เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2025, 07:50:37 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 416 417 418 [419] 420 421 422 ... 1105
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: *** หุ้ น 2 5 5 7 ***  (อ่าน 1051785 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #6270 เมื่อ: มกราคม 07, 2011, 09:12:20 PM »

ถึงเวลาที่อาจจะต้องเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจว่าไม่ใช่อีกแล้ว ปี 2554 เป็นปีที่กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว” นายโฆสิต กล่าวในที่สุด[/b]

ยอดครับ ท่านสรุปได้มีเหตุผลน่าเชื่อถือเสมอ Grin Grin Grin นายแบ็งค์หลายท่านที่เก่งนี่เก่งจริงๆ มีความรู้และข้อมูลในมือเพียบ

ปล.จากลูกน้องเก่า


วันนี้ส่งเมลไปยกเลิกบช.เครดิตแล้วครับพี่คาฯ ไม่เอาแล้ววว เข็ดจนตาย วงเงินหลายล้าน จะพาล่มจมเอา  ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6271 เมื่อ: มกราคม 07, 2011, 09:28:40 PM »

ถึงเวลาที่อาจจะต้องเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจว่าไม่ใช่อีกแล้ว ปี 2554 เป็นปีที่กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว” นายโฆสิต กล่าวในที่สุด[/b]

ยอดครับ ท่านสรุปได้มีเหตุผลน่าเชื่อถือเสมอ Grin Grin Grin นายแบ็งค์หลายท่านที่เก่งนี่เก่งจริงๆ มีความรู้และข้อมูลในมือเพียบ

ปล.จากลูกน้องเก่า


วันนี้ส่งเมลไปยกเลิกบช.เครดิตแล้วครับพี่คาฯ ไม่เอาแล้ววว เข็ดจนตาย วงเงินหลายล้าน จะพาล่มจมเอา  ตกใจหน้าซีด

ดีแล้วครับพี่เบิ้ม อย่างวันนี้ถ้าพี่เบิ้มเล่น บชเครดิต ก็คงโดนหลายอยู่ครับ เล่นหุ้นแบบพอเพียงครับ....Grin
บันทึกการเข้า
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6272 เมื่อ: มกราคม 07, 2011, 09:31:04 PM »

อาการเหมือนแย่งกันขายหนีตายเลยครับ.....น่ากลัวมากครับ Grin

ลงแรงขึ้นแรงนะครับ Grin Grin Grin เสียวจริงๆ โอววววว

พี่สมชายผมไปไหนเนี่ยยยยย

true ต้องไปทดสอบ 6 บาท แต่ หลุด 6.5 นี่ก็หมายถึงหมดรอบแล้วครับ  น่ากลัวมากตัวนี้

อ้าวจะลงไปทดสอบ 6 บาทแล้วทำไมรึบรับกลับละครับพี่ Carrera ขอร้องจ๊ากครับ คือกลัววันจันทร์ลงต่อนะครับ เป้นห่วง Grin
บันทึกการเข้า
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6273 เมื่อ: มกราคม 07, 2011, 09:32:41 PM »

เอาบทความมาฝากครับ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อทุกคนครับ Smiley

ปรัชญาเซียนหุ้นพันล้าน

25/09/2009
View: 1,106 
Edit TitleEdit Detail
The Winning Tactics
สิปปกร  ขาวสะอาด

ปรัชญาเซียนหุ้นพันล้าน

 โปรย : จงอย่ารักหุ้น อย่าทะนุถนอมหุ้น หรือกอดหุ้นไว้โดยที่ไร้ผลตอบแทน และสร้างความเจ็บปวด ควรคิดเสมอว่า หากเมื่อใดหุ้นที่ซื้อไว้หรือมีไว้ เมื่อหุ้นตัวนั้นไม่ได้สร้างให้สินทรัพย์เพิ่มพูน มีแต่วันจะถดถอย เราควรตัดสินใจสละขายทิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะต้องล่มจม

เดือนนี้ผมขอฝากแนวคิดทฤษฎีการลงทุนในตลาดหุ้น ที่ถือได้ว่าเป็นแนวคิดของนักเล่นหุ้นระดับเซียนพันล้านมาฝากกันครับ อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เราได้รู้ได้ทราบว่า ปรัชญาการเล่นหุ้นที่สร้างเงินนั้นเขาทำกันอย่างไรครับ

1. จงให้ความสำคัญอย่างมากๆ สำหรับการซื้อหรือขายหุ้นแต่ละครั้ง   ดังที่รู้ๆ กันอยู่ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ดังนั้น การพิถีพิถันต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นฝั่งซื้อหรือฝั่งขายทุกครั้งก่อนตัดสินใจที่จะเข้าออก ควรต้องศึกษาในตัวหุ้นให้เข้าถึงอย่างลึกซึ้งถึงความเป็นมาเป็นไป นั่นเท่ากับว่าเราให้ความสำคัญกับเม็ดเงินที่ลงทุนหรือลงทุนไปแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่ดี

2. จงคิดเสมอว่าถ้าจะซื้อหุ้นหากจะเลือกหุ้นเล็ก หรือหุ้นตัวใหญ่นั้นย่อมมีความสำคัญเท่าเทียมกัน เพียงแต่ว่า หุ้นตัวเล็กหรือหุ้นตัวใหญ่ที่จะให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน นั่นเท่ากับว่าความสามารถในการทำกำไรต่อหุ้นตัวเล็กหรือตัวใหญ่ต่างหากที่มีความสำคัญที่สุด

