
ผมถือว่าเรื่องผู้หมวดคนนี้ คือ การตลาดแผนสอง บวกกับความเลวกำลังสอง ของคนๆหนึง และ มันเป็นการ "เตรียมการล่วงหน้า" มาเป็นอย่างดี มันเป็น"สารคดี" ที่หวังผลบางอย่างในทางการเมือง ผู้หญิงวัยทำงาน อายุกว่า 30 ปี ย่อมมีวิจารณญาณแล้วว่า การเดินทางไปต่างประเทศของข้าราชการต้องทำอย่างไร การขาดราชการติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 15 วัน จะต้องถูกลงโทษระดับใด
ย่อมต้องมีการตัดสินใจมาก่อนแล้วว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ลองดูพฤติกรรมของเจ้าหล่อน นี่ไม่รวมถึงการแต่งกายไม่สุภาพไปทำงาน
พล.ต.พีรสันต์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ รอง ผอ.ททบ.5 ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต มาทำงานที่ ททบ.5 ไม่ปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับการเป็นพนักงาน คือได้รับตำแหน่งเป็นผู้สื่อข่าวสายทหาร และดูแลข่าวต่างประเทศบางส่วน เพราะมีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ และมีการเข้าเวรอ่านข่าว แต่ว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ทำตัวเกเร ไม่ยอมมาเข้าเวร ฝากเวร หนีหาย ลา ขาด ประจำ เป็นที่เอื้อมระอาของผู้ร่วมงาน
แผนกที่ ร.ท.หญิง สุณิสา สังกัดอยู่ เขารายงานมาตลอด ว่าเด็กคนนี้มีปัญหา เมื่อผมเข้ามารับหน้าที่ ผมก็บอกว่ามีปัญหาแล้วไม่ดำเนินการ คนอื่นอยากทำงานที่นี้มีเยอะแยะ และสุดท้ายผมก็รับรู้ว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ไปต่างประเทศ จากผู้บังคับบัญชาตามสายงาน ซึ่งผมก็ถามว่าไปต่างประเทศไปไหน แต่ผู้บังคับบัญชาเขาก็บอกว่าไม่ทราบ เขาโทรศัพท์มาบอกว่าอยู่ต่างประเทศแล้ว ผมก็บอกว่าลาแค่ 3 วัน และไปต่างประเทศไปไหน ซึ่งคนในสำนักงานไม่รู้ เพียงแต่บอกว่าไปอังกฤษ ผมก็ถามว่าแล้วอย่างนี้ลาใคร ผมจึงได้ให้เขียนรายงาน และให้ฝ่ายที่รับผิดชอบทำเรื่องขึ้นมา และผมก็ปลดออกไป พล.ต.พีรสันต์ กล่าว
พล.ต.พีรสันต์ กล่าวอีกว่า การปลดออกไป เพราะว่าไม่ว่าอดีตทำตัวเกเร หรือครั้งสุดท้ายที่โกหกผู้บังคับบัญชาว่าตัวอยู่ กทม. จะไปพักผ่อน 3 วัน เขาก็ให้พักผ่อน แต่ปรากฏว่าไปโผล่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งก็ไม่มีใครทราบ และไม่มีใครรู้ เสร็จแล้วก็มาบอกว่าพาสปอร์ตหาย ทั้ง ๆ ที่พาสปอร์ตทำไม่กี่วันก็เสร็จ แต่นี้อยู่ต่อตั้งแต่วันที่ 1 - 20 มิ.ย.2550 ถ้าเป็นทางราชการ ขาดเกิน 15 วัน ก็ปลด แต่ถ้าเป็นทางราชการ โกหกผู้บังคับบัญชาปลดได้ทันที ในฐานะที่ ททบ.5 เป็นทหาร ก็ส่งตัวกลับ พร้อมรายงานการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ที่กองทัพส่งมาว่าเด็กคนนี้มีปัญหาอะไรบ้าง
การส่งกลับพร้อมสลักหลังไปอย่างนี้ถือว่า ไล่ออกจาก ททบ.5 เพราะว่ามีความผิด แต่ถ้าการส่งกลับตามวงรอบ อันนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน ฉะนั้นเด็กคนนี้ถือว่าเกเร ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่ากระทำความผิดประมาณ 19 ครั้ง ทำผิดแล้วผิดอีก ทั้ง ททบ.5 ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงกับเจ้าหน้าที่ จะมีการพูดคุยอะลุ้มอล่วยตลอดเวลา แต่ว่าครั้งนี้ไม่ไหวแล้ว เมื่อทราบจากเจ้าหน้าที่ร่วมงานด้วย บอกว่ารับไม่ไหวจริง ๆ การทำงานของเขาไม่มีความรับผิดชอบจริง ๆ เอาเปรียบเพื่อนร่วมงานตลอด ในฐานะที่เป็น ททบ.5 ก็จะต้องเอาออก หลังจากออกไปแล้วก็ไปอยู่ที่สำนักงานเลขานุการกองทัพบก แต่ทางสำนักงานก็บอกว่าไม่มาทำงานเลย กำลังหาตัวอยู่
พล.ต.พีรสันต์ กล่าว