คณะนายจ้างพันโทหม่อมราชวงค์เชษฐา วราฤทธิ์ พี่ชายคนโตของตระกูลวราฤทธิ์ อดีตทูตทหารบกประจำสหรัฐอเมริกา อายุประมาณ 35 ปี รูปร่างสูงใหญ่และน่าเกรงขราม ผิวขาว ไว้หนวดเหนือบริเวณริมฝีปาก ลักษณะและบุคลิกบ่งบอกถึงฐานะอันเป็นราชนิกูลผู้สูงศักดิ์ ใจดีและรักน้องพร้อมคอยปกป้องเสมอ เชษฐาเป็นคนที่มีบุคลิกภายในตัวของตัวเองที่แลดูสง่างาม เยือกเย็นและมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนแม้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และมีลักษณะที่แลดูองอาจ เข็มแข้งบึกบึนสมกับการเป็นนายทหาร ในอดีตเคยเป็นนักกีฬายิงธนู เชษฐาเป็นหัวหน้าคณะในการออกติดตามหาพรานชดหรืออนุชา วราฤทธิ์ น้องชายคนกลางของตระกูลวราฤทธิ์ และเป็นเพียงคนเดียวที่รพินทร์ ไพรวัลย์ นายพรานผู้นำทางให้ความเคารพและยำเกรงโดยจริงใจ
หม่อมราชวงค์ดาริน วราฤทธิ์ น้องสาวคนเล็กของตระกูลวราฤทธิ์ ศัลย์แพทย์เกียรตินิยมและนักมานุษยวิทยา อายุประมาณ 26 ปี รูปร่างสูงโปร่งและเพรียว ผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาโตและคมกริบ จัดเป็นหญิงสาวที่มีความสวยงามทั้งรูปร่างและใบหน้า อารมณ์ร้อนฉุนเฉียวง่ายและเอาแต่ใจตัวเอง เป็นนักกีฬายิงปืนของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยที่มีฝีมือในการยิงปืนเป็นเยี่ยม และนักกีฬาขี่ม้าผาดโผน ดารินเป็นคู่กัดกับรพินทร์ ไพรวัลย์ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน และภายหลังได้แปรเปลี่ยนเป็นความรัก เป็นนักเดินป่าที่มีความแข็งแรง อดทนไม่แพ้ชายชาตรี แต่ก็เย่อหยิ่งและไว้ตัวตามฐานะอันเป็นราชนิกูล
หม่อมราชวงศ์อนุชา วราฤทธิ์ พี่ชายคนรองของตระกูลวราฤทธิ์ อายุประมาณ 33 - 34 ปี รักอิสระ อารมณ์ร้อนและมักเป็นไม้เบื่อไม้เมากับดาริน วราฤทธิ์ น้องสาวคนเล็กเสมอ ไม่มีหน้าที่การงานเป็นหลักเป็นฐาน ในอดีตอนุชามีเหตุให้ทะเลาะกับบิดา เนื่องจากน้อยใจและรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้รับความยุติธรรมในการที่ต้องเสียหญิงคนรักให้แก่พี่ชายไป เป็นเหตุให้ละทิ้งฐานะอันเป็นราชนิกูล ชักชวนพรานเดินป่าคู่ใจชื่อหนานอิน ท่องเที่ยวเร่ร่อนผจญภัยไปในป่ากว้าง และไปค้นหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมาอันเป็นตำนานเลื่องลือ อนุชาเป็นคนที่มีฝีมือในการล่าสัตว์และแกะรอยเป็นเยี่ยม มีปืน.450 ไนโตรเอ็กเปรส เป็นอาวุธคู่ใจ
พันตรีไชยยันต์ อนันตรัย เพื่อนชายคนสนิทของดาริน วราฤทธิ์ อายุประมาณ 33 - 34 ปี รูปร่างแข็งแรง กำยำล่ำสันตามแบบฉบับของนายทหาร อารมณ์ดี ร่าเริง เจ้าสำราญและเป็นนักเสี่ยงโชคชั้นเซียนและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ แม้จะเผชิญชะตากรรมในหน้าสิ่วหน้าขวาน ไชยยันต์เป็นลูกชายของตระกูลเศรษฐีที่มีฐานะพอสมควร ไม่ร่ำรวยจนล้นฟ้า มีน้องสาวเพียงคนเดียว ภายหลังจากที่บิดามารดาตาย ผู้เป็นลุงรับเอาไชยยันต์มาอุปการะเลี้ยงดูเหมือนลูก สถานภาพโสด เคยเป็นนายทหารปืนใหญ่และผ่านหลักสูตรในการก่อการวินาศกรรม รวมทั้งมีความชำนาญในด้านการใช้วัตถุระเบิดเป็นอย่างดี
