งานนี้วัดกันที่ฝีมืออย่างเดียวเลยครับ

[ตะบันไฟ]

สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายภูมินทร์ ผู้ตาย เดินวนเวียนอยู่หน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งอยู่อีกฝั่งของซอยเพ็ชรตระกูล จากนั้นได้มีรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีดำ 1 คัน ขับออกจากลานจอดรถสถานบันเทิงดังกล่าว มาจอดติดไฟแดงรอเลี้ยวขวาเข้าซอยเพ็ชรตระกูล โดยมีรถเก๋งนิสสัน เซฟิโร่ สีทอง 1 คัน ขับมาจอดต่อท้าย จากนั้นนายภูมินทร์ได้เดินข้ามซอย พร้อมชักอาวุธปืนยิงใส่รถปิกอัพกว่า 10 นัด จนกระสุนหมดแม็กกาซีน จึงวิ่งหนีเข้าลานจอดรถก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ก่อนที่นายภูมินทร์จะล้มฟุบตายคาที่ ส่วนรถคู่กรณีได้เร่งเครื่องขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมาเวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส.สภ.พัทยา พ.ต.ท.อนันต์ ธรรมชัยกุล สารวัตรเจ้าของคดี เดินทางไปสอบปากคำนายอิทธิพันธ์ ที่ รพ. กรุงเทพ-พัทยา กระทั่งเปิดปากรับสารภาพว่าเคยมีเรื่องเขม่นกับนายภูมินทร์ เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เพราะแย่งกันจีบสาวใน “เดอะคอจเทจ ผับ” ก่อนเกิดเหตุไปเที่ยวผับดังกล่าว พบนายภูมินทร์มาเที่ยวกับเพื่อน แต่ไม่ได้มีปากเสียงกัน กระทั่งตนขับรถพาแฟนสาวออกจากผับ ปรากฏว่ามีรถเก๋งนิสสันเซฟิโร่ขับตามมา ก่อนที่นายภูมินทร์จะเดินลงมา ชักปืนกระหน่ำยิงใส่รถถูกตนกับแฟนสาว จึงคว้าปืน .357 จากลิ้นชักหน้ารถยิงตอบโต้ถูกนายภูมินทร์เสียชีวิต ส่วนปืนเก็บไว้ที่ลิ้นชักหน้ารถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหานายอิทธิพันธ์ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมยึดปืนสื่อมรณะไว้เป็นหลักฐาน

**************************************************************************

ถ้าตามข้อเท็จจริงข้างต้น แสดงว่า คนตายใช้ 9 มม.ไปยิงใส่เขาก่อนจนหมดแมกฯ
จำเลยจึงชักปืน .357 ออกมายิงตอบโต้  ..

น่าจะเป็นการป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุได้   เพราะจำเลยไม่ได้เป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนในขณะนั้น
หรือไม่ใช่ลักษณะเข้าร่วมวิวาท ........คนตายอาจตายฟรี ..........

จำเลยอาจจะถูกตั้งข้อหาเพียง  พกพาปืน . 357 ไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ฯ
โดยไม่มีป.๑๒ และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ...ตามพรบ.อาวุธปืน ฯ
มาตรา ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง , ๗๒ ทวิ วรรคสอง ประกอบ ปอ. มาตรา ๓๗๑

กรณีที่คนร้ายวิงหนี แล้วเรายิ่งไล่หลังไปอย่างนี้ จะเป็นการป้องกันตัวได้หรือเปล่าหรือจะโดนข้อหาพยายามฆ่า..

อาจโดนว่าป้องกันตัวเกินกว่าเหตูครับ
เนื่องจากผู้คุกคามได้วิ่งหนีจากเราไปแล้ว
ถือว่าภัยอันตรายได้ไปจากเราแล้ว
ถ้ายิงก็ถือเป็นเจตนา

ขอเสริมให้นิดนะครับ
หากเราเข้าวิวาท / หรือเป็นฝ่ายก่อเรื่องก่อน .. แล้วอีกฝ่ายวิ่งหนีเรา ..แล้วเรายิงตามไป ถูกเขา.
อ้างป้องกันตัว ไม่ว่าจะพอแก่เหตุหรือเกินกว่าเหตุ .. อ้างไม่ได้เลยครับ
อาจจะโดนข้อหาฆ่า/หรือพยายามฆ่าได้เลย ..
อันนี้คือหลักของกฎหมาย ..

