เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 22, 2025, 05:38:08 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องของรถไฟ..  (อ่าน 4407 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RouRou_Mel - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 135
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 711


« ตอบ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 12:13:29 AM »

ขอมองคนละมุมกับผู้เขียนครับ
ผมไม่นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องครับ

เหตุที่รถไฟไทย ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้
ทำไม่เราไม่มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างเมืองบ้าง เช่น กรุงเทพ - เชียงใหม่
คำตอบง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องการเมืองครับ
เพราะทำแล้วไม่คุ้มทุน ถ้าทำจริงค่าตั๋วรถไฟคงประมาณ 10,000 บาท ขึ้นไป

ระบบรถไฟไม่ใช่ราคาถูกๆจนใครคิดว่าจะทำก็ได้ครับ
เราลองมาดูพวกรถไฟดังๆในประเทศเหล่านี้บ้าง พวกนี้เป็นเจ้าเทคโนโลยีรถไฟ
พวกนี้มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างเมือง แต่คนในประเทศเหล่านั้น เขาไม่นิยมเดินทางด้วยรถไฟกัน
เช่น

ญี่ปุ่น
รถไฟจรวด ซินคังเซ็ง ที่วิ่งได้เร็วกว่า 200 กม. ต่อ ชั่วโมง
แต่คนญี่ปุ่นไม่นิยมใช้กัน ส่วนมากจะนั่งเครื่องบินมากกว่า เพราะค่าตั๋วเครื่องบิน ถูกกว่ารถไฟ 2-3 เท่า
คนที่ใช้บริการส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
รถไฟจรวดขาดทุนทุกปี แต่ไม่เลิกกิจการเพราะรัฐบาลช่วยสนับสนุน เป็นการรักษาหน้ามากกว่า
เหมือนกันเกาหลีไต้
ตอนนี้ญี่ปุ่นพัฒนารรถไฟให้วิ่งได้ 300 กว่าๆ แต่ก็ใช้แล้วก็ยังสู้เครื่องบินไม่ได้เพราะ
ระบบรางมันเป็นรางเก่า พอเจอทางเลี้ยวก็ต้องลดความเร็วอยู่ดี

ถ้าจะให้วิ่งได้ 300 กว่า ต้องสร้างรางใหม่ทั้งหมด สุดท้ายก็ต้องวิ่งแค่ 200 เท่ากับของเดิม

ฝรั่งเศษ + อังกฤษ
TGV รถไฟที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก เชื่อม London กับ Palis
ก็ไม่เป็นที่นิยม เพราะค่าตั่วแพงกว่าเครื่องบินหลายเท่า
เพราะนอกจากราคาระบบรถไฟที่แพงระยับแล้ว ว่ากันว่ารถไฟคันนึงแพงกว่าเครื่องบินอีก
อีกอย่างที่แพงก็คือ ค่า ตรวจเช็คระบบราง และ ค่าบำรุงรักษา
โดยเฉราะตรวจระบบรางนั้นแพงมากๆ เพราะก่อนที่ TGV จะวิ่งทุกครั้งก็ต้องมีรถตรวจรางวิ่งไปก่อน
หลังวิ่งก็ต้องมีการเช็คว่ารางมีการเคลื่อนตัวหรือเปล่า
การตรวจต้องถี่ยิบ แบบพลาดไม่ได้
เพราะถ้ารางเคลื่อนแค่ 1-2 เช็นติเมตร แล้วไม่มีการครวจเช็ค หรือ ตรวจไม่เจอ ทำให้รถไฟตกรางได้
ลองนึกภาพซิครับว่ารถไฟที่วิ่ง 400 กม. ต่อชั่วโมง ตกรางแล้วจะเป็นอย่างไร
จุดอ่อนของราง TGV อยู่ที่ อุโมงค์ลอดช่องแคบอังกฤษ เพราะอุโมงค์มีการเคลื่อนตัว รถยนต์จะไม่รู้สึกอะไร
แต่รางรถไฟมันไม่ได้ รางช่วงนั้นมี Censor อยู่ทุดจุด (ก็เป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น)
TGV ก็กลายเป็นรถไฟโชว์ เทคโนโลยี ไปเหมือนญี่ปุ่น