3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน จงชินชากับวาจาที่ว่าหุ้นตัวนั้นดีตัวนี้เลว หากตราบใดที่เราไม่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ว่า สิ่งนั้นคือความจริง หรือเป็นเรื่องเท็จ การลงทุนที่รู้ชัด รู้จริง รู้ลึก และรู้ก่อนใครย่อมได้เปรียบผู้อื่น เพียงแต่ว่าข้อมูลทุกเนื้อหา เนื้อแท้ที่เป็นจริงนั้นเราต้องสามารถรับรู้อย่างชัดเจน

4. เมื่อกล่าวคำว่า "เล่นหุ้นต้องมีกำไร” จงหมายความตามนั้นจริงๆ นั่นหมายถึงก่อนเล่นหุ้น ก่อนซื้อหุ้นทุกครั้งทุกรอบต้องไตร่ตรอง พิจารณาทุกแง่ทุกมุม ไม่ผลีผลาม หรือด่วนตัดสินใจโดยอารมณ์เป็นมูลเหตุ ความรอบคอบ รอบรู้ จะสามารถทำให้เรามีความมั่นใจ พร้อมจะเปล่งวาจาว่า “เล่นหุ้นต้องมีกำไร”

5. เมื่อประสบกับสภาพของการขาดทุน ทุกครั้งทุกรอบ ต้องรู้จัก ตั้งสติ มีสมาธิ ไม่แกว่งจนตนเองไร้ความเชื่อมั่น และมีภาวะที่จิตบกพร่อง เพราะนั่นเท่ากับว่า ความสามารถลงทุนในอนาคตจะสูญสิ้น ขาดหลักคิด หลักการ หลักของการลงทุน จงสร้างความพร้อมให้รับได้ทุกสถานการณ์ทั้งยามหุ้นขึ้นหรือหุ้นลง เพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าต่อไป

6. ก่อนจะตัดสินใจถือครองหุ้น จงมั่นศึกษาในหุ้นตัวนั้นๆ ให้มากเพียงพอเสียก่อน โดยเฉพาะควรพิจารณาหลักใหญ่ๆ เช่น ดูผลการดำเนินงานทั้งอดีต ปัจจุบัน และคาดการณ์อนาคต   มีค่าพีอีเรโชระดับใด มองผลตอบแทนในแง่ปันผลที่ผ่านมาสามารถให้มากน้อยเพียงใด ดูหนี้สินต่อทุน ดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น ตรวจเช็คการดำเนินธุรกิจมีอุปสรรคมีจุดดีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร

7. จงเชื่อมั่นในตัวตนของตัวเอง เล่นหุ้นแม้ต้องอิงปัจจัยหลายต่อหลายเรื่อง ต้องฟัง ต้องอ่าน ต้องเสพข้อมูล ต้องแสวงหาข่าวสาร แต่สุดท้ายตัวของตัวเองนั่นแหละ จะเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจ ผิดหรือถูก นั่นเป็นเรื่องที่ตัวเองจะรับรู้ และยอมรับ

8. อย่าหัวเราะเยาะความฝัน และความคิดของผู้อื่นเป็นเด็ดขาด เพราะการเล่นหุ้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นล้วนแล้วเป็นเรื่องในอนาคต ทุกคนมีสิทธิคิดมีคิดฝัน ถึงความเป็นไปในอนาคต ดังนั้น ตัวเราเองก็ดี หรือผู้อื่นเองก็ตาม ทุกคนล้วนมีความฝัน แม้ความฝันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ มันก็เป็นจิตนาการของเขาผู้นั้น เพียงแต่เราเองนั่นแหละต้องสร้างความฝันบนความเป็นจริงที่ควรสัมผัสได้

9. จงอย่ารักหุ้น อย่าทะนุถนอมหุ้น หรือกอดหุ้นไว้โดยที่ไร้ผลตอบแทน และสร้างความเจ็บปวด ควรคิดเสมอว่าหากเมื่อใดหุ้นที่ซื้อไว้หรือมีไว้ เมื่อหุ้นตัวนั้นไม่ได้สร้างให้สินทรัพย์เพิ่มพูน มีแต่วันจะถดถอย เราควรตัดสินใจสละขายทิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะต้องล่มจมหรือมูลค่าราคาหุ้นต้องหดหายไป มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

10. ในเหตุการณ์ที่สับสน สรุปหนทางแนวโน้มทิศทางของหุ้นไม่รู้จะเป็นเช่นใด ควรวางตัวสงบนิ่ง เฝ้ารอคอยให้กระแสน้ำที่เชี่ยวกราดเริ่มอ่อนแรงลงพอมองเห็นทิศทางแนวโน้มของหุ้นได้ ตอนนั้นค่อยว่ากันใหม่ เพราะการเล่นหุ้นในยามที่หุ้นผันผวนไร้ทิศทางนั้นเท่ากับว่าเรากำลังสร้างความเสี่ยงให้กับตัวเองอย่างมากทีเดียว

11. อย่าตัดสินใจเล่นหุ้นปั่น เพราะเพียงแค่ความอยากเอามันเท่านั้น เพราะหุ้นปั่นที่มีการสร้างเกมขึ้นมานั้น ได้มีการหยิบยกทั้งเหตุทั้งผลมาอ้างอิงประกอบโฆษณาชวนเชื่อ และมีการกระชากลากหุ้น เพื่อให้นักเลงหุ้นเกิดการคล้อยตามในความสนุกความตื่นเต้น หากเราตัดสินใจเล่นหุ้นปั่นโดยขาดหลักคิดหวังเพียงความสนุก สุดท้าย ความเสียหาย การขาดทุนจะมาเยือน