คณะผู้ร่วมเดินทางแงซาย กะเหรี่ยงลึกลับ คนรับใช้ในคณะเดินทางและองครักษ์ส่วนตัวของดาริน วราฤทธิ์ อายุประมาณ 28 - 30 ปี รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง กำยำล่ำสัน ผิวสีทองแดง อดีตนายทหารกองโจรกะเหรี่ยงยศร้อยโทและคู่ปรับตัวฉกาจของรพินทร์ ไพรวัลย์ แงซายเป็นกะเหรี่ยงที่มีลักษณะรูปร่างผิดแปลกไปจากกะเหรี่ยงหรือชาวเขาธรรมดา อาสาสมัครขอเป็นคนรับใช้ในการเดินทางออกติดตามค้นหาพรานชดและหนานอินโดยไม่ขอค่าตอบแทน มีหน้าที่คอยปกป้องพิทักษ์ดาริน เป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี มีฝีมือในการต่อสู้และใช้อาวุธปืนอย่างยอดเยี่ยม แงซายร่วมเดินทางไปกับคณะของเชษฐาเพื่อให้ได้ไปถึงเนินพระจันทร์และมรกตนคร สถานที่ซึ่งเป็นการเปิดเผยฐานะที่แท้จริงที่ปกปิดมาตลอดการเดินทาง
มาเรีย ฮอฟมัน หญิงสาวลูกครึ่งเยอรมัน-ฝรั่งเศส มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา นักนิรุกติศาสตร์ อายุประมาณ 25 - 26 ปี รูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรง ร่าเริง เป็นภรรยาของสเตเกล ฮอฟมัน ที่ตายจากการถูกโจมตีของสางเขียวและถูกจับไปเป็นเชลย ภายหลังได้ร่วมเดินทางไปกับคณะของเชษฐาในการออกติดตามหาพรานชดและหนานอิน มีฝีมือในการยิงปืนดีเยี่ยม เป็นพรานล่าสัตว์มาแต่กำเนิดรวมทั้งได้รับการสั่งสอนมาจากผู้เป็นบิดา มาเรียเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจชาย โดยเฉพาะกับไชยยันต์ อนันตรัย และภายหลังได้ตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกันหลังจากเดินทางกลับจากเมืองมรกตนครของแงซาย
ส่างปา พรานต่องสู พรานฝีมือดีและคนรับใช้ผู้ติดตามของมาเรีย ฮอฟมัน รูปร่างเล็ก ผอมเกร็ง[12] ทั้งชีวิตอยู่ได้ด้วยกัญชา เป็นหมอรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกสัตว์มีพิษกัด มีแท่งยาดูดพิษซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ส่างปาเป็นคนช่วยชีวิตของแงซายเอาไว้หลังจากที่ขุนพลวรมันต์นำร่างของแงซายมาคืนตามสัญญา หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในอาณาจักรนิทรานคร และถูกตัวหกขากัดจนเกือบตาย ส่างปาเป็นคู่อริกับบุญคำ สมุนมือขวาของรพินทร์ ที่ทะเลาะกันประจำเมื่อพบหน้าซึ่งกันและกัน ส่างปาได้รับตำแหน่งแพทย์หลวงประจำเมืองมรกตนครจากแงซาย และชักชวนให้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหลังจากที่ชิงเอาราชบัลลังก์กลับคืนมาจากสิงหราและรหัสยะได้สำเร็จ
