ผมเองในฐานะที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรม..... เหมือนกัน เลยอยากให้ข้อมูลไว้ซักนิดนึงครับว่า รถยนต์ Hybrid นั้นไม่ว่าจะเป็นของค่ายไหนในโลกนี้ทั้งฝั่งตะวันตก (มีค่ายยุโรปและอเมริกาเป็นผู้นำ) และฝั่งตะวันออก (ซึ่งมีค่ายทางญี่ปุ่นเป็นผู้นำ) ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาก็เพื่อจะให้เป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งของการใช้พลังงาน เนื่องจากพลังงานที่ได้จากเชื้อเพลิงที่มาจากแหล่งน้ำมันดิบในธนนมชาตินับวันจะมีราคาสูงมากขึ้นและหายากขึ้น ทิศทางในการหาพลังงานทดแทนน้ำมันในวงการอุตฯ นั้นได้กระทำมาอย่างต่อเนื่องหลังจากยุคที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมและเกิดวิกฤติการน้ำมันขึ้นในโลก ดังนั้นผมจึงอยากให้ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับทิศทาง (Strategic Direction) ของอุตสาหกรรม....ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและการพัฒนาพลังงานทดแทนดังนี้
1. การพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบสันดาปภายใน
(Optimization of combustion engine) ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่จำกัดอยู่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน (Gasoline engine) หรือเครื่องยนต์ดีเซล (Diesel engine) โดยจะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ Output หรือ Torque ที่ได้จากเครื่องยนต์นั้นจะมีค่าที่สูงขึ้น ในขณะที่ขนาดปริมาตรกระบอกสูบ (Displacement) เท่าเดิมหรือน้อยลง หรือแม้กระทั้งให้ประสิทธิภาพสูงสุดที่รอบต่ำลงอีกด้วย นอกจากนั้นในการพัฒนาดังกล่าว ยังจะต้องคำนึงถึงการลดลงของปริมาณมลพิษและไอเสียที่เกิดขึ้นด้วย
โดยที่เป้าหมายหลักก็คือการสร้างเครื่องยนต์ที่ประหยัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับประสิทธิผลที่ได้รับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกค่ายทำการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายที่สุดในบรรดาขั้นตอนในการพัฒนาและวิจัยในเรื่องนี้
2. การพัฒนาคุณภาพหรือประเภทของเชื้อเพลิง
(Optimization of natural fuel and energy) ในเรื่องนี้ ทางอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงได้ทำงานร่วมกัน เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในปัจจุบันให้สามารถรองรับซึ่งกันและกันได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในเรื่องนี้ก็คงเกี่ยวข้องกับแก็สโซฮออล์ หรือ ก๊าซธรรมชาติ (CNG-Compressed Natural Gas) ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังมีเรื่องราวมากกว่าที่พวกเราได้ยินได้ฟังกันในปัจจุบันอยู่มากมายหลายชนิดครับ
3. การพัฒนาเชื้อเพลิงที่ได้จากธรรมชาติ (Bio energy) ขั้นตอนนี้ค่อนข้างจะสลับซับซ้อนกว่าสองขั้นตอนแรก เนื่องจากจำเป็นต้องอาศัยการค้นคว้าและวิจัยเป็นอย่างมาก เพราะเชื้อเพลิงที่ว่านี้จะถูกสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่จากสิ่งที่มี่อยู่ตามธรรมชาติ ตัวอย่างในปัจจุบันก็คือการสกัดน้ำมันเชื้อเพลิงจากพืช ซึ่งสามารถนำมาปรับปรุงใช้กับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ ค่ายยุโรปค่ายนึง (ขอไม่เอ่ยชื่อนะครับ) เริ่มค้นคว้าการสกัดน้ำมันที่สามารถใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลในปัจจุบัน โดยน้ำมันดังกล่าวได้ถูกสกัดมาจากพืชชนิดนึงซึ่งสามารถปลูกได้ในพื้นที่กันดารและแล้งได้ ไม่ต้องมาผสมกับน้ำมันดีเซลที่มาจากการซากฟอสซิลเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวอย่างที่ผมพูดถึงก็เป็นเพียงขั้นตอนที่กำลังอยู่ในการวิจัย ยังไม่สามารถทำเพื่อเชิงพาณิชย์ได้
4. การพัฒนาเทคโนโลยี Hybrid โดยสรุปแล้วเป็นการนำเอา 3 ขั้นตอนแรกเข้ามาพัฒนาโดยมีพื้นฐานของพลังงานไฟฟ้าเป็นองค์ประกอบ ถ้าจะพูดอย่างจริงใจเลยน่ะครับ...ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าขั้นนี้การพัฒนายังไม่ถึงจุดที่จะนำมาใช้เพื่อการทดแทนหรือลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างจริงจังได้ เพราะทุกอย่างที่เรากำลังพูดถึงในเรื่องของ Hybrid นั้น (ผมขอเสนอความคิดเห็นเฉพาะในช่วงเวลาปัจจุบันนี้เท่านั้นครับ) ส่วนใหญ่เราพูดกันด้านเดียว ก็คือระยะทาง (ไม่ว่าจะวัดเป็น กม. หรือไมล์ก็ตาม) ต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เราลืมไปหรือไม่ว่า เมื่อแปรรูปพลังงานเป็นพลังงานไฟฟ้า แหล่งกำเนิดของพลังงานไฟฟ้ามาจากไหน เทคโนโลยีของการเก็บกระแสไฟ (แบตเตอรี) ได้รับการพัฒนาไปถึงไหนแล้ว การกำจัดมลพิษที่เกิดขึ้นจากแบตเตอรีจะต้องใช้ค่าใช่จ่ายเท่าไหร่ มีต้นทุนในการดำเนินการมากน้อยขนาดไหน มีผลเสียทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไร แต่ไม่ใช่ผมค้านเรื่องระบบ Hybrid นะครับ แต่ผมว่าเร็วเกินไปในการทำ Commercialize โดยเฉพาะกับประเทศที่ (กำลัง) พัฒนาอย่างประเทศไทยครับ
5. การพัฒนาในขั้นสุดท้ายก็คงจะเกี่ยวข้องกับการหาพลังงานที่ได้มาจากธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดไอเสียหรือมลพิษ (Emission Free) ซึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Fuel Cell ซึ่งการพัฒนาระบบที่ใช้ Fuel Cell นั้น ทุกค่ายยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ในโลกต่างก็ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยในปัจจุบัน ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวของเทคโนโลยีก็ได้ถูกแก้ไขได้บ้างในบางส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดของแบตเตอรีในการเก็บกระแสไฟ การสตาร์ทในอุณหภูมิที่ต่ำ รวมถึงระยะทางที่วิ่งได้ของรถที่ใช้พลังงานจาก Fuel Cell ในการขับเคลื่อน การทดสอบเทคโนโลยีนี้ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกา ยุโรป หรือใน Asia ก็ตาม ก็ยังเป็นเพียงการหาทางออกให้กับข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Fuel Cell ทั้งสิ้น ยังไม่สามารถนำมาใช้เพื่อเชิงพาณิชย์ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นปัจจัยอื่นยังคงต้องการการแก้ปัญหา ซึ่งผมเชื่อว่าในระยะเวลาไกน 5-10 ปีข้างหน้าเราคงจะได้เห็นทั้ง Hybrid และ Fuel Cell ที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
เอาไว้ถ้าผมมีเวลา ผมจะขอให้ข้อมูลต่อในเรื่องราคาครับ......