12. จะซื้อหุ้นให้เร็วหรือให้ช้าไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่ตต้องคิดให้อย่างรอบคอบ การขับเคลื่อนของราคาหุ้นในตลาดทุนนั้น เราจะพบอยู่บ่อยครั้ง เดี๋ยวขึ้นเร็วลงเร็ว บางครั้งก็มักคืบคลานอย่างช้าๆ ดังนั้น การตัดสินใจซื้อขายหุ้นคล้อยตามบนภาวะของตลาด ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกนัก  สาระสำคัญอยู่ที่ว่า ทุกครั้งทุกรอบควรตัดสินใจคิดให้รอบคอบก่อนเข้าซื้อเข้าขาย น่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

13. จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สำหรับการเล่นหุ้นคือ “ซื้อแล้วหุ้นต้องขึ้น”  “ขายแล้วหุ้นต้องลง” ตราบใดที่เราซื้อหุ้นแล้วหุ้นลงนั้นย่อมทำให้เรามีความรู้สึกที่ผิดเพี้ยนในการเล่นหุ้นทันที ในขณะเดียวกัน หากขายหุ้นแล้วหุ้นขึ้นอาการเสียดายก็มักเกิดขึ้นเช่นกัน หากตรงกันข้าม เมื่อซื้อหุ้นหรือขายหุ้นถูกทาง การเล่นรอบของหุ้นมันจะถูกจังหวะ เล่นจะทำให้เล่นหุ้นได้อย่างสนุก

14. จงคิดเสมอว่า หุ้นที่มีพื้นฐานดี ต้องมีฐานะการเงินดี ผลการดำเนินงานดี ปันผลดี มีการบริหารการจัดการที่ดี เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องดี ส่วนหุ้นปั่น คือ หุ้นที่ไร้พื้นฐาน ปัจจัยด้านการเงินแย่ บริษัทขาดทุน ทำธุรกิจล้มเหลว หนี้สินท่วมตัว ดังนั้น เมื่อเราจะเล่นหุ้นที่มีพื้นฐาน หรือหุ้นปั่น เราเองก็ควรรู้จุดยืนของเราว่าสุดท้ายควรทำตัวอย่างไร

15. เมื่อพ่ายแพ้ เจ็บปวด และขาดทุนหุ้น จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต บางครั้งเป็นเรื่องที่เศร้า ทุกข์ แต่เราเองก็สามารถนำสิ่งเรานั้นมาเป็นกรณีศึกษา เป็นมูลฐานแห่งการเรียนรู้ ปรับปรุงตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็ง พร้อมสู้กันต่อในอนาคตให้ได้มาในสิ่งที่ตนเองแสวงหาบนความไม่ประมาท

16. จงพยายามเข้าถึงและจดจำ ความเป็นมาเป็นไปของหุ้นที่สนใจให้ลึกซึ้ง เรื่องราวของหุ้นในแต่ละตัวมีความเป็นมาเป็นไปด้วยกันทั้งสิ้น และหุ้นหลายๆ ตัวมักมีวงจรการดำเนินธุรกิจของตนเสมอ และหุ้นบางตัวก็มักมีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นซ้ำ ไปซ้ำมา ดังนั้น หากเราสามารถเข้าถึง จดจำพฤติกรรมของหุ้นได้ นั่นเท่ากับเราจะได้เปรียบต่อการลงทุน อย่างน้อยก็สามารถจับรอบจับจังหวะได้ถูกต้อง

17. จงอย่าให้ขาดทุนขยายวงกว้างจนรับไม่ไหว เรื่องที่สำคัญน่าเป็นห่วงที่สุดของการเล่นหุ้นคือ การที่นักเล่นหุ้นไม่สามารถกำหนดหรือสกัดกั้นการขาดทุนในกรอบที่จำกัดได้ ไม่รู้จักการตัดขายแต่ต้นลม คิดเพียงหากมีหุ้นถือหุ้นไม่ขายไม่ขาดทุน สุดท้ายภาวะการขาดทุนจะขยายเป็นวงกว้างจนรับกันไม่ไหว

18. ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิดพลาด อย่าปล่อยให้กาลเวลาผ่านไป ต้องลงมือแก้ไขปรับพอร์ตให้ทันท่วงที ใครที่เล่นหุ้นหากซื้อขายหุ้นผิดจังหวะผิดตัว ย่อมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ว่าเมื่อผิดพลาดไปแล้ว การแก้ไข การปรับเปลี่ยนต้องกระทำให้ทันเวลา มิเช่นนั้นแล้วอาจสายเกินกว่าจะแก้ได้

 
 
บันทึกการเข้า
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6274 เมื่อ: มกราคม 07, 2011, 09:38:22 PM »

พี่ๆรู้ไหมครับ ลางสังหรณ์ของผมรู้สึกกลัวว่าวันจันทร์หุ้นจะลงต่อนะครับ ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่อยากให้พี่ๆและทุกๆคนที่อ่านกระทู้ ซื้อขายด้วยความระมัดระวังและมีสตินะครับ ตอนนี้รอพี่สมชายเหมือนรอให้ยอดมนุษย์มาช่วยโลกเลยครับ ขาดพี่สมชายเหมือนขาดเข็มทิศเลยครับ แต่จะว่าไปพี่สมชายหายไปนานเกินปกตินะครับ ไม่เคยเห็นหายไปนานขนาดนี้ เริ่มเป็นห่วงเหมือนกันครับ.......
บันทึกการเข้า
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #6275 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 11:01:30 AM »