คะหยิ่น หัวหน้ากะเหรี่ยงหมู่บ้านหล่มช้าง อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ลักษณะท่าทางเหี้ยมเกรียมและดุดันแต่กลัวผีมากกว่าสิ่งใด คะหยิ่นเป็นกะเหรี่ยงดงที่คณะเดินทางของเชษฐาและรพินทร์มาพบที่หล่มช้าง และได้ดารินช่วยทำคลอดลูกชายให้ มีความโอ้อวดในด้านฝีมือการยิงปืนของตนเอง ดารินจึงแกล้งด้วยการท้าแข่งขันยิงปืน จนสุดท้ายก็ยอมรับในฝีมือของดารินและขอติดตามร่วมคณะเดินทางไปด้วย คะหยิ่นมีความสามารถในด้านการเลื้อยได้เหมือนงูเช่นเดียวกับจัน มองเห็นได้อย่างดีในที่มืดและพูดภาษาพม่าได้
ตัวละครรองภาคแรกครูพรานหนานอิน พรานนำทางคู่ใจพรานชด ประชากร หรือ ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ น้องชายคนกลางของตระกูลวราฤทธิ์ที่ละทิ้งฐานะอันเป็นราชนิกูล บุกป่าฝ่าดงเพื่อค้นหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมาอันเป็นตำนานเล่าขาน อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างผอมบาง มีบ้องกัญชาติดตัวในย่ามอยู่ตลอดเวลา มีวิชาคาถาอาคมเก่งกล้าพอตัว ในอดีตหนานอินเคยบวชเณรและร่ำเรียนจนเป็นพระ เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม แต่สึกออกมาเป็นพรานล่าสัตว์ในอายุเกือบ 30 ปี สถานภาพโสด ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนเป็นคนช่วยชีวิตแงซายตอนเด็ก ๆ ให้รอดพ้นจากอันตรายในการตามล่าของสิงหรา
หนานไพร ครูพรานของรพินทร์ ไพรวัลย์ อายุมากกว่าหนานอินประมาณ 4 - 5 ปี เป็นพรานลาวเซิงที่เก่งกาจในด้านวิชาพรานในการเข้าป่าล่าสัตว์ มีเวทมนตร์คาถาอาคมและไสยศาสตร์ ในอดีตเคยบวชเป็นเณรและพระธุดงค์ แต่บวชได้ไม่นานก็ต้องสึกจากเพศฆาราวาสมาเป็นพรานล่าสัตว์ดังเดิม ติดฝิ่นอย่างรุนแรง หนานไพรเป็นคนเล่าตำนานขุมทรัพย์เพชรพระอุมาให้รพินทร์ฟังก่อนตายหลังจากได้รับบาดเจ็บจากกระทิงขวิดหนึ่งปี เป็นคนสั่งสอนและถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ให้แก่รพินทร์ รวมทั้งประสบการณ์ในการเดินป่าและอาถรรพณ์ของป่าที่หนานไพรเคยประสบมา
อาณาจักรนิทรานครมันตรัย ราชปุโรหิตแห่งอาณาจักรนิทรานคร อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าตอบ ผิวแห้งติดกระดูก นัยน์ตาลึกใหญ่ ศีรษะโล้นเลี่ยน นุ่งห่มร่างกายด้วยผ้าที่ย้อมเปลือกไม้สีคล้ำ สวมลูกปะคำห้อยคอ มักใหญ่ใฝ่สูงในอำนาจวาสนา ต้องการครอบครองอาณาจักรนิทรานคร แอบหมายปองในตัวจิตรางคนางค์ มกุฎราชกุมารี พระธิดาในพระเจ้ามหิทธิเดชะ กษัตริย์ผู้ครบครองอาณาจักรนิทรานคร รักษาพระเจ้ามหิทธเดชะด้วยการควักนัยน์ตาข้างหนึ่งของตนเองเพื่อปรุงยารักษา แต่บังอาจกราบทูลขอจิตรงคนางค์เป็นการตอบแทน แต่ภายหลังที่จิตรางคนางค์สิ้นพระชมน์ด้วยยาพิษ กลับแปรเปลี่ยนมาหมายปองพันธุมวดี พระธิดาในกษัตริย์ชัยสุริยาแทน