ที่ถามมา ว่าคนร้าย  .. เป็นคนร้ายกรณีไหน .. ถ้าวิ่งราวสร้อยคอเราไป .. เรามีสิทธิติดตามเอาคืน
เพื่อป้องกันทรัพย์สินเรา .. การยิงไล่หลัง   ต้องกระทำให้ดี  อาจเป็นเกินกว่าเหตุได้   ถ้าเขาตายขึ้นมา ...

อยากให้ศึกษากฎหมายจากกระทู้นี้ดูครับ ...

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=32218.0

[Ro@d - รักในหลวง]

กรณีนี้ ข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าว ชายที่ถูกยิง ได้หยิบอาวุธปืน ยิงสวนกลับไปในทันที
คนร้ายมีอาวุธปืนและเพิ่งจะ ระดมยิงจนตนได้รับบาดเจ็บไม่มีเวลาไปใคร่ครวญ ว่า

คนร้ายจะหนี หรือจะสาดกลับมาอีก.. หรือจะมีกี่คน พฤติการณ์ กระทำตอบไปในทันที
ยังไม่ถือว่า พ้นไปจากภยันตรายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว .. ส่วนเมื่อยิงแล้ว จะเจ็บตาย ไม่สำคัญ
ยังถือเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ อันถือเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย

อย่าเพิ่งนำข้อเท็จจริงที่ ทราบภายหลังที่เกิดเหตุมาปะปนกัน..

ฝากไปในกระทู้ http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=32218.0

ขณะติดตามจับกุมคนร้ายที่ไม่มีอาวุธ   เจ้าของผู้ติดตาม ไม่มีสิทธิจะไปยิงขา หรือยิงใส่เขา
ถึงจะอ้างว่า ถ้าไม่หยุดจะยิง เพื่อขัดขวางการหลบหนี เพื่อจับกุม

ถ้าไปยิงเขา จะถูกตรงส่วนไหนของร่างกายก็ตาม ท่านอาจจะมีความผิด
ฐาน ฆ่าหรือพยายามฆ่า แล้วแต่กรณี.. อาจไม่เข้า ตาม ป.อาญา ม.๖๙  ด้วยซ้ำ
เพราะไม่ใช่ พยันตรายที่ใกล้จะถึง และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ..

ข้อเท็จจริงในกระทู้นี้ ต่างจากอีกกระทู้ ไม่อาจเทียบเคียงกันได้ 
ในกระทู้นี้ คนร้ายมีอาวุธปืนและได้ใช้อาวุธปืนนั้นยิงประทุษร้ายไปแล้ว ..
มีการยิงสวน จะเจ็บตาย ไม่สำคัญ  แต่ต้องกระทำไปในทันที่

เพื่อป้องกันมิให้ตนเองต้องถูกประทูษร้ายต่อไปอีก การกระทำยังไม่ขาดจากกัน.
วิญญูชน ที่ถูกประทุษร้าย.. ไม่อาจแยกแยะได้อีกว่า คนร้ายหมดกระสุน และจะไม่ยิงมาอีก..

[ตะบันไฟ]

ขณะติดตามจับกุมคนร้ายที่ไม่มีอาวุธ   เจ้าของผู้ติดตาม ไม่มีสิทธิจะไปยิงขา หรือยิงใส่เขา
ถึงจะอ้างว่า ถ้าไม่หยุดจะยิง เพื่อขัดขวางการหลบหนี เพื่อจับกุม

ถ้าไปยิงเขา จะถูกตรงส่วนไหนของร่างกายก็ตาม ท่านอาจจะมีความผิด
ฐาน ฆ่าหรือพยายามฆ่า แล้วแต่กรณี.. อาจไม่เข้า ตาม ป.อาญา ม.๖๙  ด้วยซ้ำ
เพราะไม่ใช่ พยันตรายที่ใกล้จะถึง และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ..

เรียนท่าน Ro@d .. กรณีเจ้าทรัพย์วิ่งติดตามคนร้ายที่เอาทรัพย์หรือกระทำความผิดไปในทันทีทันใด ..
มีคำพิพากษาศาลฎีกาบอกว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิในทรัพย์ของตน ซึ่งสามารถกระทำได้
แต่ต้องระวังในการใช้อาวุธเพื่อหยุดยั้งคนร้าย   ต้องกระทำให้ดีๆ  ไม่งั้นจะเกินสมควรแก่เหตุตาม ป.อาญา มาตรา ๖๙ ไปได้ครับ .............

