เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 15, 2025, 01:39:55 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปิดทองหลังพระ...ทำดีมิต้องให้ใครเห็น  (อ่าน 5222 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
e.k.1911
ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด ความสุขและผลจักมีแก่ชนเหล่านั้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 251
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2809


Still Loving COLT


« เมื่อ: มกราคม 31, 2008, 12:32:20 PM »

พระบรมราโชวาท ปิดทองหลังพระ


“…การทำงานด้วยน้ำใจรักต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้ใครเห็น
ก็ไม่น่าวิตก เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นประจักพยานที่มั่นคง ที่พูดเช่นนี้ เหมือนกับ
สอนให้ปิดทองหลังพระ การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด
ว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่า
ไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย
พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้…”

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
ของจุฬาลงกรณ์ ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 กรกฎาคม 2506
ทรงเตือนสติทุกคนให้ทำงานด้วยความตั้งใจ ด้วยความรู้ ความสามารถ
และความสุจริต แม้งานที่ทำนั้นอาจไม่มีผู้ใดทราบ แต่เมื่อเป็นงานที่ก่อให้เกิด
ประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติแล้ว ควรที่จะทำแม้จะเป็นการทำในลักษณะ
ปิดทองหลังพระก็ตาม เพราะถ้าทุกคนคิดแต่จะปิดทองหน้าพระ ทำงานเอาหน้า
ทำอะไรต้องให้มีผู้รู้ผู้เห็นก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
แก่ประเทศชาติได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน

นอกจากนี้แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาท
เป็นการเตือนสติข้าราชการทุกคน เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน
1 เมษายน 2533 ให้ทำงานโดยคำนึงถึงผลงานที่ปฏิบัติ มากกว่าผลประโยชน์
อย่างอื่น เหมือนดังเช่นการปิดทองหลังพระ

“…ในการปฏิบัติราชการนั้น ขอให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อย่านึกถึงบำเหน็จรางวัล
หรือผลประโยชน์ให้มาก ขอให้ถือว่าการทำหน้าที่ได้สมบูรณ์เป็นทั้งรางวัลและ
ประโยชน์อย่างประเสริฐ จะทำให้บ้านเมืองของเราอยู่เย็นเป็นสุขและมั่นคง…”


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วันที่ 8 กรกฎาคม 2530
เกี่ยวกับการทำงานว่า เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำต้อง
ตั้งข้อแม้หรือเงื่อนไขอันใดไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง.

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม...ขอเดชะ

เนื่องด้วยตอนนี้ผมกำลังจะน้อมนำพระราชดำรัสนี้  ไปสู่การร่วมกันนำไปใช้กระทำของคนในสังคม โดยเริ่มจากบุคคลใกล้ตัว ในโรงเรียน เด็กๆนักเรียน เพื่อนฝูง ฯลฯ
ทั้งนี้ก่อนนี้ จัดการปลูกฝังเรื่อง ความพอเพียงไปแล้ว คนที่ทำก็จะได้ผล ไร้ผลกระทบจากทางเศรษฐกิจ  ชีวิต สังคม
ว่าด้วยการปิดทองหลังพระ  ผมเองได้กระทำโดยที่ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าเป็นการปิดทองหลังพระ  เพราะขาดเจตนาใดๆ ทุกอย่างทำไปโดยความยินดีที่จะทำ
เมื่อก่อนก็เคยคิดว่าทำดีสักอย่าง มีคนรู้บ้างก็ดี มีผลแก่ความรู้สึก ปลื้มปิติดี.........แต่ก็ไม่เคยไม่ได้ต้องการบอกกล่าวโฆษณา
ปัจจุบัน  เน้นทำดีลับหลังเยอะหน่อย   ใครอยากได้ผลตอบแทนตรงนั้น ก็เอาไปเถิด  รู้สึกสุขใจกว่าเยอะเลย

ปิดทองหลังพระ  สำนวนนี้ หากร่วมกันทำ     สังคมมนุษย์โลกต้องดีขึ้นทันตา ไหว้


ขอเชิญร่วม  ปิดทองหลังพระ  กันทั้งมวลสังคมครับ




บันทึกการเข้า

โปรดจงเอาดอกไม้เสียบไว้ที่ปลายปืน  แล้วหยิบยื่นไมตรีมิตรให้แก่กัน
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 31, 2008, 12:42:43 PM »