พันธุมวดี ธิดากษัตริย์ชัยสุริยา กษัตริย์ผู้ครอบอาณาจักรนิทรานครลูกพี่ลูกน้องของจิตรางคนางค์ มกุฎราชกุมารี ลักษณะรูปร่างงดงามทั้งหน้าตาและกิริยา ไร้ซึ่งฝีมือทางด้านวิทยายุธ แต่มีความสามารถทางด้านนาฎศิลป์และร่ายรำ ต่อมาได้รับการสถาปนาให้ดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารีแห่งอาณาจักรนิทรานครเช่นเดียวกับจิตรางคนางค์ ที่ภายหลังสิ้นพระชมน์ด้วยยาพิษ พันธุมวดีมีวรมันต์เป็นขุนพลคู่พระทัย คอยปกป้องภยันอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งมันตรัย ราชปุโรหิตที่บังอาจเอื้อมหมายปองในตัวของพระองค์ ภายหลังอาณาจักรนิทรานครล่มสลายถูกฝังอยู่ภายใต้ผืนแผ่นดิน พันธุมวดีถูกมันตรัยจองจำดวงวิญญาณไว้และนำร่างบรรจุลงในโลงแก้ว บังคับให้กลายร่างเป็นค้าวคาวยักษ์คอยออกสูบเลือดในตอนกลางคืน
วรมันต์ ขุนพลคู่พระทัยพันธุมวดี นางพญาแห่งอาณาจักรนิทรานคร เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ มีฝีมือทางด้านวิทยายุทธ ถูกมันตรัยสาปให้วิญญาณอยู่ภายในร่างของก็องกอย อาศัยอยู่ภายในป่ารอบอาณาจักรนิทรานครที่ล่มสลาย ลักษณะรูปร่างเหมือนเด็ก ใบหน้ามีขนาดเล็กแต่เหี่ยวย่นเช่นคนสูงอายุ ผิวคล้ำ จมูกแบนแฟบมองเห็นรูกลวงกลางใบหน้า ฟันด้านล่างครอบฟันในแถวด้านบนในลักษณะใบหอกสามซี่เรียงกัน มีเขี้ยวสองคู่ที่ริมฝีปาก นัยน์ตากลมโต ผมยาวเป็นกระเซิง ช่วงขายาวเรียวแต่แขนสั้นและเต็มไปด้วยขนรุงรัง ท้องป่อง มีกลิ่นเหม็นสาปคล้ายกลิ่นศพ เมื่อได้รับบาดเจ็บไม่มีเลือดออกจากบาดแผล[22]มีรอยเท้ากว้างประมาณ 3 นิ้ว ลักษณะคล้ายกับรอยเท้าลิงเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการวิ่งเขย่ง
หุบเขานิลกาญจน์วายา เจ้าแห่งลิงผู้ปกครองฝูงลิงจำนวนมากภายในหุบเขานิลกาญจน์ อายุประมาณ 60 ปี รูปร่างสูงใหญ่ กำยำ ร่างกายปกคลุมด้วยเส้นขนสีดำปนน้ำตาล มีรูปร่างลักษณะคล้ายครึ่งคนครึ่งลิง ใบหน้าเรียวยาว หน้าผากสูง ริมฝีปากยื่นหนา กรอบตาลึก แผงอก หัวไหล่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ วายาเป็นต้นตระกูลของเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติ นีแอนเดอร์ธอลส์ แมน เดิมมีมนุษย์อาศัยอยู่กับบิดามารดาภายในถ้ำเหนือยอดเขา แต่ถูกสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์เช่นไดโนเสาร์สามเขาบุกขึ้นไปทำร้าย บิดามารดาตายเหลือเพียงวายาเท่านั้นที่รอดชีวิต ลิงที่อาศัยในหุบเขานิลกาญจน์ สงสารวายาที่กำพร้าบิดามารดา จึงเก็บมาเลี้ยงและให้ดำรงตำแหน่งเจ้าแห่งลิง