คำพิพากษาฎีกาที่  ๑๙๐๘ / ๒๔๙๔  คนร้ายขึ้นเรื่อนลักทรัพย์ได้แล้ววิ่งหนีไป
เจ้าทรัพย์วิ่งไล่ไปทันแล้วใช้มีดแทงคนร้าย ๑ ที คนร้ายตาย  ศาลฎีกาตัดสินว่า
เจ้าทรัพย์แทงคนร้ายในเวลากระชั้นชิดที่วิ่งไล่กันมา  ถือว่าไม่มีเจตนาฆ่า
เพราะเเทงเพียงทีเดียว . คงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ..
เป็นการป้องกันทรัพย์เกินสมควรแก่เหตุ .

คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๔๓ / ๒๔๙๕ ยิงผู้ร้ายขณะกำลังวิ่งหนีและพาเอาห่อของไปด้วย
โดยผู้ร้ายมิได้กระทำอะไรแก่ตน  . เป็นการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาฎีกาที่ ๗๘๒ / ๒๕๒๐  ผู้เสียหายกับพวกเข้าไปลักแตงในไร่ของจำเลย
ในเวลากลางคืน   จำเลยใช้อาวุธปืน .๒๒ ยิงผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายกับพวกวิ่งหนี
ถูกที่หลังกระสุนฝังใน  การที่จำเลยยิงผู้เสียหายโดยเหตุผู้เสียหายลักแตง ๒ - ๓ ใบ
ราคาเล็กน้อย  กระสุนถูกที่หน้าอกอวัยวะสำคัญ  ย่อมเล็งเห็นได้ว่ามีเจตนาฆ่าจึงเป็นการกระทำ
ที่เกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน  จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
เพื่อป้องกันสิทธิของตนเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๘๓ / ๒๕๑๔  การที่จำเลยวิ่งไล่ตามผู้เสียหายออกไปนอกบ้าน
โดยจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ที่ใต้ถุนเรือนของจำเลย
เป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิในทรัพย์ของตน  แต่เมื่อจำเลยวิ่งไล่ไปทันผู้เสียหาย
แล้วใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายถูกที่หลัง ๔ แผล  ที่ข้อศอก ๑ แผล โดยไม่ปรากฎว่า
ผู้เสียหายมีอาวุธหรือแสดงอาการขัดขืนต่อสู้  เช่นนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่า
กรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตาม ป. อาญา มาตรา ๖๙ ..

..

[นาจา™รักในหลวง]

ความผิดของผู้ต้องหา ครบองค์ประกอบความผิดสำเร็จแล้วครับ
ความผิดนี้เกี่ยวเนื่องกับกฏหมายอาญาหลายบท และพรบ.อาวุธปืนฯ
จะมีเหตุยกเว้นโทษ หรือบรรเทาโทษ ต้องเป็นเรื่องของอัยการ และทนายแล้วครับ 

[Ro@d - รักในหลวง]

ขอบคุณมากครับ คุณตะบันไฟ ฎีกา ที่ยกขึ้นมานั้น ต้องดูที่ข้อเท้จจจริง เป็นสำคัญ.

เจ้าของทรัพย์มีสิทธิติดตามเอาคืน และอาจเข้าเป็นความผิดเฉพาะหน้า ก็จริง.. ท่านเพียงมีอำนาจขัดขวางการหลบหนี
เพื่อจับกุมตัวเท่านั้น.. แต่ไม่ทำให้เกิดสิทธิในการไปทำร้ายร่างกายเขา .. การใช้มีดแทง การใช้ปืนยิง. โดยที่คนร้ายไม่ได้มีอาวุธ
จึงเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ .และมี ม.๖๙.  เพื่อเป็นคุณแก่จำเลย

ฉะนั้น ต้องให้เข้าใจว่า เจ้าทรัพย์ไม่มีสิทธิไปทำร้ายร่างกายคนร้าย นะครับ..  เรื่องนี้ เข้าเป็น ม.๖๙ 
เหตุเพราะ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ยังไม่ขาดไปจาก การประทุษร้ายต่อเจ้าทรัพย์

