อันเนื่องจากกระทู้
พรุ่งนี้แล้ว07-07-07เลยมีข่าวเล็กๆมาฝาก
คม-ชัด-ลึก07.07.07 ไม่ใช่รหัสลับสะท้านโลก แต่หมายถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2007 หรืออีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
เป็นวันที่จะมีการประกาศรายชื่อ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (ใหม่) ณ กรุงลิสบอน โปรตุเกส
โดยผู้จัดงานนี้อ้างว่าเป็นผลจากการลงคะแนนเสียงทางอินเทอร์เน็ตและทางโทรศัพท์
จากผู้สนใจทั่วโลกราว 50 ล้านคน โดยมีสถานที่สำคัญของโลกที่เป็นตัวเต็ง 10 อันดับคือ
1.กำแพงเมืองจีน
2.โคลอสเซียม สนามกีฬาโรมันในอิตาลี
3.มาชู ปิกชู เมืองโบราณสมัยอินคาในเปรู
4.โครโปลิส เทวสถานในกรีซ
5.พีระมิดชีเชน อิตซาในเม็กซิโก
6.หอไอเฟลในฝรั่งเศส
7.อนุสาวรีย์มนุษย์โบราณที่หมู่เกาะอีสเตอร์
8.รูปสลักพระเยซูคริสต์ในบราซิล
9.ทัชมาฮาลในอินเดีย
10.เพตรา เมืองโบราณในจอร์แดน ("คม ชัด ลึก" 15 มิ.ย. 2550)
ข่าวนี้สร้างความงุนงง สงสัย ข้องใจ ให้ใครต่อใครไม่น้อย ว่าทำไมต้องมาค้นหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกกันใหม่
เพื่ออะไร? และเพื่อใคร? คงจำกันได้ ในอดีตเคยมีการคัดสรร 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกมาแล้ว
โดยแบ่งเป็น 3 ยุค ยุคละ 7 แห่ง รวม 21 แห่ง คือยุคต้น เก่าแก่เกิน 5,000 ปี ได้แก่ พีระมิดใหญ่แห่งเมืองกีซา
สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน ฯลฯ ยุคกลาง ได้แก่ โคลอสเซียม กำแพงเมืองจีน สโตนเฮนจ์ ฯลฯ
และยุคใหม่ (ไม่เกิน 1,000 ปี) เช่น ทัชมาฮาล นครวัด ฯลฯ
แต่ต่อมา การจัดอันดับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะบางแห่งอย่างสวนลอยบาบิโลน
ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอิรัก ไม่เหลือร่องรอยให้เห็นแล้ว ที่แย่ไปกว่านั้น คือมีการจัดสิ่งก่อสร้างยุคหลังปฏิวัติอุตสาหกรรม
ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการสร้าง อย่างเขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ ตึกเอ็มไพร์สเตท สะพานโกลเดนเกต
หรือแม้กระทั่งเรือควีนแมรี่ คุณพี่ยังดันทุรังจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์กลุ่มเดียวกับนครวัด และทัชมาฮาล ซึ่งใช้ภูมิปัญญา
โบราณ ก็เลยรู้ว่าคนจัดน่าจะเป็นอเมริกันชนที่หวังโฆษณาความเก่งกาจก้าวหน้าของตนเองเพื่อข่มขวัญโซเวียต
และจีน ศัตรูทางการเมืองในยุคสงครามเย็นเมื่อกึ่งศตวรรษก่อน
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเลยกลายเป็นเรื่องตลก ทั้งๆ ที่หลายแห่งในจำนวนนั้นมันน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ ระยะหลังผู้คน
จึงมาให้ความสนใจกับ "บัญชีมรดกโลก" (World Heritage) ขององค์การยูเนสโกมากกว่า เพราะใช้หลักวิชาการทาง
ประวัติศาสตร์ โบราณคดี มาพิจารณาขึ้นทะเบียนสถานที่สำคัญเป็นมรดกโลกของมวลมนุษยชาติ เพื่อหวังผลใน
