
ประเด็นเหล่านี้น่าสนใจดีนะครับ

จะทำอย่างไรให้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องโควต้า 30/50 ดีหนอ ให้กลายเป็น 50/30 เช่นเดิม

หมายเหตุ 30/50 คือ โควต้า ปืนสั้น:ปืนยาว ต่อปี ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนมาจาก ปืนยาว: ปืนสั้น สมัยท่านอิสรพงศ์ เป็น รมว. มหาดไทย ยุค รสช. ครองเมือง
จะทำอย่างไรให้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องโควต้า 30/50 ดีหนอ ให้กลายเป็น 50/30 เช่นเดิม

หมายเหตุ 30/50 คือ โควต้า ปืนสั้น:ปืนยาว ต่อปี ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนมาจาก ปืนยาว: ปืนสั้น สมัยท่านอิสรพงศ์ เป็น รมว. มหาดไทย ยุค รสช. ครองเมือง
เอาเป็นแบบก่อนหน้านั้นเลยดีกว่าครับ คือกำหนดแค่จำนวนปืนที่ร้านมีอยู่ในตู้ได้ ซึ่งถ้าขายหมดก็สั่งเข้ามาปีละกี่ครั้งต่อใบอนุญาตก็ได้
ปัจจัยความต้องการอาวุธของประชาชน...
มาก-น้อย..........ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความมั่นคงของประเทศ ณ พื้นที่นั้นๆ...........ประชาชนในพื้นที่ ไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง...........จึงต้องเสาะหาอาวุธปืนมาใช้ป้องกันตนเองและครอบครัว..............บางคนไม่เคยคิดที่จะมีอาวุธปืน ก็ต้องมีกันคราวนี้...........ถึงขนาดกู้เงินมาซื้อ เป็นหนี้ก็ยอม เพื่อให้ได้มาซึ่งอาวุธปืนสำหรับป้องกันตัว...............แพงแค่ไหนก็ยอม...........
เมื่อมีความต้องการสูง และ ของมีน้อย................ก็ต้องสู้กันที่ราคา
ทำให้เกิดปัจจัยการฉวยโอกาส ขายของแพงเกิดขึ้น..........
เรื่องนี้ในความเห็นของผม................ผมโทษพ่อค้าหน้าเลือด ที่อาศัยจังหวะกลไกตลาด(ที่ทำกันเกินไป ไม่พอเหมาะพอควร) กับ รัฐบาล ที่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
ยกเลิกการตีทะเบียนปืนลมก็พอแล้ว จะได้มีกำไรปืนลมมาช่วยร้านค้า และมีปืนลมขายได้ ยิงเล่นได้ถูกตังค์กว่า
ยอมให้มีการสั่งซื้อโดย โควต้าบุคคล ...
โควต้า 80 กระบอกต่อปี แต่ให้ร้านไปบริหารเองว่า สั้น-ยาวอย่างละเท่าไร...โดยดูจากความต้องการตลาด...น่าจะง่ายที่สุดครับ...

ประเด็นเหล่านี้ขอให้ช่วยขยายความให้ด้วยได้หรือเปล่าครับ...