เซียนหุ้นที่ผมรู้จักมีสองคน พอร์ตใหญ่ร่วมร้อยล้านครับ  ผมมีข้อสังเกตุลักษณะร่วมของคนทั้งสองมีหลายอย่างที่เหมือนกันครับ---ทั้งสองไม่มีบ้านเป็นของตัวเองใช้รถมือสอง  คนหนึ่งอาศัยบ้านพ่อตาบ้านเก่าๆและอยู่มาตลอด20-+ปี อีกคนหนึ่งงเป็นลูกป้าผมเอง คนนี้ไม่ซื้อรถใหม่ ร้านที่ค้าขายก็เช่าเขาอยู่---สองคนนี้เวลาเล่นหุ้นห้ามใครรบกวนเด็ดขาดครับ ถ้าทำเสียสมาธิมีโดนด่า คิก คิก
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6276 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 11:15:45 AM »

เซียนหุ้นที่ผมรู้จักมีสองคน พอร์ตใหญ่ร่วมร้อยล้านครับ  ผมมีข้อสังเกตุลักษณะร่วมของคนทั้งสองมีหลายอย่างที่เหมือนกันครับ---ทั้งสองไม่มีบ้านเป็นของตัวเองใช้รถมือสอง  คนหนึ่งอาศัยบ้านพ่อตาบ้านเก่าๆและอยู่มาตลอด20-+ปี อีกคนหนึ่งงเป็นลูกป้าผมเอง คนนี้ไม่ซื้อรถใหม่ ร้านที่ค้าขายก็เช่าเขาอยู่---สองคนนี้เวลาเล่นหุ้นห้ามใครรบกวนเด็ดขาดครับ ถ้าทำเสียสมาธิมีโดนด่า คิก คิก

พี่อภิสิทธิ์ครับ แล้วทั้งสองคนเล่นหุ้นแบบถือยาวหรือว่าเล่นสั้นตามรอบนะครับ.....Grin
บันทึกการเข้า
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6277 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 11:20:37 AM »

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) จากแรงกดดันของสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร ประกอบกับนักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธันวาคม 2553 ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 35 เซนต์ ปิดที่ 88.03 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.25 - 89.48 ดอลลาร์

นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมัน ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรซึ่งยังเผชิญกับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงขึ้น ซึ่งเป็นการลดความน่าดึงดูดให้เข้าลงทุน นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนธันวาคม 2553 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่ง แต่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9.4% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปี 2553 ที่อัตราว่างงานรายเดือนร่วงลงมาอยู่ต่ำกว่า 9.5%

สำหรับอัตราว่างงานสหรัฐนั้น นักวิเคราะห์เชื่อว่า สหรัฐยังต้องอาศัยเวลาอีกนานกว่าที่อัตราว่างงานจะกลับไปเคลื่อนไหวในระดับเดียวกับเมื่อครั้งก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานของสหรัฐจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 8.9 - 9.1% ในปี 2554 ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในช่วงเดือนมกราคมเทรดเดอร์มีความระมัดระวังในการส่งสัญญาซื้อขายน้ำมัน และคาดว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบ 70 - 80 ดอลลาร์/บาร์เรลต่อไปอีกเป็นเวลานาน

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดลบ 22.55 จุด เหตุตัวเลขจ้างงานสหรัฐเพิ่มน้อยเกินคาด---

[มกราคม 08, 2011, 07:49:08 AM] HoonYai (ทอม): ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) ขานรับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธันวาคม 2553 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินยูโรยังเผชิญแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.71% แตะที่ 1.2909 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3001 ดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนตัวลง 1.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 107.18 เยน จากระดับ 108.35 เยน

เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรเพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังจากมีรายงานตัวเลขจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลง
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #6278 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 11:25:14 AM »

เงินกับความสุข..

 

คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ถ้าเรามีเงินเราจะมีความสุขมากขึ้น คนเชื่อว่าคนรวยย่อมมีความสุขมากกว่าคนจน ยิ่งรวยมากเท่าไร ความสุขก็มากขึ้นเท่านั้น เพราะคนเชื่อว่า เงินสามารถซื้อความสุขได้แม้ว่าจะไม่ใช่ความสุขทุกอย่างแต่ก็ซื้อได้มาก เงินสามารถใช้ซื้ออาหารอร่อยๆ รับประทานได้ เงินสามารถพาเราไปท่องเที่ยวได้มากขึ้นและไกลขึ้น เงินทำให้เราซื้อบ้าน และซื้อรถยนต์ที่ทำให้เรามีหน้ามีตาในหมู่เพื่อนฝูงและคนรู้จัก เงินทำให้เราส่งลูกไปเรียนโรงเรียนดีๆ หรือไปเรียนต่างประเทศได้ เพราะฉะนั้น อย่ามาพูดเลยว่า เงินกับความสุขไม่เกี่ยวกัน

นั่นคือสิ่งที่คนที่ยังไม่ค่อยมีเงิน หรือคิดว่าตนยังมีเงินไม่พอมักจะคิด คนเหล่านั้นมักจะ "ฝัน" ว่า ถ้าเขามีเงินมากขึ้น เขาคงจะมีความสุขมาก เพราะสิ่งที่เขาคิดอยากจะได้แต่ยังทำไม่ได้ เพราะมีเงินไม่พอ เขาก็จะสามารถซื้อหามาได้ และนั่นคือความสุขที่เขากำลังพยายามไขว่คว้า แต่เชื่อไหมครับว่าวันที่เขามีเงินพอและได้ใช้หรือบริโภคสิ่งที่เขา "ฝัน" ไว้แล้ว สิ่งนั้นก็จะไม่ใช่ "ความสุข" อีกต่อไป เขาจะเริ่ม "ฝัน" ถึง "ความสุข" ใหม่ ที่จะต้องใช้เงินมากขึ้นไปอีก เงินคือความสุขหรือเงินเป็นสิ่งที่หลอกลวงกันแน่?

