คอปืน ๓ - ๔ ใน ๑๐๐ คน เท่านั้นมั้ง ที่เคยใช้อาวุธปืนยิงเพื่อชีวิต .. เมื่อท่านเหล่านี้ มาพูดบอก นั้นเป็นเรื่องจากประสบการณ์จริง
น่ารับฟัง น่าเชื่อกว่า คอปืนแบบ จะคิดไปเองแบบเรื่อย เปื่อยยย ย แบบ ยิง ๓ - ๖ นัด ก็จบ..นั่น เป็นแบบคิดว่า โจร คนร้าย มีแค่สากกระมังครับ

และถ้ามองทางด้านจิตวิทยาแล้ว เท่าเปลือยความคิด ตนเองว่า เป็นคน กลุ่มใด ใช่ประเภท ยิงแล้วเอาแต่หนีลูกเดียว ไหม.
๓ -๖ นัด.. ถ้าไม่จบละ ท่านนั่นละที่จะจบเกมส์ และปืนจักเป็นของแถม.. ทำไมไม่คิดเผื่อ เพื่อศักยภาพของตนเองบ้างละครับ
สำหรับคนมือกุมปืน ด้วยกัน จักต้องคิดเผื่อไว้สำหรับตัวเอง ด้วย.. ให้มีชีวิตรอดไว้อยู่เสมอ ไม่ใช่กอดคอเจ็บ-ตาย ไปกับโจร - คนร้าย
คนคอปืน ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ จนท. จึงเป็นกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อ ได้เสมอกัน .. การจะพึ่งตนเองได้ จักต้องทำตนให้มีศักยภาพซะก่อน
ท่านจึงจะพึงตนเองและเป็นที่พึ่งพาของ.. คนรอบข้างได้
การพึ่งตนเองได้ ก็คือพึ่งพาใช้อาวุธปืนที่ตนเองมีอยู่ ศักยภาพของอาวุธปืน คือจำนวนกระสุนที่บรรจุที่มากกว่าในตัวปืนและการโหลดที่รวดเร็ว
อย่าลืมว่า เมื่อหมดกระสุน ปืนก็ไม่ต่างจากสาก .. อุตส่าห์ หาซื้อปืนราคาแพง มาได้
ยังมาประมาท คิดแบบเด็ก ๆ กับการ ติดกับดัก ตกม้าตายอยู่กับการ ยิง ๒ - ๓ นัด แล้วยังจุกระสุนให้พอยิงเท่านั้น อยู่อีกเหรอ ทำไม่ไม่จุไปให้เต็มแม็กฯ ละครับ.

ผมเป็นคนคบปืนเป็นเพื่อน เคยยิง เคยใช้อาวุธปืนเพื่อเอาตัวรอด .. ไม่ได้พูดเอามันส์ นะครับ
โหลดเต็มแม็กตลอด ยัง + ๒ - ๓ แม็กฯ และไม่เคย วิตกจริต กับเรื่องสปริงแม็กฯล้า แม้แต่จิ๊ดเดียว.

ความเห็นของพี่ท่านนี้ถือว่าชั้นครูครับประสบการ์ณแน่นปึ๊ก...ฟังไว้ไม่เสียหลาย