ฤๅษีโกณฑัญญะ ฤๅษีผู้บำเพ็ญเพียรและตบะ จนถึงขั้นได้ดวงตาเห็นธรรมบรรลุพระโสดาบัน บำเพ๊ญเพียรภวนาด้วยระยะเวลา 100 กว่าปี จนร่างกายเปลี่ยนจากเนื้อหนังของมนุษย์กลายเป็นหิน มีเศษใบไม้และหยากไย่รุงรังปกคลุมร่างกาย ฤๅษีโกณฑัญญะบำเพ็ญเพียรและตบะอยู่เหนือยอดเขาภายในหุบเขานิลกาญจน์ และเป็นจุดศูนย์รวมความเคารพและความศัทธราของวายาและฝูงลิงในหุบเขานิลกาญจน์ ล่วงรู้ด้วยญาณวิเศษถึงอดีตและจุดมุ่งหมายในการเดินทางของแงซาย รวมทั้งอดีตชาติของรพินทร์และดาริน แงซายเป็นผู้พบฤๅษีโกณฑัญญะโดยบังเอิญ ในขณะสำรวจรอบ ๆ บริเวณถ้ำของวายา ก่อนพารพินทร์ เชษฐา ดารินและทุกคนในคณะไปนมัสการและฝากตัวเป็นลูกศิษย์
มรกตนครเมยานี บุตรสาวเพียงคนเดียวของผู้เฒ่าอรชุน อดีตแขนขวาของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร อายุประมาณ 28 ปี รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงเยี่ยงบรุษเพศ ใบหน้าคมเข้ม ผิวขาว นัยน์ตาคม ผมยาวดำเป็นมัน เชี่ยวชาญเก่งกาจในทักษะด้านการต่อสู้บนหลังม้า และการใช้ศาสตราวุธทุกประเภท เช่น ดาบ ธนู ง้าว รวมถึงเล่ห์กลต่าง ๆ ในการรบ โดยได้รับการฝึกฝนจากอรชุนผู้เป็นบิดา เมยานีเป็นกำลังสำคัญในการรบแบบกองโจร ได้รับมอบหมายจากอรชุนให้เป็นผู้ไปรับตัวแงซายเมื่อเข้าเขตมรกตนคร ก่อนจะพามาหลบซ่อนตัว และร่วมมือกับแงซายและรพินทร์ ไพรวัลย์ พร้อมด้วยทุกคนในคณะเดินทาง กอบกู้ราชบัลลังก์คืนจากสิงหราชและรหัสยะ ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นราชินีแห่งมรกตนคร
อรชุน อดีตนายทหารเอกคนสำคัญของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร เป็นชายสูงวัย ผมขาวเป็นดอกเลาทั่วทั้งศีระษะ นัยน์ตาเป็นกระกายแววาวแจ่มใส ปราดเปรียว แข็งแรง สง่างามตามแบบชายชาติทหาร ที่เต็มไปด้วยพละกำลัง อำนาจและความเฉียบขาด อรชุนมีบุตรสาวคนเดียวคือเมยานี และมีความสามารถทางด้านโหราศาสตร์และดาราศาสตร์ ตามที่ได้ร่ำเรียนวิชาจากจากมหาปุโรหิตประจำราชตระกูลเทพแห่งอาณาจักรมรกตนคร จนเก่งกล้าสามารถอ่านฤกษ์ยามและดวงดาวบนท้องฟ้าได้ทุกดวง สามารถล่วงรู้ถึงการมีชีวิตอยู่และกลับมายังมรกตนครของแงซาย จึงมอบหมายให้เมยานีผู้เป็นบุตรสาว ออกไปรับตัวแงซายก่อนที่กองทัพของรหัสยะจะไปถึง
รหัสยะ น้องชายของกษัตริย์สิงหรา กษัตริย์แห่งมรกตนคร ที่แย่งชิงราชบัลลังก์จากกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ เป็นชายฉกรรจ์ รูปร่างล่ำสัน แข็งแรง มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่คล้ายกับรอยแผลที่เกิดจากดาบ พาดผ่านปลายดั้งจมูกลงมาถึงมุมขากรรไกรด้านขวาของใบหน้า นัยน์ตาลุกโพลงและแข็งกระด้าง ไว้หนวดเครา หน้าตาเหี้ยมโหดและดุร้าย รหัสยะดำรงตำแหน่งอุปราชแห่งมรกตนคร เป็นผู้จับกุมตัวรพินทร์ ไพรวัลย์ เชษฐา วราฤทธิ์ ดาริน วราฤทธิ์และทุกคนในคณะเดินทางเป็นเชลย นำไปคุมขังไว้ภายในคุกใต้ดินรวมกับอนุชา วราฤทธิ์และหนานไพร ภายหลังแงซายท้าทายรหัสยะให้ต่อสู้ด้วยจนกระทั่งตายในสนามรบ