เยอรมัน
คิดรถไฟแม่เหล็กที่วิ่งได้ประมาณ 500 กม. ต่อ ชั่วโมง
แต่ตัวเองไม่ใช่ ขายให้จีนนำมาวิ่งระหว่างสนามบิน Pudong ไปเมือง เซี่ยงไฮ้ ระยะทางไม่กี่กิโลเมตร
ที่เยอรมันไม่ใช้เพราะรถไฟมัน "เลี้ยว" เป็นวงแคบๆไม่ได้
ถ้าจะให้เลี้ยวได้ 90 องศา รัศมีวงเลี้ยวอาจจะประมาณ 20 กิโลเมตร

 
บันทึกการเข้า

rouroumel.multiply.com
Dexphet
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1374



« ตอบ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 01:12:59 AM »

จริงครับค่ารถไฟ  ในต่างประเทศแพงมากครับ
แต่รถไฟในบ้านเราอยากให้ดูแล  เรื่องสุขอนามัย
ของห้องน้ำและตู้สะเบียงก็พอครับ ไม่ต้องถึงขนาด
เปลี่ยนรถไฟใหม่หรอก  Cool
บันทึกการเข้า
SigPro-รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 177
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3308



« ตอบ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 02:06:10 AM »

   เห็นด้วยกับข้อความข้างต้นครับ  ค่าโดยสารรถไฟในต่างประเทศแพงกว่าค่าเครื่องบินเยอะ  แถมใช้เวลานานกว่าด้วยครับ
บันทึกการเข้า

แจกโคมใส ใว้ให้ครอบแทนกะลา
เบื่อเสียงหมา หาว่ากูไม่ใช่ไทย
ARMSCOR
Sr. Member
****

คะแนน 10
ออฟไลน์

กระทู้: 590


« ตอบ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 10:46:52 AM »

ขอมองคนละมุมกับผู้เขียนครับ
ผมไม่นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องครับ

เหตุที่รถไฟไทย ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้
ทำไม่เราไม่มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างเมืองบ้าง เช่น กรุงเทพ - เชียงใหม่
คำตอบง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องการเมืองครับ
เพราะทำแล้วไม่คุ้มทุน ถ้าทำจริงค่าตั๋วรถไฟคงประมาณ 10,000 บาท ขึ้นไป

ระบบรถไฟไม่ใช่ราคาถูกๆจนใครคิดว่าจะทำก็ได้ครับ
เราลองมาดูพวกรถไฟดังๆในประเทศเหล่านี้บ้าง พวกนี้เป็นเจ้าเทคโนโลยีรถไฟ
พวกนี้มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างเมือง แต่คนในประเทศเหล่านั้น เขาไม่นิยมเดินทางด้วยรถไฟกัน
เช่น

ญี่ปุ่น
รถไฟจรวด ซินคังเซ็ง ที่วิ่งได้เร็วกว่า 200 กม. ต่อ ชั่วโมง
แต่คนญี่ปุ่นไม่นิยมใช้กัน ส่วนมากจะนั่งเครื่องบินมากกว่า เพราะค่าตั๋วเครื่องบิน ถูกกว่ารถไฟ 2-3 เท่า
คนที่ใช้บริการส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
รถไฟจรวดขาดทุนทุกปี แต่ไม่เลิกกิจการเพราะรัฐบาลช่วยสนับสนุน เป็นการรักษาหน้ามากกว่า
เหมือนกันเกาหลีไต้
ตอนนี้ญี่ปุ่นพัฒนารรถไฟให้วิ่งได้ 300 กว่าๆ แต่ก็ใช้แล้วก็ยังสู้เครื่องบินไม่ได้เพราะ
ระบบรางมันเป็นรางเก่า พอเจอทางเลี้ยวก็ต้องลดความเร็วอยู่ดี

