วันก่อนนั่งเช็ดปืนอยู่ดีๆ บังเอิญเหลือบไปเห็นกระสุนเก่าที่คุณพ่อซื้อไว้นานมาก (ร่วม 30 ปีเห็นจะได้)
วางไว้ในตู้รวมกับกระสุนกล่องอื่นๆ ที่ผมซื้อมา เลยคิดว่า...เอ! กระสุนจะด้านมั้ยน๊อ เดี๋ยวว่างๆ เอาไปลองยิงดูดีกว่า
นัดไหนลั่นแสดงว่ากระสุนยังใช้งานได้ก็เอาเก็บไว้ นัดไหนด้านก็ทิ้งไป ฮ่า..ฮ่า..ล้อเล่น มุขครับมุข

แต่ เอ๊....วันก่อนอ่านกระทู้พี่พนธ์ลำภูเห็นว่ายิงขโมยตั้งสามนัด แต่สับไม่แตกซักนัดเดียว
ก็เลยไอเดียบรรเจิดคิดพิเรนท์ๆ อีกแล้ว
ลองทดสอบอะไรดูเล่นๆ ดีกว่า เอากระสุนมาแช่น้ำดูซิว่าจะเป็นยังไง ตอนแรกตั้งใจว่าจะแช่ไว้แค่คืนเดียว พอเจอกระทู้พี่พนธ์ลำภูแล้วอย่ากระนั้นเลย
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอามันซะอาทิตย์หนึ่งเลย (คนที่บ้านสงสัยจะดื่มน้ำสาบานกับใครถึงได้เอาลูกปืนมาแช่น้ำ)

กระสุนที่ใช้ทดสอบก็ยี่ห้อก็ธรรมดาๆ ที่หาได้ตามท้องตลาดทั่วไปครับ ไม่ได้พิเศษพิสดารอะไร
.38spl ของบูลเล็ตฯ 9 มม.หัวรูจากไทยอาร์ม ส่วนหัวทองแดง และลูกซ้อมหัวตะกั่วก็บูลเล็ตฯเช่นกัน
มาดูกันเลยครับ นี่ขณะอยู่ในน้ำถ่ายไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก่อนจะไปวางไว้บนหิ้งพระ
(แล้วทำไมต้องวางบนหิ้งพระไม่ต้องถามครับผมก็ไม่รู้เหมือนกัน)


ครบ 7 วันเอาออกมาแล้วยังเปียกๆอยู่เลย

หลังจากเช็ดให้แห้งแล้ว...มาเปรียบเทียบสีปลอกกัน

.38spl ด้านซ้ายคือลูกที่แช่น้ำ ด้านขวาคือลูกที่ไม่ได้แช่ เปรียบเทียบสีแดงที่แต้มไว้จานท้ายกระสุนหายไปเกลี้ยง


มาดู 9 มม. กันมั่ง ซ้ายสุดคือหัวรู สีปลอกคล้ำจนเกือบเป็นสีดำ นัดกลางหัวตะกั่วสีตะกั่วจากเดิมสีออกเทาๆกลับกลายเป็น
ดำสนิท ส่วนหัวทองแดง ใหม่เอี่ยมหัวเงาวับเหมือนขัดเงา

ส่วนนี่คือพระเอกและนางเอกของงานครับ


และนี่ก็คือผลงานครับ ลั่นทุกนัด ไม่มีด้าน ไม่มีแชะ เอากระสุนขึ้นจากน้ำเช็ดน้ำออกแล้วก็ถ่ายรูป
จากนั้นก็ยิงเลย ไม่มีการตากแดด ไม่มีการรอให้แห้ง กลุ่มไม่ค่อยสวยชนิดขัดใจเซียนเพราะตั้งเป้าสุดสนาม 25 ม.
เล็งตาแทบเหล่


ผมคาดไว้ว่ากระสุนที่ไม่น่าจะลั่นก็คือ 9 มม.หัวรูกับหัวตะกั่วเพราะจากลักษณะปลอกหัวรูดำปี๋ ส่วนหัวตะกั่วนั้นหัวกระสุนดำ
สนิทและเย็นเจี๊ยบเหมือนจะอมๆน้ำไว้ด้วย แต่ผมคิดผิดครับ
***และเช่นเคยครับ ทดสอบเอามันส์ สนุกๆ ตามประสาคนอยากรู้ แล้วมาบอกต่อ สาระไม่ค่อยมี ใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้
ขอบคุณที่สละเวลาชมครับ