กุตะมะ อดีตนายทหารเอกคนสำคัญของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร คู่กับอรชุน เป็นชายสูงวัย ผมขาวเป็นดอกเลาทั่วทั้งศีรษะ เป็นหม้ายเนื่องจากภรรยาตาย ไม่มีบุตรไว้สืบสกุล กุตะมะเคยเป็นอดีตเพื่อนรักของอรุชุน และรักเอ็นดูเมยานีราวกับบุตรสาว รวมถึงการถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ให้ ระหว่างเกิดการแย่งชิงราชบัลลังก์ของสิงหรา กุตมะทรยศกษัตริย์วิษณุพรหมนาถและอรชุน โดยอ้างว่ามีผู้เอาดาบมาจ่อคอบิดามารดาของตนเพื่อบังคับให้ทรยศ และกลายมาเป็นนายทหารเอกคนสำคัญของกษัตริย์สิงหรา ภายหลังกุตมะยอมทรยศสิงหรา ซ้อนแผนเปลี่ยนฝ่ายเพื่อช่วยเหลืออรชุนกอบกู้ราชบัลลังก์คืนแก่แงซาย และตายด้วยธนูอาบยาพิษในเวลาต่อมา
วาชิกา แม่มดชราผู้เรืองเวทย์ เก่งกล้าทางด้านคาถาอาคม สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าในอนาคตอย่างแม่นยำ แต่เดิมวาชิกาเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์แห่งมรกตนครมาโดยตลอด จนถึงสมัยของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ วาชิกาไม่สามารถยับยั้งร่องรอยการเหี่ยวย่นและความชราของตนเองได้ จำเป็นจะต้องอาบด้วยเลือดของหญิงสาวพรหมจรรย์ เพื่อให้ร่างกายกลับมาเป็นเช่นเดิม แต่กษัตริย์วิษณุพรหมนาถไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่โหดร้าย จึงถูกสิงหรากำจัดและแย่งชิงราชบัลลังก์ภายใต้ความเห็นชอบและยุยงของวาชิกา ภายหลังแงซายแย่งชิงราชบัลลังก์กลับคืนมาได้ และได้เผาทำลายร่างชราของวาชิกาด้วยผ้าเปื้อนเลือดประจำเดือนของมาเรีย ที่พรานบุญคำเก็บไว้
ตัวละครหลักภาคสมบูรณ์คณะนายจ้างพันตรีเชิดวุธ ไกรรณยุทธ นายทหารหนุ่ม บุตรชายพลโทวิชัย ไกรรณยุทธ ตำแหน่งเจ้ากรมข่าวทหารบก ที่ปรึกษาของผู้บัญชาการทหารสูงสุด อายุประมาณ 32 ปี สถานภาพโสด ภูมิลำเนาเดิมอยู่ปัตตานี แต่มาเติบโตที่กรุงเทพมหานคร ดำรงตำแหน่งนายทหารคนสนิทของบิดา เชิดวุธเป็นคนหนุ่มที่ใจถึง วู่วามอารมณ์ร้อน ฉลาดหลักแหลมและมีไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม เป็นคนไทยเพียงคนเดียวในคณะนายจ้าง ร่วมกับนายทหารจากอเมริกาออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ มีรพินทร์ ไพรวัลย์เป็นพรานนำทาง รักพวกพ้อง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้ร่วมเดินทางด้วยกัน โดยเฉพาะกับคริสตินา กรูบิล ที่แอบหลงรัก