ถ้าจะให้วิ่งได้ 300 กว่า ต้องสร้างรางใหม่ทั้งหมด สุดท้ายก็ต้องวิ่งแค่ 200 เท่ากับของเดิม

ฝรั่งเศษ + อังกฤษ
TGV รถไฟที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก เชื่อม London กับ Palis
ก็ไม่เป็นที่นิยม เพราะค่าตั่วแพงกว่าเครื่องบินหลายเท่า
เพราะนอกจากราคาระบบรถไฟที่แพงระยับแล้ว ว่ากันว่ารถไฟคันนึงแพงกว่าเครื่องบินอีก
อีกอย่างที่แพงก็คือ ค่า ตรวจเช็คระบบราง และ ค่าบำรุงรักษา
โดยเฉราะตรวจระบบรางนั้นแพงมากๆ เพราะก่อนที่ TGV จะวิ่งทุกครั้งก็ต้องมีรถตรวจรางวิ่งไปก่อน
หลังวิ่งก็ต้องมีการเช็คว่ารางมีการเคลื่อนตัวหรือเปล่า
การตรวจต้องถี่ยิบ แบบพลาดไม่ได้
เพราะถ้ารางเคลื่อนแค่ 1-2 เช็นติเมตร แล้วไม่มีการครวจเช็ค หรือ ตรวจไม่เจอ ทำให้รถไฟตกรางได้
ลองนึกภาพซิครับว่ารถไฟที่วิ่ง 400 กม. ต่อชั่วโมง ตกรางแล้วจะเป็นอย่างไร
จุดอ่อนของราง TGV อยู่ที่ อุโมงค์ลอดช่องแคบอังกฤษ เพราะอุโมงค์มีการเคลื่อนตัว รถยนต์จะไม่รู้สึกอะไร
แต่รางรถไฟมันไม่ได้ รางช่วงนั้นมี Censor อยู่ทุดจุด (ก็เป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น)
TGV ก็กลายเป็นรถไฟโชว์ เทคโนโลยี ไปเหมือนญี่ปุ่น

เยอรมัน
คิดรถไฟแม่เหล็กที่วิ่งได้ประมาณ 500 กม. ต่อ ชั่วโมง
แต่ตัวเองไม่ใช่ ขายให้จีนนำมาวิ่งระหว่างสนามบิน Pudong ไปเมือง เซี่ยงไฮ้ ระยะทางไม่กี่กิโลเมตร
ที่เยอรมันไม่ใช้เพราะรถไฟมัน "เลี้ยว" เป็นวงแคบๆไม่ได้
ถ้าจะให้เลี้ยวได้ 90 องศา รัศมีวงเลี้ยวอาจจะประมาณ 20 กิโลเมตร

 
    Grin Grin  ผมเข้าใจว่า จขกท. เขาพูดถึงรถไฟรางคู่นะครับ เพราะประเทศพม่าไม่มีรถไฟความเร็วสูงอยู่แล้ว   แต่พูดไปพูดมาทำไมกลายเป็นรถไฟความเร็วสูงไปได้ละครับ  :Smiley :Smiley
บันทึกการเข้า
Dexphet
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1374



« ตอบ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 05:41:08 PM »

กระจกหกด้านครับผม  Grin Grin
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 05:55:06 PM »

เปรียบเทียบรถไฟแต่ละประเทศนี่
วุ่นครับ

ยอมรับว่าการพัฒนาของทุกชาติเมื่อสักก่อนสงครามโลกครั้งที่1
รถไฟเป็นเครื่องมือในการพัฒนานำความเจริญไปสู่ชนบทอย่างแท้จริง....
หลายประเทศ มีรถไฟใช้ (รถไฟของทุกชาติเหมือนกันคือเป็นของรัฐบาล)

ปัจจุบันเรามีทางรถยนต์ที่สะดวกสบายกว่า แถมถนนตัดผ่านถึงหน้าบ้าน
 แต่รางรถไฟ มิสามารถวิ่งผ่านหน้าบ้านได้ทุกบ้าน

ส่วนปัจจุบัน การที่พม่าริเริ่มทำรถไฟรางคู่ มิได้หมายความว่าเขาจะนำหน้าเรานะครับ
แต่เขากำลังเริ่มต้นต่างหาก...

