เขียนให้อ่านเล่นๆ **** เขียนจากที่ถูกฝึกสอนมา **** ไม่ได้รู้ด้วยตัวเอง ต้องยกความดีให้ครูผู้ฝึกครับผม
ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่ผู้รู้หรือผู้ชำนาญการอะไร เพียงแต่ได้รับการฝึกเล็กๆน้อยๆ จึงมาเล่าให้ฟัง
Low light / no light shooting using flashlight and laser aiming devices.
การใช้อาวุธปืน ร่วมกับไฟฉาย ไม่ใช่ของแปลกใหม่ มีใช้กันมานานแล้ว แต่จะเป็น เจ้าหน้าที่รักษากฏหมาย ไม่ว่าจะเป็น Uniform Street Cops , Special Op Cops ( SWAT ) , Deputy Sheriff ฯล ที่เป็นผู้บุกเบิกการใช้ไฟฉายร่วมกับอาวุธปืน จุดมุ่งหมายของการใช้ไฟฉายร่วมกับปืน
ก็คือ Target identifications คำว่า เป้าหมายนี้ หมายถึงว่า เพื่อให้รู้ว่า เป้าที่เราจะต้องยิงนั้น เป็น
Friends or Foes การทำงานของ เจ้าหน้าที่รักษากฏหมาย ปกติแล้วจะอยู่ในเมือง ซึ่งมีประชาชนปะปนกับ คนร้าย การใช้อาวุธปืนยิงใครซักคน ต้องแน่ใจว่าเป็น เป้าหมายที่ต้องยิงจริงๆ เพื่อที่จะ Eliminated the Threat ถ้ายิงผิดคน ดันไปยิงคนอื่นที่ไม่ใช่คนร้ายเข้าล่ะ ยุ่งเลยครับเรื่องยาวแน่ๆ ต้องโดนตั้งกรรมการสอบสวน ถึงแม้จะไม่โดนติดคุก แต่ก็อาจจะโดนฟ้องร้องจากญาติผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ จนหมดเนื้อหมดตัวได้ แถมตกงานอีกต่างหาก เพราะฉนั้นไฟฉายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ เจ้าหน้าที่รักกฏหมายมากๆ ชิ้นนึงรองลงมาจากปืนประจำกาย
ในขณะเดียวกัน ประชาชนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ ก็สามารถได้ประโยชน์จากการใช้ไฟฉายร่วมกับอาวุธปืน ในอเมริกาได้มีเหตุการเกิดขึ้นมาแล้วว่า เจ้าของบ้านตกใจตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะได้ยินเสียงเหมือนขโมยขึ้นบ้าน หยิบปืนเดินออกจากห้องนอนออกมาดู เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ ด้วยความตกใจซัดตูมเข้าไป ปรากกว่ากลายเป็นคนในบ้านนั้นเองที่โดนยิง ซึ่งเหตุแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าผู้ที่ยิงได้รับการฝึก วิธีใช้ปืนร่วมกับไฟฉาย
ในสมัยยุคบุกเบิก การใช้ปืนร่วมกับไฟฉายนั้น เป็นไปแบบทุลักทุเลเอาการ เพราะสมัยนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ไม่มีบริษัทไหนผลิตปืนที่สามารถติดไฟฉายได้ ตัวไฟฉายเองก็ใหญ่เทอะท่ะ พวกตัว adaptor ที่สามารถติดไฟฉายเข้ากับปืนได้ก็ไม่มี จึงได้มีการดัดแปลงกันเองในหมู่ผู้ใช้ ซึ่งก็เป็นเรื่องเล่าขำขันกันในยุคปัจจุบัน ว่าบางคนใช้เทปพันมั่ง บางคนใช้ลวดมัดมั่ง