ความสุขของคนนั้น เพื่อที่จะอธิบายให้เป็นระบบ ผมคิดว่าน่าจะต้องอิงกับความต้องการของมนุษย์ ซึ่งแมสโลว์ (ABRAHAM MASLOW) นักจิตวิทยาชื่อดังบอกว่ามี 5 ระดับ นั่นคือ ความต้องการเบื้องต้น ได้แก่ อาหารและน้ำ ความต้องการระดับสองคือ ต้องการความปลอดภัยและความมั่นคงในชีวิต เมื่อได้รับการตอบสนองแล้ว ความต้องการจะยกระดับขึ้นไปเป็นระดับ 3 ซึ่งก็คือ การได้รับการยอมรับในหมู่ญาติมิตรและเพื่อนฝูงให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ขั้นต่อไปก็คือ การมีสถานะที่โดดเด่นในสังคม และสุดท้ายก็คือ ความต้องการที่จะบรรลุถึงตัวตนที่แท้จริง ซึ่งในทางพระอาจจะเรียกว่านิพพานไปเลย

มาดูความสุขทางด้านอาหารว่าเงินซื้อ ได้หรือไม่? ผมคิดว่าเงินซื้อความสุขด้านอาหารได้น้อย ความสุขของการกินนั้น ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่อยู่ที่ความหิวและรสชาติของอาหาร ซึ่งไม่ค่อยได้เกี่ยวข้องกับราคามากนัก คนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าหูฉลามนั้นอร่อยมาก แต่นั่นเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้กินมัน แต่ถ้าเขาได้กินมันบ่อยมาก เขาอาจจะบอกว่าพะแนงเนื้ออร่อยกว่า ดังนั้น สำหรับความสุขในด้านของการกินแล้ว ผมคิดว่า ถ้าเราไม่จนเกินไป เราจะมีความสุขไม่ต่างกับเศรษฐีมากนัก

ความสุขที่จะได้จากความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย นี่เป็นความสุขที่เกิดขึ้นในใจเมื่อเรามีบ้านอยู่อาศัยที่ปลอดภัย มีการงานที่มั่นคง เรารู้ว่าเมื่อเราป่วยไข้จะได้รับการรักษาที่ดี มีความอุ่นใจว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรที่ไม่คาดคิดทางการเงินเรามีทางแก้ไขได้ และที่สำคัญ รู้ว่าเมื่อแก่ตัวลง เราจะมีเงินเลี้ยงดูตัวเองได้ การมีเงินสะสมน้อยหรือไม่มีสวัสดิการการรักษาพยาบาลเพียงพอ ก็ย่อมที่จะทำให้เรามีความกังวลและเป็นทุกข์ได้

ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยนั้น เป็นความสุขในระดับหนึ่งเท่านั้น นั่นหมายความว่า ถ้าคนเรามีความมั่นคงเพิ่มขึ้นไปอีก ส่วนที่เพิ่มนั้นจะก่อให้เกิดความสุขเพิ่มน้อยมาก ข้อสรุปก็คือ เราต้องมีเงินในระดับหนึ่ง เพื่อความมั่นคงในชีวิตถ้าจะให้ไม่เกิดทุกข์จากความกังวล

การได้รับการยอมรับในหมู่ญาติมิตรและ เพื่อนฝูงนั้น ผมคิดว่าเงินไม่น่าจะมีส่วนมากนัก การมีน้ำจิตน้ำใจเอื้ออารีน่าจะมีความสำคัญกว่าและสิ่งนี้ไม่สามารถซื้อได้ ด้วยเงิน ดังนั้น ความสุขจากการที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเงินเลย

การมีสถานะที่โดดเด่นในสังคมเป็นความ ต้องการในระดับที่สูงขึ้นมา และน่าจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เงินอาจจะซื้อได้ และนี่ก็คงเป็นเหตุผลสำคัญที่คนมีเงินใช้เงินซื้อบ้าน รถยนต์ที่หรูหรา และเครื่องแต่งกายราคาแพง เพื่อที่จะแสดงความโดดเด่นให้คนทั่วไปเห็นและยอมรับ อย่างไรก็ตาม ความสุขในด้านนี้มักจะมีด้านมืด นั่นก็คือ ผู้ที่ใช้ของหรูมักจะพบคนที่ใช้ของที่หรูกว่า และความรู้สึกที่ด้อยกว่าโดยการเปรียบเทียบนั้น บ่อยครั้ง มันกลบความสุขที่ควรจะได้รับ และทำให้การใช้เงินซื้อสถานะของตนเองเพื่อให้เกิดความสุขนั้นไร้ผล เพราะแทนที่จะเป็นสุขก็อาจจะกลายเป็นความทุกข์ได้

ผมคงไม่พูดถึงความต้องการที่จะบรรลุ ถึงตัวตนที่แท้จริง ซึ่งคงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเงิน แต่น่าจะเป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ แต่อยากจะบอกว่าความสุขของคนนั้น ส่วนใหญ่อยู่ที่เรื่องของสุขภาพกายและสุขภาพใจซึ่งเงินซื้อได้น้อยมาก สุขภาพกายนั้น ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากเท่าไร โอกาสที่คุณจะป่วยมีเท่ากับคนที่มีเงินน้อยหรือปานกลาง เช่นเดียวกัน สุขภาพใจนั้น อยู่ที่การทำใจ จากการสำรวจครั้งแล้วครั้งเล่าเราพบว่า คนที่ใช้ชีวิตที่ "พอเพียง" มีความสุขกว่าคนที่ชอบบริโภค ซึ่งไม่ได้เกี่ยวเลยว่าเขามีเงินมากหรือน้อย ว่าที่จริงถ้าจะมีอะไรเกี่ยวก็น่าจะเป็นว่า การมีเงินมากอาจจะเป็นความเสี่ยงว่าคุณจะมีความสุขน้อยลงถ้าคุณชอบบริโภค

