******ปัญหานี้ฟังแล้วแทบหมดหวังนะครับเพราะเป็น "ดุลพินิจ" เสียด้วย ถ้าเกิดท่านไม่ปลื้มใครก็อดกัน แต่ก็ใชว่าจาสิ้นหวังซะทีเดียวปัจจุบันได้มีกฎหมายควบคุมการใช้ "ดุลพินิจ" ที่ว่านี้ครับ คือ "กฎหมายปกครอง" ท่านวางหลักไว้ดังนี้ครับ1.ถ้ายื่นเรื่องที่ต้องใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงาน แล้วถูกปฏิเสธ ไม่อนุญาติ ไม่อนุมัติ ฯลฯ
2.ให้เจ้าพนักงานนั้นทำคำสั่งไม่อนุญาติเป็นหนังสือมา แล้วยื่นอุทธรณ์ต่อเจ้าพนักงานที่ไม่อนุญาตินั้น
3.ถ้ายังยืนตามคำสั่งเดิม ก็ให้เจ้าพนักงานยืนยันคำสั่งไม่อนุญาติเป็นหนังสืออีกทีครับ
4.จากนั้นก็นำหนังสือดังว่านั้น ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง หรือ ศาลปกครองภาค(กรณีอยู่ ตจว.) ไม่มีค่าธรรมเนียมศาลครับ เพื่อที่ศาลท่านจะได้พิจารณาว่าการใช้ "ดุลพินิจ" ของเจ้าพนักงานนั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นกฎหมายกลั่นกรองการใช้ "ดุลพินิจ" ของเจ้าพนักงานของรัฐ อะครับ

ด้วยความเคารพ..ขอแย้ง.....ตรงสีแดงนะครับ...ว่าดุลพินิจต้องใช้ให้ถูกต้องด้วย.....
....ถ้าโดนฟ้องคนที่หมดหวังน่าจะเป็นนายทะเบียนฯครับ

ดูตรงนี้ของวิ.ปกครอง......
มาตรา ๓๗ คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือและการยืนยันคำสั่งทางปกครอง
เป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย และเหตุผลนั้นอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
(๑) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ
(๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
(๓) ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ.......
แล้วดูข้อ๒ ว่าที่นายทะเบียนฯอ้างมาในคำสั่งไม่อนุญาต...ว่ามันใช่กฏหมายหรือไม่ ...... คำตอบคือไม่.....ท่านผู้การสุพินท์ท่านแจงไว้ชัดแล้วว่า......
หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๕๐๑/ว๘๘๖ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๐๑ เป็นเอกสารที่ออกโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจาก
๑ ปลัดกระทรวงมหาดไทยผู้ลงนาม มิได้เป็นผู้มีหน้าที่ในการออกกฎตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง (๒) กำหนดให้รัฐมนตรีเป็นผู้ออกกฎกระทรวงเพื่อวางระเบียบการทะเบียน การขอและการออกใบอนุญาต ไม่ใช่ออกเป็นหนังสือราชการ
งานนี้ผมว่านายทะเบียนฯหมดหวังสู้ในศาล......ขึ้นกับว่าผู้ขอฯกล้าฟ้องไหม
