ขอบคุณครับ
เย็นนี้ ผมมี ปลากระดี่ทอดกรอบด้วยละ ตัวแค่หัวแม่มือ กรอบเคี้ยวได้ทั้งตัวเหมือนกันนะ ... ขอบอก

โห..บ้านนอกจัง..กระดี่แถวนี้มันอัพเกรดกลายพันธุ์เป็นปลานกแก้วแล้วครับ
เสียบไม้ย่างวางตามตลาด..

ที่ผมยังได้กินบ่อย ๆ เพราะ เจ๊เพ็ญ แม่ค้าเจ้าประจำแกยังมีที่นาอยู่บ้านนอกครับ ได้ปลาซิว ปลากระดี่ ปลาเล็กปลาน้อย
มาทำกับข้าวขี่จักรยานขายให้ผมได้รอดตายอยู่บ่อย ๆ ครับ

ไม่เหลือแล้วครับทางนี้... กระดี่เสียบไม้ ปลาซิวคลุกขี้หมิ้นทอด
ปลากริมคั่วเผ็ดใบรา
สภาพน้ำชิหัยเหม็ด ปลาที่อ่อนไหวอยู่ไม่ได้เลย...
และหนองน้ำกลายสภาพเป็นกล่องปูนเสริมเหล็ก เป็นพื้นแอสฟัลท์ไปหมด
ปลาน้ำจืดธรรมชาติที่พอได้เห็นก็พวกปลาถึก ๆ
พวกปลาดุก ปลาช่อน ปลาหมอ ไม่กี่ประเภทแล้วครับ
ซึ่งก็ขนาดแคระเกร็นไปหมด...

โห ... ในกรุงจัง

น่าเสียดายนะครับ ได้ความเจริญของวัตถุเข้ามา แต่ต้องสูญเสีย ความอร่อยไป

อย่าว่าตรงโน้น ตรงนี้เลยครับ...
หน้าบ้านผม ติดคลองอู่ตะเภา
ตอนย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ ประมาณยี่สิบกว่าปีแระ(แก่เชียว.... )
คลองหน้าบ้าน ตอนเย็นปีนลงไปเดินเลียบคลอง
มีหอยเชอรี่...มีกุ้งฝอยโดดด๊อกแด๊ก
มีตะพาบน้ำ... ปลาโน่น ปลานี่...ปลานิลว่ายใต้กอผักตบเป็นฝูง
ผ่านมาอีกไม่ถึงสิบปี..สภาพแบบนั้นหายไป
แม้น้ำจะดูแล้วไม่มีมลพิษ..สีน้ำคลองแบบทั่วไป
แต่กุ้งที่เคยเห็น ไม่มีแม้แต่หาง..ปลามีน้อยนิด
แม้กระทั่งหอยเชอรี่..หดหัวหดหนวดหายหมด ไม่เหลือแม้แต่ซากเปลือก
จะไม่ให้หายได้ไง...พวกปักไม้..ผูกเชือก
เลี้ยงผักบุ้งผักกะเฉด...
เลี้ยงไม่เลี้ยงเปล่า...มันแจวเรือฉีดยาฆ่าแมลงใส่ด้วย
ฉีดลงไปทั้ง ๆ ที่ผักกะเฉด ผักบุ้งลอยอยู่ในคลองนั่นแหละ..
ไม่นับน้ำเสียของโรงงานทางต้นน้ำอีก...
อร๊ายยยยยย...มันจะเหลืออะไร... แง่ง
