ไปเจอในเวปมาครับ อ่านแล้วของขึ้นทันทีเลย
ปัจจุบัน เกาหลี ฟีเวอร์ - ทำไม? อนาคต ไทยแลนด์ฟีเวอร์ - ทำอย่างไร?
คอลัมน์ คนไทยทำได้
โดย บัณฑิต อึ้งรังษี
เดือนนี้ผมมาอยู่กรุงโซลเกือบทั้งเดือน เพราะทาง Korean National Opera ได้เชิญให้มาคอนดักท์การแสดงอุปรากรอิตาเลียน เรื่อง La Traviata เป็นจำนวน 8 ครั้ง ตระเวนทัวร์ทั่วประเทศเกาหลี
บุคลากรทางด้านเพลงคลาสสิคของเกาหลีในขณะนี้ มีความสามารถทัดเทียมกับระดับนานาชาติได้อย่างแน่นอน
นักร้องโอเปร่าของเกาหลีที่ผมมาเทรนให้ ทุกคนได้ไปเรียนที่อิตาลีเป็นเวลานาน และได้รับการศึกษาและการเทรนอย่างดี
ทุกคนพูดภาษาอิตาเลียนเป็นภาษาที่สอง กลายเป็นว่าผมต้องใช้ ภาษาอิตาเลียน ในการสื่อสารกับเขา แทน ภาษาอังกฤษ
แน่นอน ไม่ใช่เรื่องเพลงคลาสสิคอย่างเดียวที่เกาหลีเทียบเท่ากับนานาชาติ คนไทยทั่วไปก็ทราบดีว่าตอนนี้ ประเทศเกาหลีกำลังมาแรงมากในโลก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภาพยนตร์ หรือทีวี ดนตรี กีฬา แฟชั่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
คนรุ่นใหม่ของเกาหลี กำลัง "บุกโลก" -- ในอเมริกา และยุโรป
นักศึกษาเกาหลีประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น บางครั้งเกินหน้าเกินตาเจ้าของประเทศ โรงเรียนดนตรีคลาสสิคอันดับหนึ่งของอเมริกา คือ จูลลิอาร์ด (Juilliard) ในนิวยอร์ก ที่เข้ายากมหาหิน มีแต่นักเรียนเกาหลีเต็มไปหมด
นักกีฬาเกาหลีชนะรางวัลในระดับโลก เช่น เทวอน ปาร์ก อายุแค่ 17 ปี ชนะเหรียญทองการแข่งขันว่ายน้ำ ในวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ในประเทศออสเตรเลีย
ผมมาอยู่ที่นี่ก็เห็นความร่ำรวยอย่างผิดหูผิดตาของผู้คน วัฒนธรรม โดยเฉพาะวัฒนธรรมสากล เช่น เพลงคลาสสิค และโอเปรา มีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งต่างจากประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นขาลงของวัฒนธรรม โดยเฉพาะเพลงคลาสสิค
แน่นอน ความสำเร็จของประเทศเกาหลีอย่างนี้ไม่ได้เกิดมาได้เพราะฟลุค แต่มีเหตุผล มีการลงทุนลงแรงอย่างมากมายมหาศาล ต่อเนื่องมาเป็นเวลาสิบๆ ปี ทั้งทางด้านนโยบายของรัฐบาล และตัวบุคคลแต่ละคนเอง
พ่อตาของผม ชื่อ เจฟฟรีย์ โจนส์ เป็นชาวอเมริกัน แต่อยู่เกาหลีมา 27 ปี พูดภาษาเกาหลีได้เหมือนคนที่นี่
ขณะนี้เป็นคนสำคัญ และมีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของประเทศนี้ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่บุคคลระดับผู้นำ
ท่านได้เล่าว่า เมื่อท่านมาประเทศนี้ตอนแรกๆ ประเทศเกาหลีค่อนข้างล้าหลัง และยากจน
แต่ภายในระยะเวลาไม่ถึง 30 ปี ได้ก้าวหน้าเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง มีอุตสาหกรรมหนัก และการส่งออกที่ทัดเทียมกับประเทศเจริญแล้ว อย่างอเมริกา หรือญี่ปุ่น
