึ่งก็มีทั้งโครงการที่จริงบ้าง...หลอกลวงกันบ้าง...โดยเอาราคาปืนที่ถูกกว่าท้องตลาดมาล่อใจ ขรก. ทั้งหลาย...บ้างก็ได้ปืนไปเชยชม...บ้างก็ถูกหลอกก็ว่ากันไป...
...สุดท้าย...ก็กลายเป็นมั่วซั่ว...ข้อกำหนดกฎเกณฑ์...ก็ถูกแปรเปลี่ยนไป...ซื้อกันไปได้ทั่ว...กลับกลายเป็นว่า ขรก. คือผู้มีอภิสิทธิ์เรื่องของการซื้ออาวุธปืนได้ราคาถูกมากกว่าบุคคลธรรมดา...ด้วยประการละฉะนี้...
ปล. โปรดอย่าเหมารวมว่า ขรก. ทั้งหมดที่มีสิทธิ์ซื้อปืนราคาถูก...แล้วจะได้ตามที่ต้องการ...ลองมองต่างมุมดูครับ...
... ที่ถูกหลอกให้สูญเสียเงินไปก็เยอะ
... ที่ต้องกู้หนี้ยืมสิน...มาซื้อกันก็เยอะ...รวมราคาปืนกับดอกเบี้ยแล้ว...ก็คงเฉียด ๆ ราคาปืนที่ซื้อจากร้าน...เผลอ ๆ เล่น ยี่ห้อแพง ๆ กู้มาเยอะ ๆ ...แพงกว่าซื้อที่ร้านปืนเสียอีก...
... ได้ปืนราคาถูกกว่าตลาด...แต่ต้องเล่นเกมวัดดวง...
... รอเป็นปี...เสียทั้งเงิน(ถ้าโดนหลอก)...เสียทั้งดอกเบี้ย(ถ้ากู้มา)...เสียความรู้สึก(ถ้าไม่ได้ปืน)
... ราคาถูกกว่าตลาดก็จริง...แต่เป็นปืนมรดก...จะค้าขายเอากำไรก็ไม่ได้...
... ถ้าได้มาแล้ว...ไม่ถนัด...ไม่ถูกใจ...จะขายซื้อใหม่ก็ไม่ได้...
... ซื้อมาทั้งที...ยิงไม่กี่ครั้ง...เก็บเข้าตู้ก็เยอะไป...อ้าว...ก็ไม่มีหน้าที่จำเป็นที่ต้องใช้ต้องพกพา...นาน ๆ เอายิงซ้อมที...กันลืม...
... และแถมยังต้องถูกมองจากบุคคลประชาชนทั่วไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ดี...