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

นายฉาบฉวย
หนูจะเอา Baer
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 72
ออฟไลน์

กระทู้: 1148



เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 06:04:19 PM »

ถ้าจะพัฒนาแบบพอเพียง...เอาแค่รางปัจจุบัน กว้าง 1 เมตรนี่รับความเร็วได้ 120 km/h
ความเร็วปลอดภัยที่เขียนไว้ข้างโบกี้ 90 km/h แต่ช่วยกรุณาำรางคู่หน่อยได้ไหมครับ
....บางครั้งต้องหยุดรอหลบกันเกือบชั่วโมง ไร้สาระมาก  Huh

...ถ้ามีรางคู่ กทม-ปากช่อง 170 กม. จะใช้เวลาวิ่งเท่าๆกับรถทัวร์...น่าสนใจ... Cool
บันทึกการเข้า

nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #22 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2007, 07:17:04 PM »

เรื่องระบบการขนส่งคนและสินค้าที่เป็นแมส กับ รถไฟความเร็วสูงกับเครื่องบินนี่คนละเรื่องกันครับ รถไฟความเร็วสูงจะเป็น segment เดียวกับเครื่องบินที่เน้นความรวดเร็วสะดวกสบาย ซึ่งเมื่อเทียบกับการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ทางรถยนต์และรถไฟธรรมดา(ความเร็วประมาณ100-150 กม./ชม.)แล้ว คิดเป็นจำนวนไม่ถึง10% ด้วยซ้ำ ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วในยุโรป อย่างเวลาจะซื้อของกินในวันอาทิตย์ หรือตอนดึกๆนี่ หาทั้งเมืองก็ไม่เจอ มีอยู่ที่เดียวคือสถานีรถไฟ และสถานีรถไฟเขาจะทำรางลอดอุโมงค์เข้ามาอยู่กลางเมืองเลย สาเหตุที่เขาใช้รถไฟ ในการขนส่งเป็นหลักสาเหตุหลักคือ 1.ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าใช้รถบรรทุกหรือรถทัวร์หลายสิบเท่า 2.ลดปัญหาจราจรและอุบัติเหตุ มีความปลอดภัยสูง 3.ตรงต่อเวลาจัดการบริหารการขนส่งได้ง่าย
ถ้าประเทศไทยสร้างรางรถไฟรางคู่ทั้งประเทศ(ลงทุนทั้งระบบประมาณ2แสนล้านบาท) บวกกับระบบรถไฟใต้ดินบนดินในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล(ลงทุนทั้งระบบประมาณ5แสนล้านบาท)ปีหนึ่งเราจะประหยัดเงินค่านำเข้าน้ำมัน(วันละ8แสนบาเรล ปีละเกือบล้านล้านบาท) ค่ารถยนต์สำเร็จรูปที่นำเข้า ค่าชิ้นส่วนและวัตถุดิบในอุตสาหกรรมรถยนต์(ปีละ6แสนกว่าคันก่อนฟองสบู่แตกปีละ8แสนคัน) ซึ่งในปัจจุบันคนไทยที่พอมีฐานะจำเป็นจะต้องซื้อรถยนต์เพราะไม่มีใครอยากนั่งรถเมล์แล้วติดหลายๆชั่วโมงในแต่ละวัน น้ำมันเชื้อเพลิงก็ประหยัดได้เกินครึ่งหนึ่งจากที่ใช้ในปัจจุบัน(เปรียบเทียบแล้วรถไฟขนส่งสินค้าจะใช้น้ำมันน้อยกว่าใช้รถบรรทุกได้15-20 เท่า)ได้ปีละประมาณ เกือบล้านล้านบาท
เงินจำนวนนี้มากกว่ายอดได้เปรียบดุลการค้าของประเทศไทยทั้งปีด้วยซ้ำ คิดง่ายๆ ยอดนำเข้าคือยอดซื้อ ยอดส่งออกคือยอดขาย ยอดเงินได้เปรียบดุลการค้าก่อนหักค่าใช้จ่าย ถ้าเราลดยอดนำเข้าเชื้อเพลิงและรถยนต์สำเร็จรูปและวัตถุดิบได้ เท่ากับประเทศไทยจะมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น2 เท่าในปัจจุบันทีเดียว แค่ยอดนำเข้าน้ำมันและรถยนต์ปีเดียวที่ประหยัดได้ก็คุ้มกับที่ลงทุนระบบรถไฟในเมืองและระหว่างเมืองทั้งประเทศแล้วครับ
แต่เกินเป็นคนไทยคงได้แต่ฝันว่าสักวันประเทศเราจะเจริญเท่ากับประเทศในอันดับต้นๆของโลก เพราะ พ่อค้าน้ำมัน นายทุนอุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่เป็นนายทุนให้พรรคการเมืองคงไม่ยอมให้เกิดขึ้นง่ายๆหรอกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 29, 2007, 07:24:49 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
RouRou_Mel - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 135
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 711