ด้านการอนุรักษ์ โดยไม่สนใจความแปลกประหลาดมหัศจรรย์ ประเทศไหนมีงบน้อย แต่มีมรดกทางอารยธรรมล้ำค่ามาก
อย่างลาว กัมพูชา ฯลฯ ยูเนสโกก็หนุนช่วยทั้งการบูรณะและประชาสัมพันธ์ให้คนมาเที่ยว ปัจจุบันนี้มีสถานที่สำคัญ
กว่า 830 แห่งทั่วโลก ที่อยู่ในบัญชีมรดกโลกของยูเนสโก ซึ่งรวมถึงสุโขทัย พระนครศรีอยุธยา บ้านเชียง ฯลฯ
ของไทยเราด้วย
อยู่มาวันหนึ่ง หลังกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถานระเบิดพระพุทธรูปที่หน้าผาแห่งหุบเขาบามิยันย่อยยับ
ในปี 2001 เกิดมีนักสร้างหนัง นักสำรวจโลกและภัณฑารักษ์ชาวสวิส ชื่อนายเบอร์นาร์ด เวเบอร์
ประกาศตั้งมูลนิธิ 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกใหม่ (New 7 Wonders Foundation) รณรงค์ให้ชาวโลกช่วยกัน
โหวตคัดเลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ ผ่านทางเวบไซต์
www.new7wonders.com และทางโทรศัพท์
โดยอ้างว่าเพื่อให้คนยุคปัจจุบันมีส่วนร่วมในการกำหนดสถานที่ที่น่าจดจำ แทนสิ่งมหัศจรรย์เก่าที่จัดไว้นานแล้ว
จะได้เกิดจิตสำนึกร่วมกันในการปกปักรักษา อีกทั้งระบุว่าจะระดมทุนไปบูรณะพระพุทธรูปที่บามิยันด้วย
ผมอนุโมทนาสาธุในจิตอันเป็นกุศลของคุณเวเบอร์ แต่ที่งุนงงมากๆ คือวิธีการคัดเลือก ที่บอกว่าเริ่มต้นจากบัญชี
รายชื่อสถานที่สำคัญกว่า 200 แห่งทั่วโลก นำมาคัดเหลือ 77 แห่ง โดยไม่รู้ว่าใช้หลักเกณฑ์อะไรในการคัด
จากนั้น ได้ให้นายเฟเดอริโก เมเยอร์ อดีตเลขาธิการองค์การยูเนสโกคัดเหลือ 21 แห่ง แล้วให้ชาวโลกโหวต
เหลือ 7 แห่ง ซึ่งล่าสุดมีแคนดิเดต 10 แห่งที่ได้คะแนนโหวตสูงดังกล่าวมาแล้ว
ที่งงคือการไม่แบ่งประเภทโบราณสถานตามยุคสมัยที่มีการก่อสร้าง จึงเกิดปรากฏการณ์แปลกๆ
คือ มีหอไอเฟลยืนเป็นคู่ชิงกับกำแพงเมืองจีน และโคลอสเซียม โดยไม่มีทั้งพีระมิดอียิปต์
และปราสาทนครวัดเข้ารอบ 10 แห่งสุดท้าย โชคดีแค่ไหนที่อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพของอเมริกา
ซึ่งติดกลุ่ม 21 ไม่ไปติดกลุ่ม 10 ด้วย ไม่งั้นอาจเป็นตลกขมประจำศตวรรษ พูดอย่างนี้มิได้หมายทำลายน้ำใจกัน
เพราะรู้ว่าหอไอเฟลและเทพีสันติภาพมีความสำคัญต่อจิตใจชาวฝรั่งเศสและอเมริกันชนเพียงใด
แต่ยอมรับกันไหมว่ายุคสมัยและภูมิปัญญาในการก่อสร้าง มันห่างกับพีระมิด โคลอสเซียม กำแพงเมืองจีนลิบลับ
ยังไม่ต้องพูดถึงการให้ชาวกัมพูชาโหวตเชียร์นครวัด แข่งกับคนอเมริกันโหวตดันเทพีสันติภาพ
หรือชาวจีนโหวตให้กำแพงเมืองจีน มันจะต่างอะไรกับการส่ง สมรักษ์ คำสิงห์ ไปชกกับ ไมค์ ไทสัน ?
งานนี้เป็นเรื่องเป็นราวถึงขั้นรัฐบาลอียิปต์ส่งหนังสือประท้วง จนผู้จัดต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอดด้วยการถอดพีระมิด
จากบัญชี 21 แล้วมอบตำแหน่ง "ผู้ท้าชิงกิตติมศักดิ์" ให้แทน แต่ก็ยังไม่วายโดนทางอียิปต์กระแนะกระแหนว่า
การจัดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกใหม่ในครั้งนี้ เป็นเพียงความพยายามอย่างน่าทึ่งในการประชาสัมพันธ์ตัวเอง
ของผู้จัดเท่านั้น (ผู้จัดการรายวัน 26 พ.ค. 2550)