หลายท่านตอบวิธีปฏิบัติไปหมดแล้วครับ คันไม้คันมือเลยขอเพิ่มอีกประเด็นฝากให้ลองพิจารณาดูนะครับ
การที่ตำรวจตั้งด่าน (ทุกวันนี้ผมเคยทำน้อยมาก เพราะไม่ใช่หน้าที่ครับ เคยทำตอนฝึกงานเท่านั้น)
เพื่อป้องปรามการกระทำความผิด หรือได้รับการรายงานจากสายว่าจะมีผู้กระทำความผิดผ่านเส้นทางมา
เมื่อผมตั้งด่านผมเข้าใจว่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนส่วนหนึ่ง ไม่ว่าจะเสียเวลาเดินทาง หรือจะเข้าห้องน้ำก็ตาม
แต่ประโยชน์มันมากกว่าโทษครับกรณีท่านเป็นข้าราชการ (ทุกประเภท) มีตัวอย่างประสบการณ์กล่าวไปแล้วหลายกรณี ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา
สำหรับท่านที่ไม่ใช่ข้าราชการ ท่านก็มีคุณค่าและความสำคัญที่จะปกป้องชีวิตของท่านครับ
รถที่ใช้ บางคนต้องหาเงินผ่อนทั้งชีวิต พาครอบครัวมาด้วยมูลค่าไม่สามารถประเมินได้
ตำรวจไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง การที่ท่านพกปืนถือเป็นการป้องกันตัวเบื้องต้นที่ผมเองก็เข้าใจครับ
ตามที่พี่ๆ ทุกท่านกล่าวมานะครับ การพูดจาอย่างสุภาพ แสดงบัตรประจำตัว หรือนามบัตร
แสดงถึงการมีงานมีการทำที่สุจริต บอกที่มาที่ไป กรณีพกปืน ก็ควรชี้แจงเหตุผลอันสมควรพก
เจ้าหน้าที่ตำรวจดีๆ จะเข้าใจครับ แต่ถ้าคนที่คุณพบคุณคิดว่าไม่ใช่ตำรวจดีๆ
ลองพบนายตำรวจที่ระดับสูงกว่าเค้าดูครับ ผมว่าปลามันคงไม่เน่าทั้งเข่งนะครับ
ปล. คำแนะนำของผมสำหรับคนที่มีเหตุจำเป็นต้องพกปืนเพื่อป้องกันตัวโดยมีเหตุจำเป็นนะครับ
คนที่พกไปเที่ยว ติดรถไว้อวดเพื่อนโก้ๆ หรือ ไว้ประกอบอาชญากรรม (เพื่อนๆ ในเว็บเราคงไม่มี)
คงต้องรับผลที่พึงระลึกได้ว่าจะตามมาก่อนที่จะพกปืนออกจากบ้านนะครับ

ทุกครั้งที่ผมผ่านด่านไม่ว่าจะเป็นด่านทหารหรือตำรวจ
ผมจะหรี่ไฟหน้า เปิดไฟในเก๋ง ชะลอรถ เปิดกระจกทักทายเค้าหน่อย
"ลำบากหน่อยนะครับ ขอบคุณมาก"
อย่างน้อยทหารหรือตำรวจที่ตั้งด่านคนนั้น เค้าก็มีครอบครัว มีลูกที่รออยู่ที่บ้านเค้าเหมือนกัน
เค้าเหนื่อย, อยากกลับบ้านเหมือนกันครับ เมื่อเห็นใจเค้า
เค้าก็จะเห็นใจเราเช่นกันครับ บางทีไม่ต้องแสดงบัตรประจำตัวด้วยซ้ำครับ กลับได้รอยยิ้มกลับมาอีก

ปล.อีกนิด พี่ๆ ที่น้อยใจว่าหน้าเหมือนโจร โดนตำรวจค้นประจำ ลองคิดย้อนกลับนิดนะครับ
ว่าถ้าพี่เป็นตำรวจ แล้วเจอรถที่มีลักษณะอย่างที่พี่ขับ พี่จะค้นมั้ย
ลองโกนหนวดโกนเคราซะหน่อย ถอดแว่นตาดำออกนิด ผมว่าน่าจะเหมือนพระเอกขึ้นนะครับ