ทาง FBI ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ไฟฉายร่วมกับอาวุธปืน จึงได้ทำการศึกษาและออกเป็นหลักสูตรการใช้งานออกมา วิธีจับไฟฉายของ FBI จะใช้มือที่ไม่ใช่ gun hand เป็นมือถือไฟฉาย โดยจะชูขึ้นเหนือหัว และเยื้ยงเลยหัวไหล่ ออกไปข้างๆ เพราะจากที่ทาง FBI ได้ทำการศึกษา พบว่าถ้าใช้ไฟฉาย ใกล้ตัวจะถูกยิงย้อนตามแสงไฟฉายได้ จึงใช้วิธีจับแบบนั้น ทั้งนี้เราจะต้องนึกไปถึงในสมัยนั้น พวกไฟฉายที่ใช้ก็คือ Mag-lite ซึ่งปุ่มปิดเปิดจะอยู่ตรงกระบอกไฟฉาย
ไฟฉายก็ยังมีขนาดใหญ่อยู่ ทำให้ใช้งานลำบากพอสมควร การใช้ไฟส่องก็ไม่ใช่ว่าเปิดส่องสว่างโล่ เข้าไปเลย เป็นการเปิดชั่ววูบเพื่อดูเป้า ถ้าใช่ก็ยิง มีหลายๆท่านที่เคยถกเถียงกันว่า ถ้าใช้ไฟฉายส่องกลางคืน ก็โดนยิงสวน ก็จริงครับถ้าเอาไปส่องเป็นไฟส่องทาง ก็สมควรโดนยิง
หลังจากที่ได้มีบริษัทผลิตไฟฉาย ผลิตออกมาให้เล็กลงแต่กำลังความสว่าง เทียบเท่าหรือดีกว่าไฟฉายรุ่นเก่าๆ การใช้ปืนร่วมกับไฟฉายก็ได้พัฒนาควบคู่ไปกับ การพัฒนาของไฟฉาย โดยจะมีวิธีการจับไฟฉายอย่างในรูปข้างล่าง เรียกว่า The Rogers-Surefire

หรือ The Harries position

หรือ The Chapman technique

โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบ Roger Technique และ Champman Technique มากที่สุด ท่า Harries Position ใช้ยากที่สุด แต่สามารถยิงปืนได้แม่นที่สุด เพราะมั่นคงดีแต่คงต้องฝึกนานหน่อยเพราะ มือที่จับไฟฉายจะเอียงบ่อยๆทำให้แสงที่ส่องเข้าเป้า ไม่ตรงทำให้แสงสว่างไม่ค่อยพอ
นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี วิธีที่ใช้ไฟฉายติดเข้าไปกับปืนเลยซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด ไม่ต้องพะวงเรื่องการถือไฟฉาย ข้อเสียก็คือไฟฉายจะติดอยู่กับปืนตลอดเวลา ลองนึกภาพดูว่าในกรณีที่ ตำรวจหยุดรถของประชาชนเพื่อขอตรวจหรือขอดูใบขับขี่ แล้วต้องการใช้ไฟฉาย จะชักปืนออกมาส่องมันก็จะเกินไปทำให้คนขับรถตกอกตกใจได้ และไม่เป็นการสมควรที่จะเอาปืนออกมาส่องแบบนั้น ก็เลยต้องพกไฟฉายเพิ่มอีก 1 อัน ปกติแล้วการใช้ไฟฉายที่ติดกับปืน มีจุดมุ่งหมายคือพร้อมบู๊ ได้ทุกขณะจะเป็นแบบ Offensive tactics มากกว่า Defensive Tactics ซึ่งก็เหมาะสำหรับไว้เฝ้าบ้านในยามค่ำคืน ใช้งานได้ทันที ไฟฉายที่ติดกับปืน จะมีสวิทช์ ที่สามารถปิดเปิดแบบ ฉับพลัน ได้โดยไม่ต้องเปิดค้างทิ้งไว้ ในขณะเดียวกันตัว สวิทช์ ก็ทำมาให้เปิดค้างไว้ได้ด้วยเพื่อใช้แบบไฟฉายธรรมดา