ด็อกเตอร์บิลล์ สแตนลีย์ หัวหน้าคณะเดินทางจากอเมริกา ที่ได้รับมอบหมายจากฐานทัพให้ออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ ที่หายสาบสูญในดินแดนสนธยาที่ไม่ปรากฏบนแผนที่โลกในประเทศไทย อายุประมาณ 45 - 46 ปี รูปร่างสูงใหญ่ กำยำแข็งแรง นัยน์ตาสีฟ้า แววตาลึก ลักษณะเป็นนักคิดผู้มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในด้านอาวุธนิวเคลียร์[34] ทรหดอดทน เป็นสุภาพบุรุษทั้งกายและจิตใจ เป็นผู้ใหญ่ใจดี มีจิตวิทยาสูง นิสัยใจเย็น สุขุมรอบคอบและมีเหตุผลในการตัดสินใจ รักเพื่อนพ้องและคอยเป็นห่วงเป็นใยทุกคนในคณะเดินทาง และเป็นผู้ห้ามการทะเลาะวิวาทระหว่างเชิดวุธและคีธในการเดินทางเสมอ
พันเอกลาร์รี่ คีธ นายทหารเสนาธิการ หนึ่งในคณะนายจ้างออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ อายุไม่เกิน 40 ปี เป็นหนุ่มฉกรรจ์ รูปร่างล่ำสัน แข็งแรง ตัดผมสั้นเกรียนแบบทหรจีไอ กล้ามเนื้อแขนแข็งแรงเป็นมัด ๆ กรอบตาลึก มีความชำนาญในด้านการบินและเจ้าหน้าที่ติดต่อสื่อสาร ใจร้อน วู่วาม ลักษณะภายนอกอวดดี บ้าดีเดือดและยโสโอหัง แต่แก่นลึกภายในเป็นคนไม่เอาไหน งุ่มง่าม เชื่องช้าและขี้กลัวจนเกินเหตุ เอาตัวรอดได้ยากในเวลาเกิดวิกฤตขึ้นกับคณะเดินทาง คีธแต่งงานมีครอบครัว มีบุตร 3 คน และมักทะเลาะกับเชิดวุธตลอดการเดินทาง เนื่องจากแสดงความหึงหวงอิสซาเบล แพทย์สาวในคณะเดินทางที่เป็นหญิงคู่ขาของตน
คริสตินา กรูบิล หญิงสาวลูกครึ่งตรุกีและเยอรมัน นักเคมีฟิสิกส์ หนึ่งในคณะนายจ้างออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ อายุประมาณ 32 ปี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ผมยาว นัยน์ตาสีฟ้า ชื่อเดิมคือไลลา อามิเตจ นิสัยเงียบครึม พูดน้อยและยิ้มยาก ค่อนข้างไว้ตัว รักเพื่อนพ้อง รักหมู่คณะและมีความรับผิดชอบสูง ภายนอกฉลาดลึก เฉียบขาดและดุดันแต่ภายในอ่อนหวาน บางครั้งโหดร้ายแล้วแต่สถานการณ์ทางอารมณ์ที่แปรปรวน คริสตินาเคยเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและเคยร่วมงานกับบิลล์เกี่ยวกับพลังงานด้านปรมณู เคยเป็นครูฝึกสอนสายลับหญิงเกี่ยวกับการสังหารมนุษย์ และอดีตนักเรียนแพทย์ที่เคยประสบเหตุ ทำคนไข้ตายตอนเรียนแพทย์ปีสุดท้าย
อิสซาเบล มูร์ แพทย์ด้านอายุรเวช โดยเฉพาะโรคในเขตเมืองร้อน และนักธรณีวิทยาความสามารถระดับอาจารย์ที่ทำการสอนในมหาวิทยาลัย อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างกระทัดรัด ผมสีแดงยาวเคลียไหล่ นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวคล้ำเล็กน้อย นิสัยร่างเริง สนุกสนามและขี้เล่น ค่อนข้างเจ้าชู้ เปิดเผยและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ไม่จริงจังกับชีวิต อิสซาเบลเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกเหรียญทองแดง และนักกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง เป็นน้องเล็กสุดในคณะเดินทางทั้งหมด และเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทระหว่างเชิดวุธและคีธเสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น สามารถเอาตัวรอดได้อย่างคล่องตัว ไม่เป็นภาระให้แก่คนอื่นในหมู่คณะ