ข้อสรุปสุดท้ายของผมก็คือ คนที่มีเงินน้อยเกินไปจะหาความสุขได้ยาก เพราะความสุขหลายอย่างต้องใช้เงินซื้อหามา ในอีกด้านหนึ่ง คนที่มีเงินมากเกินไปไม่ได้หมายความว่า เขาจะต้องมีความสุขมากกว่าคนที่มีเงินปานกลาง เพราะเงินนั้นซื้อความสุขได้ถึงระดับหนึ่งเท่านั้น คนที่มีเงินพอประมาณ สามารถที่จะเป็นแชมเปียนของคนที่มีความสุขได้ เพราะความสุขนั้น ส่วนใหญ่มาจากสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนที่มีเงินพอประมาณ และใช้ชีวิตที่พอประมาณ คุณก็น่าจะมีชีวิตที่มีความสุขไม่แพ้คนรวยโดยทั่วไปแล้ว

 

ที่มา : โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  กรุงเทพธุรกิจ  27 มีนาคม 2550
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6279 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 11:52:59 AM »

                 Buy         Sell             Total               Net
SCB    2,758,800   4,470,300   7,229,100   -1,711,500

เมื่อวานต่างชาติทิ้ง SCB ออกมาด้วยครับ เห้นพยายามไล่ขึ้นอยู่หลายวัน แต่ไม่ไหวครับ Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2011, 11:56:29 AM โดย HOW » บันทึกการเข้า
HOW
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

กระทู้: 1467


« ตอบ #6280 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 11:55:18 AM »

เงินกับความสุข..

 

คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ถ้าเรามีเงินเราจะมีความสุขมากขึ้น คนเชื่อว่าคนรวยย่อมมีความสุขมากกว่าคนจน ยิ่งรวยมากเท่าไร ความสุขก็มากขึ้นเท่านั้น เพราะคนเชื่อว่า เงินสามารถซื้อความสุขได้แม้ว่าจะไม่ใช่ความสุขทุกอย่างแต่ก็ซื้อได้มาก เงินสามารถใช้ซื้ออาหารอร่อยๆ รับประทานได้ เงินสามารถพาเราไปท่องเที่ยวได้มากขึ้นและไกลขึ้น เงินทำให้เราซื้อบ้าน และซื้อรถยนต์ที่ทำให้เรามีหน้ามีตาในหมู่เพื่อนฝูงและคนรู้จัก เงินทำให้เราส่งลูกไปเรียนโรงเรียนดีๆ หรือไปเรียนต่างประเทศได้ เพราะฉะนั้น อย่ามาพูดเลยว่า เงินกับความสุขไม่เกี่ยวกัน

นั่นคือสิ่งที่คนที่ยังไม่ค่อยมีเงิน หรือคิดว่าตนยังมีเงินไม่พอมักจะคิด คนเหล่านั้นมักจะ "ฝัน" ว่า ถ้าเขามีเงินมากขึ้น เขาคงจะมีความสุขมาก เพราะสิ่งที่เขาคิดอยากจะได้แต่ยังทำไม่ได้ เพราะมีเงินไม่พอ เขาก็จะสามารถซื้อหามาได้ และนั่นคือความสุขที่เขากำลังพยายามไขว่คว้า แต่เชื่อไหมครับว่าวันที่เขามีเงินพอและได้ใช้หรือบริโภคสิ่งที่เขา "ฝัน" ไว้แล้ว สิ่งนั้นก็จะไม่ใช่ "ความสุข" อีกต่อไป เขาจะเริ่ม "ฝัน" ถึง "ความสุข" ใหม่ ที่จะต้องใช้เงินมากขึ้นไปอีก เงินคือความสุขหรือเงินเป็นสิ่งที่หลอกลวงกันแน่?

ความสุขของคนนั้น เพื่อที่จะอธิบายให้เป็นระบบ ผมคิดว่าน่าจะต้องอิงกับความต้องการของมนุษย์ ซึ่งแมสโลว์ (ABRAHAM MASLOW) นักจิตวิทยาชื่อดังบอกว่ามี 5 ระดับ นั่นคือ ความต้องการเบื้องต้น ได้แก่ อาหารและน้ำ ความต้องการระดับสองคือ ต้องการความปลอดภัยและความมั่นคงในชีวิต เมื่อได้รับการตอบสนองแล้ว ความต้องการจะยกระดับขึ้นไปเป็นระดับ 3 ซึ่งก็คือ การได้รับการยอมรับในหมู่ญาติมิตรและเพื่อนฝูงให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ขั้นต่อไปก็คือ การมีสถานะที่โดดเด่นในสังคม และสุดท้ายก็คือ ความต้องการที่จะบรรลุถึงตัวตนที่แท้จริง ซึ่งในทางพระอาจจะเรียกว่านิพพานไปเลย

มาดูความสุขทางด้านอาหารว่าเงินซื้อ ได้หรือไม่? ผมคิดว่าเงินซื้อความสุขด้านอาหารได้น้อย ความสุขของการกินนั้น ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่อยู่ที่ความหิวและรสชาติของอาหาร ซึ่งไม่ค่อยได้เกี่ยวข้องกับราคามากนัก คนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าหูฉลามนั้นอร่อยมาก แต่นั่นเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้กินมัน แต่ถ้าเขาได้กินมันบ่อยมาก เขาอาจจะบอกว่าพะแนงเนื้ออร่อยกว่า ดังนั้น สำหรับความสุขในด้านของการกินแล้ว ผมคิดว่า ถ้าเราไม่จนเกินไป เราจะมีความสุขไม่ต่างกับเศรษฐีมากนัก