และท่านนอกจากได้เห็นความเจริญอย่างรวดเร็วอันนี้มาตลอด ยังได้มีส่วนในการพัฒนาของประเทศนี้ด้วย
โดยทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ขอร้องให้ท่านมาเป็นส่วนที่สำคัญในมาตรการปราบปรามคอร์รัปชั่น
ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดีมาก
เพราะสมัยก่อน เกาหลีใต้ก็มีปัญหาการคอร์รัปชั่นมากมาย ไม่ผิดกับบ้านเรา
แต่สมัยนี้ดีขึ้นอย่างมากมาย เพราะคนทั่วไปเริ่มเข้าใจว่าประเทศชาติจะก้าวหน้าได้ช้ามาก ถ้ามีการคอร์รัปชั่น
ผมเองก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศนี้บ่อยพอสมควร รวมทั้งภรรยาก็เติบโตในเกาหลีใต้เป็นเวลามากกว่า 13 ปี
จึงมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับประเทศนี้ มากรองจากประเทศไทย และอเมริกา
ผมว่ามันเป็นไปได้ ที่ในอนาคต ประเทศไทยจะมีกระแสเป็นเหมือนเกาหลีในตอนนี้
ลองจินตนาการดูว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า หนังไทย "บุกโลก" ผู้คนต่างชาติเริ่มหันมาเรียนภาษาไทย ศิลปวัฒนธรรมไทย มวยไทย ฯลฯ เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ
คนไทยไปต่างประเทศ มีแต่คนให้เกียรติ ไม่ถูกดูถูก
ประเทศไทย มีชื่อเสียงในทางที่ดี
(ในขณะนี้ ถ้าคนต่างชาตินึกถึงประเทศเรา สิ่งแรกที่เขาคิดคือ เรื่อง Sex Industry อย่างหนึ่งที่สังเกตได้ คือหนังฮอลลีวู้ด เมื่อไหร่ที่มีพูดพาดพิงถึงเมืองไทย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่ดีทั้งนั้น ซึ่งคนไทยควรจะต้องช่วยเร่งแก้ภาพพจน์กันด่วน)
นักกีฬาไทย ดาราหนังไทย นักดนตรีไทย เป็นที่นิยมชมชอบทั่วเอเชีย
เป็น "ไทยแลนด์ ฟีเวอร์"
เป็นไปได้ เป็นไปได้ เป็นไปได้
แต่บางสิ่งบางอย่างต้องเปลี่ยนแปลง มีบางสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากคนเกาหลีได้
ผมถามมิสเตอร์เจฟฟรี โจนส์ พ่อตา ว่าทำไมประเทศเกาหลีจึงได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
คุยกันไปคุยกันมาก็สรุปได้ดังนี้
1.คนเกาหลีทำงานหนักมาก เรื่องนี้ผมเห็นมากับตาตนเอง เพราะทำงานที่นี่บ่อย ชั่วโมงการทำงานของเขาต่ออาทิตย์เยอะมากจริงๆ และทำงานกันจริงๆ จังๆ ไม่อู้
2.คนเกาหลีเป็นคนทะเยอทะยานมากๆ ซึ่งข้อนี้อาจจะต้องยกความดีให้กับพวกแม่ๆ เกาหลี เพราะปลูกฝังในเรื่องความขยัน ความสำเร็จ และการเอาชนะอุปสรรคให้กับลูก แม่ๆ ชาวเกาหลีจะเข้มต่อการศึกษาของลูกๆ มาก จะดันลูกตนเองแข่งขันกับคนอื่นตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้ลูกขี้เกียจ
3.คนเกาหลีไม่เป็น "กบในกะลา" นอกจากใจของเขามุ่งไปที่การแข่งขันระดับโลกแล้ว เขาไปสืบเสาะมาว่าคนเก่งๆ ในโลกเขาต้องทำอย่างไรกันบ้าง เขาเข้าใจว่าคนเก่งในโลกมีมากมาย เขาไม่มาหลอกตนเองว่าตนเองเก่งแล้ว พึงพอใจแล้ว ความทะเยอทะยานของเขา ดูที่โลกแห่งความจริง