« ตอบ #23 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2007, 10:12:55 PM »

ขอมองคนละมุมกับผู้เขียนครับ
ผมไม่นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องครับ

เหตุที่รถไฟไทย ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้
ทำไม่เราไม่มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างเมืองบ้าง เช่น กรุงเทพ - เชียงใหม่
................TGV ก็กลายเป็นรถไฟโชว์ เทคโนโลยี ไปเหมือนญี่ปุ่น
 
Grin Grin ผมเข้าใจว่า จขกท. เขาพูดถึงรถไฟรางคู่นะครับ เพราะประเทศพม่าไม่มีรถไฟความเร็วสูงอยู่แล้ว แต่พูดไปพูดมาทำไมกลายเป็นรถไฟความเร็วสูงไปได้ละครับ :Smiley :Smiley

ด้วยความเคารพเจ้าของกระทู้ และทุกความเห็นครับ

ที่ผมเขียนเรื่องรถไฟความเร็วสูง เพราะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อบทลงท้ายของคุณลมเปลี่ยนทิศ ครับ
ถ้ารถไฟไทยยังเป็นอยู่อย่างนี้ อีกไม่ช้าผมเชื่อว่า “รถไฟไทย” จะ “แพ้รถไฟลาว” และ “แพ้รถไฟเขมร”
ไม่ต้องไปพูดถึงเวียดนามอีกแล้ว เพราะอีกห้าปีข้างหน้า เวียดนามจะมีรถไฟความเร็วสูง เชื่อมกรุงฮานอยกับโฮจิมินห์ซิตี้แล้ว


พิจารณาว่า เวียดนาม จะมีรถไฟความเร็วสูง มันยังเป็นเรื่องในฝันอยู่
อย่างที่ผมเขียนไปแล้ว ที่ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และเยอรมัน
เรื่องค่าใช้จ่ายโครงการ และค่าโดยสาร
ระยะทางจาก ฮานอย ไป โฮจิมินห์ 1,000 กว่ากิโลเมตร ยาวกว่า TGV อีก
ต้องผ่านที่ราบลุ่ม และเทือกเขาสูงตอนกลาง (ประมาณดานัง)
ค่าก่อสร้างมหาศาลมากกว่าที่ชาติเกษตรอย่างเราจะลงทุนทำได้ 

ส่วนตัวผมแล้วผมไม่ชอบการเขียนเรื่องนี้ ของ “คุณลมเปลี่ยนทิศ” นี้เท่าไร
ผมไม่ได้ดูถูกเวียดนาม ลาว พม่า และ กัมพูชา ว่าไม่สามารถตามทันไทย และเอาชนะเราได้
ในทางเดียวกัน
ผมก็ไม่ได้ดูถูกศักยภาพของคนไทย ว่าจะอ่อนแอ หรือไร้ความสามารถ
หากคุณสมรักษ์ คำสิงห์ และ นักกีฬาอีกหลายๆท่านคิดแบบคุณลมเปลี่ยนทิศ เราคงไม่เห็นเหรียญทองโอลิมปิก