ความสุขที่จะได้จากความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย นี่เป็นความสุขที่เกิดขึ้นในใจเมื่อเรามีบ้านอยู่อาศัยที่ปลอดภัย มีการงานที่มั่นคง เรารู้ว่าเมื่อเราป่วยไข้จะได้รับการรักษาที่ดี มีความอุ่นใจว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรที่ไม่คาดคิดทางการเงินเรามีทางแก้ไขได้ และที่สำคัญ รู้ว่าเมื่อแก่ตัวลง เราจะมีเงินเลี้ยงดูตัวเองได้ การมีเงินสะสมน้อยหรือไม่มีสวัสดิการการรักษาพยาบาลเพียงพอ ก็ย่อมที่จะทำให้เรามีความกังวลและเป็นทุกข์ได้

ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยนั้น เป็นความสุขในระดับหนึ่งเท่านั้น นั่นหมายความว่า ถ้าคนเรามีความมั่นคงเพิ่มขึ้นไปอีก ส่วนที่เพิ่มนั้นจะก่อให้เกิดความสุขเพิ่มน้อยมาก ข้อสรุปก็คือ เราต้องมีเงินในระดับหนึ่ง เพื่อความมั่นคงในชีวิตถ้าจะให้ไม่เกิดทุกข์จากความกังวล

การได้รับการยอมรับในหมู่ญาติมิตรและ เพื่อนฝูงนั้น ผมคิดว่าเงินไม่น่าจะมีส่วนมากนัก การมีน้ำจิตน้ำใจเอื้ออารีน่าจะมีความสำคัญกว่าและสิ่งนี้ไม่สามารถซื้อได้ ด้วยเงิน ดังนั้น ความสุขจากการที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเงินเลย

การมีสถานะที่โดดเด่นในสังคมเป็นความ ต้องการในระดับที่สูงขึ้นมา และน่าจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เงินอาจจะซื้อได้ และนี่ก็คงเป็นเหตุผลสำคัญที่คนมีเงินใช้เงินซื้อบ้าน รถยนต์ที่หรูหรา และเครื่องแต่งกายราคาแพง เพื่อที่จะแสดงความโดดเด่นให้คนทั่วไปเห็นและยอมรับ อย่างไรก็ตาม ความสุขในด้านนี้มักจะมีด้านมืด นั่นก็คือ ผู้ที่ใช้ของหรูมักจะพบคนที่ใช้ของที่หรูกว่า และความรู้สึกที่ด้อยกว่าโดยการเปรียบเทียบนั้น บ่อยครั้ง มันกลบความสุขที่ควรจะได้รับ และทำให้การใช้เงินซื้อสถานะของตนเองเพื่อให้เกิดความสุขนั้นไร้ผล เพราะแทนที่จะเป็นสุขก็อาจจะกลายเป็นความทุกข์ได้

ผมคงไม่พูดถึงความต้องการที่จะบรรลุ ถึงตัวตนที่แท้จริง ซึ่งคงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเงิน แต่น่าจะเป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ แต่อยากจะบอกว่าความสุขของคนนั้น ส่วนใหญ่อยู่ที่เรื่องของสุขภาพกายและสุขภาพใจซึ่งเงินซื้อได้น้อยมาก สุขภาพกายนั้น ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากเท่าไร โอกาสที่คุณจะป่วยมีเท่ากับคนที่มีเงินน้อยหรือปานกลาง เช่นเดียวกัน สุขภาพใจนั้น อยู่ที่การทำใจ จากการสำรวจครั้งแล้วครั้งเล่าเราพบว่า คนที่ใช้ชีวิตที่ "พอเพียง" มีความสุขกว่าคนที่ชอบบริโภค ซึ่งไม่ได้เกี่ยวเลยว่าเขามีเงินมากหรือน้อย ว่าที่จริงถ้าจะมีอะไรเกี่ยวก็น่าจะเป็นว่า การมีเงินมากอาจจะเป็นความเสี่ยงว่าคุณจะมีความสุขน้อยลงถ้าคุณชอบบริโภค

ข้อสรุปสุดท้ายของผมก็คือ คนที่มีเงินน้อยเกินไปจะหาความสุขได้ยาก เพราะความสุขหลายอย่างต้องใช้เงินซื้อหามา ในอีกด้านหนึ่ง คนที่มีเงินมากเกินไปไม่ได้หมายความว่า เขาจะต้องมีความสุขมากกว่าคนที่มีเงินปานกลาง เพราะเงินนั้นซื้อความสุขได้ถึงระดับหนึ่งเท่านั้น คนที่มีเงินพอประมาณ สามารถที่จะเป็นแชมเปียนของคนที่มีความสุขได้ เพราะความสุขนั้น ส่วนใหญ่มาจากสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนที่มีเงินพอประมาณ และใช้ชีวิตที่พอประมาณ คุณก็น่าจะมีชีวิตที่มีความสุขไม่แพ้คนรวยโดยทั่วไปแล้ว

 

ที่มา : โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  กรุงเทพธุรกิจ  27 มีนาคม 2550

ผมขอมีความสุขมากกว่ารวยครับ ขอสุขกายและก็สุขใจก็เพียงพอแล้วครับ....Grin
บันทึกการเข้า
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #6281 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 02:12:01 PM »