ถ้าคนร้าย มีอาวุธ จะเป็นมีด หรือปืน ระหว่างวิ่งไล่ตามกันไป และคนร้ายหันกลับมาจะเล่นงานท่าน..
ตรงนี้ จึงอาจมีข้อเท็จจริง เข้าเป็น ม.๖๘. ..  จึงให้ดูที่คนร้ายมีอาวุธ หรือไม่ และเป็นอะไร  เป็นสำคัญ ครับฉะนั้น การติดตาม จับกุมไม่มีอำนาจไปทำร้ายร่างกาย คนร้าย ครับ.

[at75]

ขอแซว ชื่อกระทู้นิดนึงครับ ผมว่า งานนี้ไม่เห้นว่า วัดกันด้วยฝีมือตรงไหน คนยิงเค้าก่อน ก้แอบยิงทีเผลิอแถมยิงไม่โดน  คนยิงเค้าตาย ก้ยิงคนถือปืนไม่มีลูกข้างหลังตอนวิ่งหนี  อืม เก่งกันจริงๆนะ

[Ro@d - รักในหลวง]

ความผิดของผู้ต้องหา ครบองค์ประกอบความผิดสำเร็จแล้วครับ
ความผิดนี้เกี่ยวเนื่องกับกฏหมายอาญาหลายบท และพรบ.อาวุธปืนฯ
จะมีเหตุยกเว้นโทษ หรือบรรเทาโทษ ต้องเป็นเรื่องของอัยการ และทนายแล้วครับ 

ท่านนาจา กล่าวไว้ ถูกต้องแล้วครับ. .
เรื่องนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอำนาจในการพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ของพนักงานอัยการ.
ถ้า สั่งฟ้อง.. ต้องเป็น งานของทนายความ แล้ว ครับ. 

[นายขม รักในหลวง]

         เห็นภาพพ่อแม่มาคร่ำครวญที่ซากศพลูกชายแล้วสมเพส ........ ปล่อยปละละเลยจนกู่ไม่กลับ สายไปเสียแล้ว

ครับพี่ปู ผู้คนสมัยนี้เอาเวลาไปตามหาเงินกันมากกว่าที่จะเอาเวลามาเสวยสุขกับครอบครัวที่มีอยู่แล้ว  คนไทยไม่ใช่คนขี้เกียจแต่ถูกหลอกให้ยึดติดอยู่กับความฟุ้งเฟ้อของสังคมสมัยใหม่ที่มีแต่เงินๆๆๆ  ทำอะไรก็ได้ขอให้รวยไว้ก่อน   

[วุธ อุดร -รักในหลวง~]

สมเพท เวทนาครับท่านผู้อ่าน สมน้ำหน้าทั้งคู่ละครับ

[Sympho]

ดีใจครับ

อย่างนี้คนแบบนี้ก็หายไปจากโลกนี้อีก1คน

[prasit homecar a1]

              จากเหตุนี้  การมีปืนอยู่ในมือควรจะอยู่ในสนามแข่งขันเท่านั้น  ถ้าอยู่สถานที่สาธารณะทั่วไปก็มักจะเกิด
เหตุแบบนี้ละครับ   

[Patiharn]

คนสมัยนี้จุดเดือดต่ำจริงๆนะท่าน

[ตะบันไฟ]

[/color]

ถ้าคนร้าย มีอาวุธ จะเป็นมีด หรือปืน ระหว่างวิ่งไล่ตามกันไป และคนร้ายหันกลับมาจะเล่นงานท่าน..
ตรงนี้ จึงอาจมีข้อเท็จจริง เข้าเป็น ม.๖๘. ..  จึงให้ดูที่คนร้ายมีอาวุธ หรือไม่ และเป็นอะไร  เป็นสำคัญ ครับฉะนั้น การติดตาม จับกุมไม่มีอำนาจไปทำร้ายร่างกาย คนร้าย ครับ.


[/quote]

ตอนนี้ที่สืบค้นคำพิพากษาฎีกาปัจจุบันที่เดินตามกันมาตลอด .. จะออกไปในทางว่า ..
ถ้าคนร้ายที่เอาทรัพย์ไป.. วิ่งหนี  .. เจ้าทรัพย์วิ่งไล่ตาม  หากคนร้ายไม่มีอาวุธใดๆ
หรือไม่แสดงกริยาจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ .. หากเจ้าทรัพย์ใช้อาวุธ มีด/ปืน เข้าทำร้าย
จะเกินกว่าเหตุตาม ป.อาญา มาตรา ๖๙ หมด ..