สื่งที่พระองค์ท่านกล่าว
เห็นจริงได้ตลอด
ในทุก ๆ เรื่อง
และถ้ารับมาปฎิบัติ
จะเกิดประโยชน์
ทั้งต่อตนเอง และ ผู้อื่น


ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
เป็นมิ่งขวัญของประชาชน ทั้งปวง
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
ก๊วยเจ๋ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 134
ออฟไลน์

กระทู้: 2848



« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 31, 2008, 01:20:55 PM »

ปิดทองหลังพระ กันนะครับ
บันทึกการเข้า

SaSa
Hero Member
*****

คะแนน 60
ออฟไลน์

กระทู้: 1290


“โกธํ ปญฺญาย อุจฺฉิ” ระงับโกรธด้วยปัญญา


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 31, 2008, 03:33:53 PM »

ทำดีสบายใจ ทำชั่วร้อนใจ... ไม่มีใครรู้ใครเห็น...แต่เรารู้เองแก่ใจ
บันทึกการเข้า

ประสบการณ์ (Experience)คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
ความรู้ (Knowledge)คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 31, 2008, 04:23:39 PM »

พระราชดำรัส ๔ ประการ สู่รูปธรรม การทำความดี

ประการแรก คือ การให้ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน

ประการที่สอง คือการที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงานประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผลทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และแก่ประเทศชาติ

ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมเสมอกัน

ประการที่สี่ คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำ นำความคิดเห็นของตนให้ถูกต้องเที่ยงตรงอยู่ในเหตุในผล

 Smiley การดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำรัสทั้งสี่ประการข้างต้นนั้น เป็นคุณธรรมที่เราทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนาสามารถปฏิบัติได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ข้าราชการ สื่อมวลชน พ่อค้า นักธุรกิจ นักการเมือง ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักบวช และพระภิกษุสงฆ์ด้วย ซึ่งการน้อมนำพระราชดำรัสไปสู่การกระทำดี ที่เป็นรูปธรรมนี้ สามารถเริ่มด้วยการ ให้ทุกคนทำตามหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด โดยยึดหลักธรรมตามศาสนาของตนเป็นพื้นฐาน อันได้แก่


•  ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา ก็ให้ตั้งใจเล่าเรียน ช่วยติวให้เพื่อน ไม่หวงวิชา ไม่คิดโกงข้อสอบ ไม่ก่อการทะเลาะวิวาท ทำตัวเป็นหัวโจกในทางที่ไม่ดี มีความเคารพพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พูดจามีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ กลับบ้านก็ให้รู้จักช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานบ้าน ไม่คิดฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยซื้อของแบรนด์เนมหรือเปลี่ยนมือถือบ่อยทั้งๆที่ยังไม่มีรายได้ ให้ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบของสถานศึกษา ไม่ข้องแวะกับยาเสพติด ขณะเดียวกันก็ช่วยดึงเพื่อนให้ห่างไกลจากอบายมุขด้วย เป็นต้น

•  ถ้าเป็นพ่อแม่ ก็ต้องเสียสละเวลาให้ลูกบ้าง อย่าตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินแต่เพียงอย่างเดียวอย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสถานศึกษาในการอบรมสั่งสอนลูกเท่านั้น แต่พ่อแม่ต้องทำหน้าที่ในการสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ไม่เป็นภาระกับสังคมด้วย ควรมอบหมายหน้าที่การงานให้ทำบ้าง เพื่อลูกจะได้รู้จักรับผิดชอบ มิใช่เอาแต่เรียนแต่อย่างเดียว ควรสอนลูกให้รู้จักเสียสละ ช่วยเหลือส่วนรวมหรือผู้ด้อยโอกาส สอนให้ไม่ดูถูกดูแคลนผู้ที่ด้อยกว่า สอนให้มีเมตตาต่อผู้อื่น โดยอาจจะพาลูกไปทำบุญตามวาระสำคัญต่างๆ ฯลฯ

•  ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ ก็ต้องตั้งใจสั่งสอนลูกศิษย์ ให้ความรู้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ต้องสอนศิษย์ให้เป็นคนดี มีความรู้คู่คุณธรรม มิใช่แค่เรียนเก่งอย่างเดียว ทำตนให้ศิษย์เคารพรักด้วยความจริงใจ มิใช่เคารพตามหน้าที่ อย่าคิดแต่จะสอนพิเศษ หรือใช้เวลาสอนไปหารายได้อื่นๆเพิ่ม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่ศิษย์ เป็นต้น

