ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย
วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี 0:2 ลิเวอร์พูล
ประตู : 0-1 มักซี่ น.58, 0-2 เคลลี่ น.63
นี่เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่เชลซีเจอกับลิเวอร์พูลในคาร์ลิ่ง คัพโดยครั้งล่าสุดคือเกมรอบชิงปี 2005 ที่พวกเขาเอาชนะได้ นัดนี้พวกเขาส่งตอร์เรสลงมาปะทะทีมเก่าโดยจับคู่กับลูกากูในแดนหน้า
ส่วนทีมเยือนก็เพิ่งบุกไปปราบเชลซีได้เมื่อ 10 วันก่อนแต่นัดนี้ดัลกลิชเลือกจะดร็อปซัวเรสไว้ข้างสนามและให้คาร์โรลล์เป็นหน้าเป้า ส่วนเบลลามี่ก็มีชื่อเป็นตัวจริงเช่นกัน
ครึ่งแรก
ลูอิซล้มในเขตโทษแต่โดนเป่าพุ่งล้ม
เปิดฉากมาเพียงแค่ 3 นาทีก็เกือบจะมีจุดโทษซะแล้วจากลูอิซที่ทำชิ่งกับตอร์เรสหลุดบอลเข้าเขตโทษก่อนโคอาเตสจะพุ่งเข้ามาเสียบ ลูอิซล้มลงไปแต่ฟิล ดาวน์ก็มาแจกใบเหลืองให้กับลูอิซแทนในข้อหาพุ่งล้ม
คาร์โรลล์ได้ยิงไม่ตรงกรอบ
ทั้งสองฝ่ายผลัดกันทำเกมบุกแต่เป็น"หงส์แดง"ที่มีโอกาสได้จังหวะจบจังๆก่อนจากลูกเตะมุมเปิดจากทางขวาเข้ามาตรงกลาง บอลโดนหน้าอกแข้งเชลซีมาเข้าทางคาร์โรลล์หมุนตัวยิงเลยแต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ
หงส์เฮ...เก้อ!คาร์โรลล์ซัดโทษติดเซฟ
แล้วนาทีที่ 21 "หงส์แดง"ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่เอนริเก้เปิดบอลเข้ามาให้คาร์โรลล์โหม่งแต่อเล็กซ์กางมือออกมาตัดหน้าทำให้ดาวน์แจกจุดโทษพร้อมใบเหลือง คาร์โรลล์วิ่งเข้ามาซัดจุดโทษเองแต่บูลล์เซฟเอาไว้ได้ทำให้"สิงห์บลูส์"รอดจุดโทษหวุดหวิด
แลมพ์ลองส่องไกลข้ามคานเยอะ
ถึงคราวเจ้าบ้านได้ลุ้นบ้างจากการจ่ายเข้ามาตรงกลางให้กับแลมพาร์ดได้แต่งบอลทีนึงก่อนตัดสินใจยิงไกลเลยแต่บอลก็โด่งข้ามคานออกหลังไปไกล
ทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสยิง
เกมเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกแล้วแต่ทั้งสองทีมยังหาโอกาสได้ยิงกันไม่มากนักโดยทั้งคู่ผลัดกันทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องแต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอทำให้ยังไม่ได้ง้างเท้ายิงกันเลย
เอนริเก้กึ่งยิงกึ่งเปิดเข้าซองเทิร์นบูลล์
"หงส์แดง"มีโอกาสได้ลุ้นเล็กๆอีกครั้งจากการพาบอลขึ้นมาของเบลลามี่ก่อนจะจ่ายให้กับเอนริเก้ที่เติมตามมา ก่อนจะตัดสินใจกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปแต่เทิร์นบูลล์ยังล้มตัวรับเอาไว้ได้
นิดเดียว!ลูกากูโขกหลุดเสาสอง
ทดเจ็บ"สิงโตน้ำเงินคราม"น่าได้ประตูขึ้นนำก่อนอยู่เหมือนกันจากโบซิงวาที่ได้ตั้งป้อมเปิดจากแนวลึกเข้าไปในเขตโทษให้กับลูกากูได้โฉบเข้ามาโขกแต่บอลก็พุ่งออกเสาสองไปแค่นิดเดียว
ครึ่งหลัง
โรเมอูลองส่องไกลไม่เข้ากรอบ
เข้าครึ่งหลังเป็น"สิงห์บลูส์"ที่ได้โอกาสลองยิงก่อนจากโรเมอูที่หลอกเหมือนจะจ่ายก่อนจะล็อกแล้วเปลี่ยนมายิงจากระยะ 30 หลาแทน บอลพุ่งแฉลบแลมพาร์ดเปลี่ยนทางออกหลังไป
เบลลามี่ยิงเต็มข้อยังข้ามคาน
เกมครึ่งหลังเริ่มจะเล่นกันไวขึ้นแล้ว"หงส์แดง"ก็ได้ลุ้นอีกครั้งในนาที 52 จากลูกโต้กลับสเปียริ่งเปิดออกไปทางขวาให้เฮนเดอร์สันแปะกลับมาให้กับเบลลามี่ก่อนจะพาบอลเข้ามาจนถึงมุมเขตโทษก่อนจะกดเต็มข้อแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ
เกือบนำ!มาลูด้าปาดแฉลบชนคาน-ลูอิซซ้ำติดบล็อก
เจ้าบ้านหวิดจะได้ประตูขึ้นนำอีกแล้วจากลูกเปิดแลมพาร์ดทางขวาเปิดยาวไปถึงเสาสองให้กับมาลูด้าเปิดวิ่งมาหวังแตะเข้ากลาง แต่บอลแฉลบแล้วชนคาน มาเข้าทางลูอิซจะโหม่งจ่อๆแต่ก็ยังติดตัวของโคอาเตสออกหลัง
เจ้าเก่า!มักซี่แสบยิงสิงห์อีกแล้ว
นาที 58 "หงส์แดง"ก็ได้ประตูขึ้นนำแล้วจากการเล่นลูกโต้กลับเริ่มจากเฮนเดอร์สันจ่ายตัดจากกลางสนามให้เบลลามี่ควบบอลเข้าเขตโทษก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้กับมักซี่วิ่งเข้ามาแปส่องบอลเข้าประตูไป ลิเวอร์พูลออกนำไปก่อน 1-0
สิงห์ป้อแป้!เคลลี่โขกหงส์บวกลูกสอง
ถัดมาอีกแค่ 5 นาที"หงส์แดง"ก็ทิ้งห่างออกไปอีกลูกจากจังหวะฟรีคิกริมเส้นซ้ายเปิดเข้าไปในกรอบ 6 หลาให้กับเคลลี่ที่ยืนโล่งๆแบบไร้แข้ง"สิงห์บลูส์"ประกบโหม่งส่งบอลตุงตาข่าย ลิเวอร์พูลทิ้งห่างเชลซีเป็น 2-0 แล้ว
เทพทรุด!ลูคัสลงเปล-อดัมแทนที่
ลิเวอร์พูลต้องเสียนักเตะไปก็คือลูคัสที่ปะทะกับมาต้าแต่เป็นเจ้าตัวเองที่เจ็บแทนตรงบริเวศหัวเข่า ว่าที่กัปตันยังฟื้นเล่นต่อแต่สุดท้ายไม่ไหว ลงแปลออกจากสนามไปและชาร์ลี อดัมลงสนามมาแทน
อเนลก้าเกือบยิงตีตื้น
น่าจะมีประตูตีตื้นจริงๆสำหรับ"สิงห์บลูส์"จากบอลทะลุช่องมาทางขวาให้อเนลก้าหลุดไปแล้ว เรน่าออกมาไวแต่โดนอเนลก้าแตะหลบไปแต่บอลพันแข้งพันขาเสียเวลาแล้วพอได้ยิงก็แฉลบอดเป็นประตู
ตอร์เรสเซ็ง!ได้โขกแต่เรน่ารับติดหนึบ
เจ้าบ้านบุกแหลกแล้วก็เกือบได้อีกแล้วจากนาที 75 เตะมุมทางซ้ายเข้าไปที่กลางประตูและเป็นตอร์เรสวิ่งเข้ามาขวิดแต่เรน่ายังไม่ยอมให้เพื่อนเก่ายิงบินเซฟไว้ได้
อเล็กซ์กดฟรีคิกไม่แม่น
ช่วงท้ายเกมเชลซีได้ลูกฟรีคิกกลางประตูระยะประมาณ 28 หลาก่อนจะรับหน้าที่สังหารโดยอเล็กซ์ ปราการหลังเท้าหนักวิ่งเข้ามากดแต่ลูกนี้ดีไม่พอบอลพุ่งหลุดกรอบออกไป
จบเกมลิเวอร์พูลก็บุกมาย้ำชัยได้อีกครั้งเอาชนะเชลซีไปได้ 2-0 ตบเท้าเข้ารอบรองไปเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับต้องไปตามอาการของลูคัสต่อรวมถึงอนาคตของอันเดร วิลลาส โบอาสด้วย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เชลซี : รอสส์ เทิร์นบูลล์ 6.5, โจเซ่ โบซิงวา 6.5, อเล็กซ์ 5.5, ดาวิด ลูอิซ 5.0, ไรอัน เบอร์ทรานด์ 6.0, แฟรงค์ แลมพาร์ด 5.5, โอริโอล โรเมอู 7.0, จอร์ช แม็คเอคแคร่น 5.0 (รามิเรส น.41 6.5), ฟลอร็องต์ มาลูด้า 5.5 (อเนลก้า น.64 6.0), เฟร์นานโด ตอร์เรส 4.0, โรเมลู ลูกากู 5.5 (มาต้า น.64 6.0)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เฮนริเก้ ฮิลาริโอ้, เปาโล แฟร์เรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ซาโลมง คาลู
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า 6.0, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 7.0, โฆเซ่ เอนริเก้ 6.5, มาร์ติน เคลลี่ 8.0, เซบาสเตียน โคอาเตส 7.5, ลูคัส เลว่า 8.0 (อดัม น.70 6.0), มักซี่ โรดริเกซ 7.0 (สเคอร์เทล น.89 5.0), เจย์ สเปียริ่ง 7.0, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7.0, เคร็ก เบลลามี่ 8.5* (เคาท์ น.79 6.0), แอนดี้ คาร์โรลล์ 7.0
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โดนี่, จอห์น ฟลานาแกน, สจวร์ต ดาวนิ่ง, หลุยส์ ซัวเรส
from
www.teenee.com