และ ผมว่ารัฐบาลไทย ดูดีกว่า รัฐบาลทหารพม่า หลายเท่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2007, 10:17:07 PM โดย Springfield » บันทึกการเข้า

rouroumel.multiply.com
RouRou_Mel - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 135
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 711


« ตอบ #24 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2007, 10:20:18 PM »

วกกลับมาเรื่องรถไฟรางคู่ของพม่า

ผมไม่ทราบว่าคุณลมเปลี่ยนทิศได้ไปเห็นรถไฟพม่าแล้วหรือยัง
หรือ นั่งเทียนเขียน
หรือ แค่อ่านจากหนังสือพิมพ์ที่เป็นสื่อ(โฆษณาชวนเชื่อ)ของรัฐบาลทหารพม่า

ประสบการณ์ผมกับรถไฟของพม่านั้น ไม่เหมือนกับของคุณลมเปลี่ยนทิศเลยครับ
รถไฟพม่าที่วิ่ง กรุงย่างกุ้ง-กรุงปิ่นมานา-กรุงมัณฑะเลย์
เมือง ปิ่นมานา มัณฑะเลย์ เป็นเมืองเล็กเทียบเท่าขนาดอำเภอขนาดกลางของไทย แม้ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวก็ตาม

รางรถไฟรางคู่ของพม่าสภาพเก่ามากๆ เพราะเป็นรางที่สร้างสมัยอังกฤษปกครองพม่า
อังกฤษเอามาใช้ขน (ปล้น) ทรัพยากรจากพม่า ซึ่งเป็นเมืองขึ้น

ปีที่แล้วเพื่อนผมไปเที่ยวเมืองพะโค (ภาษาอังกฤษเรียกว่า Bago หรือ สี่ร้อยปีก่อนเรียกว่า หงสาวดี)
เล่าให้ฟังได้นั่งรถไฟสายนี้ด้วย เขาบอกว่านั่งโยกเยก เหมือนนั่งเรือด่วนในแม่น้ำเจ้าพระยา
แสดงว่าระบบรถรางของพม่า อยู่ในอาการ “โคม่า”

รางคู่ที่ว่าสร้างใหม่นั้น เป็นรางรถไฟเก่าจากอินเดีย
(ไม่รู้ว่าอินเดีย รื้อรางเก่าแล้วขายต่อให้พม่า หรือ เอารางที่เก็บไว้ในโกดังมาขาย)

ผมไปเจอ Link ที่ผู้รู้จริงในเรื่องนี้ เขียนบรรยายไว้ดีมาก ลองไปอ่านดูครับ
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=36260

http://www.thaitransport-photo.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2780#47862

Australia รถไฟเชื่อมระหว่าง Melbourne กับ Sydney ยังเป็นรางเดี่ยวอยู่ครับ
แถมวิ่งแค่วันละสองเที่ยว เช้า และ เย็น
 
บันทึกการเข้า

rouroumel.multiply.com
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2007, 10:32:55 AM »

ลองไปเที่ยวหลายๆ เมือง/ระหว่างเมืองในพม่าสิครับ จะรู้ว่าใครก้าวหน้ากว่าเรื่องคมนาคม เอายาทาแก้ปวดคอเวลาเดินทางไปด้วยนะครับ..
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Dexphet
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1374



« ตอบ #26 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2007, 05:03:46 PM »

หรือว่าเขาเขียนเปรยๆเพื่อกระตุ้นต่อม......รัฐบาลไม่ทราบครับ  :Smiley
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 02, 2007, 05:08:04 PM โดย Dexphet » บันทึกการเข้า
apc275
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 317


« ตอบ #27 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2007, 12:31:59 AM »

 Tongue Tongue Tongue Tongue Tongue Tongue Tongue Tongue Tongue Tongue Tongue
บันทึกการเข้า

อำนาจการกินรุนแรง  รัศมีการท่องเที่ยวไกล  การครองสติต่ำ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 20 คำสั่ง