เซียนหุ้นที่ผมรู้จักมีสองคน พอร์ตใหญ่ร่วมร้อยล้านครับ  ผมมีข้อสังเกตุลักษณะร่วมของคนทั้งสองมีหลายอย่างที่เหมือนกันครับ---ทั้งสองไม่มีบ้านเป็นของตัวเองใช้รถมือสอง  คนหนึ่งอาศัยบ้านพ่อตาบ้านเก่าๆและอยู่มาตลอด20-+ปี อีกคนหนึ่งงเป็นลูกป้าผมเอง คนนี้ไม่ซื้อรถใหม่ ร้านที่ค้าขายก็เช่าเขาอยู่---สองคนนี้เวลาเล่นหุ้นห้ามใครรบกวนเด็ดขาดครับ ถ้าทำเสียสมาธิมีโดนด่า คิก คิก

พี่อภิสิทธิ์ครับ แล้วทั้งสองคนเล่นหุ้นแบบถือยาวหรือว่าเล่นสั้นตามรอบนะครับ.....Grin


คนแรกผมไม่สนิทแต่มาร์(ผู้ชาย)ที่ดูแลแกสนิทกับผมบอกว่าเฮียแกถือหุ้นลานนาตั้งแต่ราคาหุ้นสิบ-สิบเอ็ดบาทบ้านปูตั้งแต่ร้อยกว่าบาทสองตัวนี้เก็บอย่างเดียวรวมมูลค่าร่วมร้อยล้าน  ส่วนอีกคนเป็นพี่ผม(ลูกป้า)หุ้นทุกวันที่ผมซื้อก็ตามๆแกแหละครับเห็นจะวนๆเวียนๆอยู่กับกลุ่มแบ๊งค์  ส่วนที่ว่าเล่นสั้นหรือยาว  คุณฮาวว่า เบย์  ปตท  ลานนา บ้านปู  ไทยพานิช bbl  เล่นสั้นได้ไหมครับ  ผมนั่งเฝ้าสักครึ่งวันยังยังรู้สึกคางยานเลยครับขึ้นสลึงลงสลึง ขึ้นบาทลงบาท  แต่สองเฮียนี่แกนั่งหน้าจอไม่เบื่อเลยครับ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #6282 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 09:22:52 PM »

อาการเหมือนแย่งกันขายหนีตายเลยครับ.....น่ากลัวมากครับ Grin

ลงแรงขึ้นแรงนะครับ Grin Grin Grin เสียวจริงๆ โอววววว

พี่สมชายผมไปไหนเนี่ยยยยย

true ต้องไปทดสอบ 6 บาท แต่ หลุด 6.5 นี่ก็หมายถึงหมดรอบแล้วครับ  น่ากลัวมากตัวนี้

อ้าวจะลงไปทดสอบ 6 บาทแล้วทำไมรึบรับกลับละครับพี่ Carrera ขอร้องจ๊ากครับ คือกลัววันจันทร์ลงต่อนะครับ เป้นห่วง Grin

ทุนมันต่ำลงก็รับความเสี่ยงได้เยอะครับ ถ้าเด้งก็ขาย ไป 6 บาทก็ไม่เป็นไร Grin Grin Grin หุ้นมันจะลง ทำอะไรไม่ได้มีแต่หาจังหวะช๊อตให้ทุนต่ำลงเรื่อยๆครับ
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #6283 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 09:32:55 PM »

ถึงเวลาที่อาจจะต้องเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจว่าไม่ใช่อีกแล้ว ปี 2554 เป็นปีที่กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว” นายโฆสิต กล่าวในที่สุด[/b]

ยอดครับ ท่านสรุปได้มีเหตุผลน่าเชื่อถือเสมอ Grin Grin Grin นายแบ็งค์หลายท่านที่เก่งนี่เก่งจริงๆ มีความรู้และข้อมูลในมือเพียบ

ปล.จากลูกน้องเก่า


วันนี้ส่งเมลไปยกเลิกบช.เครดิตแล้วครับพี่คาฯ ไม่เอาแล้ววว เข็ดจนตาย วงเงินหลายล้าน จะพาล่มจมเอา  ตกใจหน้าซีด

ที่จริงไม่เล่นก็ไม่ต้องยกเลิกก็ได้ครับ Grin Grin Grin แต่ถ้ากลัวอดใจไม่ไหวก็คืนเขาไปก็ OK
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #6284 เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 10:32:02 PM »

ถึงเวลาที่อาจจะต้องเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจว่าไม่ใช่อีกแล้ว ปี 2554 เป็นปีที่กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว” นายโฆสิต กล่าวในที่สุด[/b]

ยอดครับ ท่านสรุปได้มีเหตุผลน่าเชื่อถือเสมอ Grin Grin Grin นายแบ็งค์หลายท่านที่เก่งนี่เก่งจริงๆ มีความรู้และข้อมูลในมือเพียบ

ปล.จากลูกน้องเก่า


วันนี้ส่งเมลไปยกเลิกบช.เครดิตแล้วครับพี่คาฯ ไม่เอาแล้ววว เข็ดจนตาย วงเงินหลายล้าน จะพาล่มจมเอา  ตกใจหน้าซีด

ที่จริงไม่เล่นก็ไม่ต้องยกเลิกก็ได้ครับ Grin Grin Grin แต่ถ้ากลัวอดใจไม่ไหวก็คืนเขาไปก็ OK

อดใจไม่ไหวครับพี่ มันยั่วยวน ตัวเลขโชว์หรา ว่าเอ็งมีเงินนะ(โบรคให้ยืม) เล่นซี่ น่าจะสู้ไหวนะ ช่องสองช่องก็ได้หลายบาทนะ

หายนะแน่ๆครับพี่คาฯถ้าผมไม่ยกเลิก ยอมเสียที่เสียไป กลับไปรักษาวินัยตัวเองดีกว่า ดีกว่าหลวมตัว กลายเป็นผีพนันครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
หน้า: 1 ... 416 417 418 [419] 420 421 422 ... 1105
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.119 วินาที กับ 20 คำสั่ง