4.คนเกาหลีไม่บูชาคนต่างชาติ แม้กระทั่งฝรั่ง อาจจะเป็นเพราะว่าประเทศเขาเคยถูกข่มเหงเป็นอย่างมากจาก ประเทศญึ่ปุ่น และจีน จึงไม่ค่อยเชื่อใจคนต่างชาติ แม้ฝรั่งที่มาทำงานอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เป็นฝรั่งประเภทที่หางานทำในประเทศตนเองไม่ได้ เลยมาอยู่ที่เกาหลี ถ้าคุณภาพไม่ได้ ก็ไม่มีสิทธิอยู่ หรือไม่ก้าวหน้า คนต่างชาติที่มาทำงานต้องพิสูจน์ตนเองทุกวัน ไม่ใช่ว่าได้เปรียบคนท้องถิ่น
ทำไมข้อนี้ถึงมีส่วนในการพัฒนาประเทศ ? เพราะงานจะไม่ตกไปอยู่ในมือคนต่างชาติ ถ้าคนสองคน สมัครงานเดียวกัน คุณภาพไล่เลี่ยกัน คนหนึ่งเป็นคนเกาหลี อีกคนหนึ่งเป็นฝรั่ง แน่นอนคนเกาหลีต้องได้แน่ (ซึ่งแตกต่างจากบ้านเรา) ทำให้คนของเขาได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง และคนต่างชาติไม่มีความควบคุมมากเกินไปในประเทศของเขา
5.เขาคิดว่ามันเป็นไปได้ ที่เขาจะเก่งเหนือคนตะวันตกได้ เขาเริ่มพัฒนาตนเอง และอุตสาหกรรม ไปสู้กับต่างชาติได้ เช่น LG, Samsung ซึ่งตอนนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทัดเทียมหรือแซงหน้าแม้กระทั่ง Sony
6.เขาปราบคอร์รัปชั่นได้สำเร็จ ทำให้เหตุใหญ่ที่ขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของประเทศลดลงไป
ผมมีความเชื่อว่าประเทศไทยเราก็พัฒนาให้ยิ่งใหญ่ได้ ต้องพัฒนาบุคลากรในประเทศในเวลานี้ ในจำนวนประเทศในเอเชีย ซึ่งเป็นทวีปที่คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ ประเทศของเราไม่ได้ถูกมองว่า "มาแรง"
ประเทศเสือแห่งเอเชียในตอนนี้ เช่น จีน อินเดีย เกาหลี เวียดนาม มีแนวโน้มในอนาคตอย่างที่ประเทศเราไม่มีเลย คนของเราขยันสู้เขาไม่ได้ ตื่นตัวสู้เขาไม่ได้ และไม่มีระบบสนับสนุนคนเก่งที่เพียงพอ
อัตราความก้าวหน้าของประเทศเรา ช้ากว่าแม้กระทั่งเวียดนาม คนงานเวียดนามมี productivity หรือ ประสิทธิผล มากกว่าคนงานไทย 5 เท่า และประเทศเขาก็มีคนมากกว่าเราถึง 11 ล้านคน
ผมกลัวว่าอีกแค่ไม่กี่ปี ประเทศเวียดนามก็อาจแซงหน้าเราไปในหลายๆ เรื่อง (สำหรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเจริญและการตื่นตัวของประเทศเวียดนาม ติดตามอ่านไดที่
www.thaicoach.com/new/new_column_th.php?info_id=81 ผมคิดว่าการที่ในอนาคต เป็นไปได้ที่เมืองไทยจะเป็นชาติมีบุคลากรมีคุณภาพ ทัดเทียมกับต่างประเทศได้ แต่ต้องเปลี่ยนทัศนคติและอุปนิสัยของคนในชาติเสียก่อน
นิสัยที่ทำงานลวกๆ ให้เสร็จๆ ไป ไม่ต้องดีหรือเลอเลิศมาก เป็นนิสัยที่ถ่วงความเจริญก้าวหน้ามาก (คนไทยเราอาจจะต้องจำตัวอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นอุทาหรณ์สอนใจ )
และต้องทดแทนด้วยความปรารถนาที่จะเป็นหนึ่งในโลกที่จะแข่งขัน ที่จะเป็นเยี่ยมเป็นเลิศ
ส่งความถามมาได้ที่
AskBundit@BunditMusic.com และอ่านบทความเดิมได้จาก
www.Matichon.co.th หรือ
www.BunditMusic.com