การปิดเปิดอาจจะใช้นิ้วเกี่ยว สวิทช์ ที่ตัวไฟฉาย หรือซื้อ pressure switch ที่มีสายต่อออกมาจากตัวไฟฉาย ติดที่ด้ามก็ได้แล้วแต่จะชอบ
มาพูดกันถึง Laser Aiming Devices กันบ้าง ถึงแม้ว่าทาง เจ้าหน้าที่รักษากฏหมาย จะเป็นผู้ที่บุกเบิกเกี่ยวกับ ไฟฉายติดปืน แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้ Laser ติดปืน ทางทหารเป็นผู้บุกเบิกและใช้งาน
สงครามในปัจจุบัน ยุทธวิธีการรบได้เปลี่ยนไปจากอดีต สงครามในเวียตนาม เป็นการรบในป่าซะโดยมาก ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฉาย หรือ Laser Aiming devices
การรบในเมือง Urban Warfare ต่างกับ Jungle Warfare ยังกะหน้ามือกับหลังมือ รบในเมืองศัตรูปะปนอยู่กับประชาชน แอบลอบยิงจากบ้านช่อง ตึกราอาคาร เป็นการรบแบบกองโจรที่ ตีหัวแล้วหนี ที่แอบที่ซ่อนมากมาย ตามเหลือบตามมุม ความเร็วในการจับเป้าหมาย และการ Identifying the target ให้เร็วที่สุดสำคัญมาก ทางทหารจึงได้ทำการศึกษาการใช้ Laser และ ไฟฉายเข้าช่วยในการยิงทำลายข้าศึก และปรากฏว่าผลสรุปการใช้อาวุธกับแสงเลเซอร์และไฟฉาย ออกมาดีมากๆ
จึงเริ่มใช้มาตั้งแต่นั้นโดยช่วงแรกๆจะเป็นพวกรบพิเศษที่ใช้ก่อน แล้วจึงแพร่หลายไปในหน่วยธรรมดาเพราะข้อมูลที่เก็บมาจากสนามรบจริงบ่งบอกให้เห็นว่ามีประโยชน์มาก การรบแบบ CQB/CQC ซึ่งเป็นการรบในเมือง โดยมากแล้วต้องเข้าไปทำ House Clearing ซึ่งอันตรายมาก เพราะข้าศึกจะแอบอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ได้ การยิงจะเป็นแบบยิงฉับพลัน โดยใช้แสงเลเซอร์เล็งจี้ที่หน้าอก โดยที่ไม่ต้องเล็งด้วยศูนย์ปืนหรือศูนย์จุดแดง พอเห็นจุดแดงของแสงเลเซอร์จี้ที่เป้าก็กดไกปืนได้เลย ซึ่งในกรณีนี้หลังจากที่ ดูแน่นอนแล้วว่าเป็นข้าศึก จากไฟฉายที่ปืน ซึ่งการกระทำสองอย่างนี้ ทำเกือบจะพร้อมกัน Identified the target and Eliminated it. หลักการยิงคือ 2-1 หรือ 1-1
ยิงที่หน้าอก 2 นัด ยิงหัว 1 นัด หรือ ยิงอก 1 นัด หัว 1 นัด เหตุผลคือ ข้าศึกหรือคนร้ายอาจจะใส่ Body Armor
ยุทธวิธีนี้ ประชาชนก็สามารถนำมาใช้ในการป้องกันตัวได้เช่นกัน คนร้ายมีอาวุธเข้ามาในบ้าน ขึ้นอยู่กับว่าเวลาไหน ถ้าเรายังไม่นอน ไฟในบ้านยังเปิดอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉาย แต่แสงเลเซ่อร์ ก็ยังมีประโยชน์ในการช่วยเล็งเป้า ถึงแม้จะเป็นช่วงแค่วินาที แต่ก็มีความหมายถึงชีวิตได้
