ความคืบหน้าของโครงการเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ 
Stealth LRS-B กองทัพอากาศสหรัฐฯ
Contemporary U.S. strategic bombers: the B-52 Stratofortress, B-1 Lancer and B-2 Spirit.
New U.S. stealth bomber shrouded in mystery
http://edition.cnn.com/2015/03/14/politics/u-s-air-force-stealth-bomber/CNN ได้รายงานความคืบหน้าของโครงการ LRS-B (Long Range Strike Bomber) ซึ่งเป็นโครงการเครื่องบินทิ้งระเบิด
ทางยุทธศาสตร์ใหม่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯที่ยังคงมีความคลุมเครือไม่แน่นอนในตัวโครงการหลายประการ
นับเป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว ที่เครื่องบินทิ้งระเบิด Stealth แบบแรกของกองทัพอากาศสหรัฐฯคือ B-2 Spirit เข้าประจำการ
ในจำนวนการผลิตเพียง 21 เครื่อง  กองทัพอากาศสหรัฐฯต้องการที่จะจัดหาเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ระยะไกล
แบบใหม่จำนวนราว 80-100 เครื่อง เพื่อทดแทน B-52 Stratofortress ซึ่งเป็นม้างานหลักมาตั้งแต่ยุคปี 1950s โดยผู้แข่งขัน
ในโครงการมีสองรายด้วยกันคือ Northrop Grumman ผู้พัฒนา B-2 และทีมร่วมระหว่าง Boeing และ Lockheed Martin 
ที่จะพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบใหม่ได้ภายในกลางปี 2020s เป็นต้นไป

B-2 drops Mark 82 bombs.
เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ใหม่ในโครงการ LRS-B นั้นกองทัพอากาศสหรัฐฯได้กำหนดคุณสมบัติหลายประการ
เพื่อให้สามารถเจาะทะลวงและเอาตัวรอดจากระบบป้องกันภัยทางอากาศและเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ได้ เช่น คุณสมบัติ
ตรวจจับได้ยากมาก Stealth มีความเร็วสูงและมีพิสัยการบินไกล บรรทุกอาวุธขนาดใหญ่จำนวนมากได้ทั้งระเบิดและ
อาวุธปล่อยนำวิถีตามแบบและอาวุธนิวเคลียร์  มีระบบตรวจจับชี้เป้าหมาย และระบบสงครามElectronicที่ทันสมัย 
มีความสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบตัวอากาศยาน และสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายได้ระดับหนึ่ง  อีกทั้งยังมี
คุณสมบัติ Combat Cloud คือการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละเครื่องเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายร่วมเพื่อประสิทธิภาพ
ในการปฏิบัติการรบสูงสุด  ซึ่งมีการประเมินว่าราคาเครื่องบินทิ้งระเบิดใหม่นี้จะมีราคาไม่ต่ำกว่าเครื่องละ $550 million 
นั่นหมายความว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯจะต้องใช้งบประมาณ $55 billion สำหรับการจัดหา 100 เครื่อง  แต่อย่างไรก็ตาม
ความล่าช้าในการพัฒนาโครงการเนื่องจากผลกระทบที่รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดี Obama ได้ตัดลดงบประมาณ
ทางกลาโหมลงหลายรายการ  ประกอบกับที่กองทัพอากาศสหรัฐฯยังมีโครงการจัดหาขนาดใหญ่ต่อเนื่องอีกหลายโครงการ
เช่น โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 F-35A Lightning II และโครงการจัดหาเครื่องบินเติมเชื้่อเพลิงทางอากาศ 
KC-46A Pegasus เป็นต้น  ทำให้โครงการเครื่องบินทิ้งระเบิด LRS-B มีแนวโน้มที่จะมีความล่าช้าลงและมีค่าใช้จ่าย
ในการพัฒนาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงที่รัฐบาลกลางและกองทัพอากาศสหรัฐฯต้องแบกรับในขณะนี้  ซึ่งถ้ากองทัพ
อากาศสหรัฐฯต้องการจะจัดหาเครื่องบินทิ้งระเบิดใหม่ 100 เครื่อง เข้าประจำการพร้อมรบได้ในกลางปี 2030s อาจจะต้อง
ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า $90 billion  โครงการ LRS-B จึงมีผลต่อการคงขีดความสามารถด้านกำลังรบทาง
ยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯมาก  เพราะเครื่องบินทิ้งระเบิดที่เป็นกำลังหลักในปัจจุบันอย่าง B-52 นั้น
คงไม่สามารถยืดอายุการใช้งานไปได้เกินปี 2040-2045 ครับ
http://aagth1.blogspot.com/2015/03/stealth-lrs-b.html