แต่ถ้า คนร้ายมีอาวุธติดตัวมาด้วย .. หรือแสดงกริยาหันมาจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ ..
ก็มีคำพิพากษาฎีกาว่าเป็นป้องกันพอแก่เหตุได้เช่น
คำพิพากษาฎีกาที่ 943/2508 คนร้ายจูงกระบือไปจากใต้ถุนเรื่อนจำเลย
เมื่อเวลา 24 น. จำเลยร้องถาม  คนร้ายหันปืนมาทางจำเลย  จำเลยจึงยิง
ปืนไป ๒ นัด คนร้ายตาย จำเลยเคยถูกลักกระบือมาแล้ว ๑ ครั้งและหมู่บ้านนั้น
มีการลักกระบือกันเสมอ   ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด ..

***ดังนั้น .. ถ้าจะเอาหลักที่ชัวร์ ไว้ก่อนในตอนนี้ก็ต้องไม่ยิงคนร้ายมือเปล่าขณะเขาวิ่งหลบหนี
โดยอาจจะหาวิธี/หนทาง . สกัดกั้นหรือหยุดยั้งเป็นวิธีอื่น .. 
เว้นแต่ . คนร้ายหันมามีอาวุธ.. จะเล่นงานเรา .......เท่านั้น ***

[NUTAPHOL]

ผมเคยตามคนร้ายแบบกระชั้นชิด   มาขโมยของที่บ้านบอกให้ยอมดีๆ  แต่เขาหันหลังกลับใช้มีดแทงสวนมาที่ผม   เนื่องจากผมได้ระวังตัวอยู่แล้วจึงใช้ไม้ตะพดตีสวนไปที่ข้อมือจนมีดกระเด็นหลุด   แลวตีซ้ำไปที่หน้าแข้งอีกทีจนทรุดจนควบคุมตัวได้    เนื่องจากเป็นขโมยแถวบ้าน  ผู้ใหญ่รู้จักกันจึงไม่ได้นำส่งโรงพัก  ผมเพียงคาดโทษไว้ว่าถ้าของที่บ้านหายอีกแล้วรู้ว่ามาเอาอีกคราวหน้าจะเจอหนัก   ให้โอกาศแตวเป็นคนดีตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยได้ยินว่าเขาไปขโมยของใครอีก อย่างนี้เข้าข่ายทำเกินกว่าเหตุรึปล่าวครับคุณตะบันไฟ.....

[xxx]

ขอแซว ชื่อกระทู้นิดนึงครับ ผมว่า งานนี้ไม่เห้นว่า วัดกันด้วยฝีมือตรงไหน คนยิงเค้าก่อน ก้แอบยิงทีเผลิอแถมยิงไม่โดน  คนยิงเค้าตาย ก้ยิงคนถือปืนไม่มีลูกข้างหลังตอนวิ่งหนี  อืม เก่งกันจริงๆนะ

อย่าแซวเลยครับ ถ้าผู้ตายมีฝีมือ แบบพวกท่านทั้งหลาย   ยิงไป10 กว่านัดนี่ จำเลยคงตายคาที่ตั้งแต่นัดแรกแล้วครับ  ส่วนจำเลย ยิงสวนไป 3 นัดโดนจุดสำคัญตาย อย่างนี้ไม่เรียกว่า ฝีมือดีกว่าเหรอครับ ถ้าจำเลยฝีมือแย่กว่าหรือเท่ากับผู้ตาย คงไม่มีใครตายหรอกครับ   ขนาดทีเผลอยิงไปตั้ง10 กว่านัด ไม่โดนจุดสำคัญ เลย จะเรียกว่าอะไรหล่ะครับ จะให้เรียกว่า ผู้ตายฝีมือไม่ดีหรือ เป็นเพราะจำเลย ห้อยจตุคามดีครับ ส่วนผู้ตายคงไม่ได้ห้อยจตุคามมั๊งครับ คงไม่เกี่ยวกับฝีมือหรอกมั๊งครับ  อิอิ