ถ้าคนร้ายเข้ามาหลังจากที่เรานอนกันหมดแล้ว ไฟในบ้านปิดมืด ( ถึงอย่างไรก็ตาม ยังจะแสงสว่างจากไฟตามถนนหรือ บ้านข้างเรียนเคียงอยู่บ้าง) ไฟฉายและแสงเลเซ่อร์จะมีประโยชนมากทีเดียว
อย่างไรก็ตามที่กล่าวมานี้ เป็นในกรณีที่เรารู้ตัวและสามารถหยิบอาวุธนั้นๆได้ทัน ไม่เหมือนกับทหารหรือตำรวจ ซึ่งรู้ตัวอยู่ก่อนแล้วว่าจะต้องใช้ในยุทธวิธีในเชิงรุก สำหรับประชาชนโดยทั่วๆไป ถ้าเราหลับปืนมันก็หลับด้วย มันช่วยอะไรเราไม่ได้ ก่อนนอนควรทำให้เป็นนิสัย ควรเดินตรวจประตูหน้าต่าง ให้แน่ใจว่าปิดและล็อคหรือลงกลอน บ้านไหนมีหมาก็ดี ไว้เตือนได้ว่าคนจะเข้าบ้าน แต่ควรจะฝึกหมาไม่ให้กินของที่ใครโยนเข้ามา ถ้าหมาเราอยู่ดีๆตาย และสงสัยว่าโดนยาเบื่อล่ะก้อ ให้ระวังตัวได้เลยภัยกำลังจะมาเยือน บ้านไหนที่ไม่มีหมาหรือไม่สะดวกที่จะเลี้ยง ควรมีสัญญานเตือนภัยไว้บ้าง
หมาที่จะเลี้ยงไม่จำเป็นต้องเป็นหมาใหญ่ดุร้าย เป็นหมาเล็กตัวเท่าแมวก็ได้จุดมุ่งหมายคือ ขอให้มันเห่าเตือนก้พอแล้ว พูดถึงเรื่องหมาก็ยังเป็นอีกเรื่องนึง คือควรจะฝึกจะสอนมันไม่ให้เห่าพร่ำเพรื่อ
ที่เขียนมานี้หวังว่าคงได้ประโยชน์มั่งไม่มากก็น้อย ถือซะว่าอ่านเล่นๆ และขอความกรุณาอย่าลอกไปลงที่อื่น
ลืมบอกไปว่า ไฟฉายยังสามารถทำให้ คนร้ายหรือข้าศึก ตาบอดตาพร่าไปได้ชั่วขณะนึง ซึ่งเพียงพอที่ทำให้เราได้เปรียบ
ไฟฉายที่จะใช้มีให้เลือกมากมาย แต่ควรจะเลือกที่มีกำลังส่องแสงสูงหน่อย ( สำหรับแบบที่จะใช้ถือ ) ควรจะมี สวิทช์ที่ตูดของไฟฉายและเป็นแบบ กดติดปล่อยดับ
ไฟฉายติดปืน ไหนๆจะซื้อแล้วก็ซื้อแบบที่มี Laser ด้วยเลยเช่นแบบ Streamlight M6 หรือ TRL-2
http://www.streamlight.com/product/product.aspx?pid=81อีกอย่างนึงคือ ถ่าน CR123 lithium batteries นี้ไม่เหมือนถ่านธรรมดา คือถ่านธรรมดาเวลากระแสไฟจะหมด แสงไฟจะค่อยๆหรี่ลง แต่ถ่าน CR123 lithium batteries ถ้ากระแสไฟอ่อน จะไม่ทำให้แสงไฟหรี่ลงแต่จะดับไปเลย ซึ่งสำคัญมากที่ต้องคอยเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ตามปกติแล้วพวกตำรวจที่ใช้ จะพกถ่านสำรองไว้ด้วย และจะเปลี่ยนถ่านทุกๆ สองสามวัน แล้วแต่ว่าใช้มากหรือน้อย ถึงแม้มันจะยังสว่างดีอยู่ก็ต้องเปลี่ยน เพราะถ้ามาดับตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มล่ะ ซวยเลยครับพี่น้อง
--------------------------------------------------------------------------------