ตัวละครอื่น ๆเนวิน นักแสวงหาโชคลาภชาวพม่าเมาะลำเลิง ผู้สืบทอดเชื้อสายจากมังมหานรธา นายทหารชั้นแม่ทัพในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่า ผู้เขียนลายแทงสมบัติขุมทรัพย์เพชรพระอุมาที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดจากมังมหานรธาสู่คนในตระกูล เนวินออกติดตามค้นหาขุมทรัพย์ตามลายแทง บุกป่าฝ่าดงผจญกัยตามลายแทงสมบัติจนกระทั่งเป็นไข้ป่าและตายในเวลาต่อมา ก่อนตายเนวินได้รับการช่วยเหลือจากรพินทร์ ไพรวัลย์ และมอบแผนที่ลายแทงสมบัติขุมทรัพย์เพชรพระอุมาให้เป็นการตอบแทน พร้อมกับเล่าถึงมหาสมบัติ ป่าดงดิบ สางเขียวและเทือกเขาพระศิวะตามที่ได้ไปพบเห็น และกำชับห้ามไม่ให้แพร่งพรายให้ใครรู้โดยเด็ดขาด
มังมหานรธา อดีตแม่ทัพนายทหารของสมเด็จพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ผู้ปกครองประเทศพม่า เมื่อคราวกรุงหงสาวดีเกิดศึกสงคราม มังมหานรธาเล็ดลอดหลบหนีภัยมาได้ บุกป่าฝ่าดงผจญภัยไปจนกระทั่งถึงเมืองมรกตนคร ในปี พ.ศ. 2120 และเป็นชาวพม่าเพียงคนเดียวที่ได้มีโอกาสได้เห็นขุมทรัพย์เพชรพระอุมา แต่ก็ต้องตายด้วยน้ำมือของแม่มดวาชิกาที่ทรยศต่อมังมหานรธา ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้แก่กัน ก่อนตายมังมหานรธาหลบหนีการตามล่าของวาชิกา ไปหลบซ่อนภายในถ้ำเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเทือกเขาพระศิวะ บริเวณถันพระอุมาที่เป็นทางขึ้นสู่มรกตนคร และใช้เลือดของตนเองเขียนแผนที่ลายแทงขุมทรัพย์เพชรพระอุมาไว้
สเตเกล ฮอฟมัน นักผจญภัยชาวเยอรมัน สามีของมาเรีย ฮอฟมัน อายุประมาณ 55 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ล่ำสันและแข็งแรง ไว้หนวดเครา จนได้รับฉายา "นายเคราเหลือง" อารมณ์ขัน ร่าเริงสนุกสนาน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความชำนาญในเรื่องแร่ธาตุและสมุนไพร รวมทั้งภูมิประเทศ เคยเป็นศาสตราจารย์สอนด้านธรณีวิทยาในซอร์บอน-มิวนิค พูดภาษาชาวเขาได้เกือบหมด เคยแต่งงานมีครอบครัว 3 ครั้ง แต่หย่าร้างทั้ง 3 ครั้ง มีบุตรกับภรรยาเก่าหลายคน ก่อนจะแต่งงานกับมาเรีย ฮอฟมันเป็นครั้งที่ 4 เมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้วภายหลังถูกสางเขียวฆ่าตายด้วยลูกดอกอาบยาพิษในขณะอาบน้ำในลำธารกับมาเรีย ฮอฟมัน
ข้อมูลจากเวบwikipediaค่ะ ตัวโอไม่รู้เรื่องหรอก...อิอิ
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%B2