•  ถ้าเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ปฏิบัติงานด้วยความยิ้มแย้ม แจ่มใส ตั้งใจบริการ ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางมิชอบ หรือเอารัดเอาเปรียบคนอื่น หรือสักแต่ทำให้เสร็จ หรือทำงานเอาหน้า แต่ให้ทำงานด้วยความตั้งใจที่จะให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองอย่างจริงจัง และนึกถึงผลที่ยั่งยืน มีความซื่อสัตย์ ไม่เอนเอียงไปหาผลประโยชน์เข้าตนเองหรือพวกพ้องไม่ว่าจะมีโอกาสหรือไม่ก็ตาม ฯลฯ

•  ถ้าเป็นสื่อมวลชน ก็พยายามนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าต่อสังคมเพิ่มขึ้น สิ่งใดเป็นพิษเป็นภัยต่อเยาวชนก็เสนอให้ลดน้อยลงไป พยายามชี้แนะแนวทางที่มีสาระความรู้แก่ประชาชนและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อเปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างสังคมของเรา ให้เป็น “ สังคมอุดมปัญญา ” มิใช่ปัญหา

•  ถ้าเป็นดารานักร้องนักแสดง ก็อย่าคิดว่าเข้ามาในวงการเพียงเพื่อหาเงินระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ให้ทำตัวเป็น “ แบบอย่าง ” แก่น้องๆเยาวชนที่รักเรา ปลื้มเราบ้าง เช่น ไม่มั่วเซ็กส์ เสพยา บ้าพนัน ฯลฯ แต่ให้น้องๆเขาได้เห็นตัวอย่างที่ดีๆ เพื่อว่าเขาจะได้ทำตัวเป็น เด็กดี คนดีในสังคมตามแบบดารานักร้องที่เขาชื่นชอบ และตัวเราเองก็จะได้ภูมิใจว่ามีส่วนได้ช่วยชาติบ้านเมืองอีกทางหนึ่ง

•  ถ้าเป็นนักการเมือง ก็ขอให้ตั้งใจปฏิบัติตามสัตย์สาบานที่ว่า จะเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมืองอย่างจริงจัง เต็มที่ อย่าทำเพียงลมปาก หรือพูดอย่าง ทำอย่าง และอย่าใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง ญาติมิตร หรือพวกพ้อง ให้ใช้อำนาจอย่างเที่ยงธรรมถูกต้อง ทั้งตามหลักกฎหมายและหลักจริยธรรม ขอให้เป็นนักการเมืองพันธุ์ใหม่ที่ประชาชนคนไทยเคารพรักได้อย่างสนิทใจ และเชื่อใจ

•  ถ้าเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ แม้โดยธรรมชาติ จะต้องมุ่งเน้น “ กำไร ” เป็นตัวตั้ง แต่ก็ขอให้ผลิตสินค้าที่มี คุณภาพ หรือให้บริการที่สมราคา อย่าเอาเปรียบผู้บริโภค หรือลูกค้า อย่า “ ย้อมแมวขาย ” อย่าฉกฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร ผู้ที่ขายของกิน ก็ควรรักษาความสะอาด และไม่ใช้สิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งปลอมปนใส่ไปในอาหาร เครื่องดื่ม เพราะหวังกำไรเพิ่มขึ้น เพราะเท่ากับเป็นการทำลายสุขภาพผู้อื่น และมีผลให้บ้านเมืองเรามีพลเมืองที่อ่อนแอ ฯลฯ

•  ถ้าเป็นนักบวช หรือพระสงฆ์ ก็ขอให้ดำเนิน “ ตามรอยพระพุทธองค์ ” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี และให้ประชาชนเคารพศรัทธาได้จากวัตรที่ปฏิบัติ และเป็นที่พึ่งทางใจได้อย่างแท้จริง ไม่ประพฤตินอกรีตนอกรอย อันเป็นการทำลายศาสนาทางอ้อม และไม่ชักจูงชาวบ้านไปสู่หนทางแห่งความหลงมัวเมาในกิเลส เป็นต้น

ที่มา : อมรรัตน์ เทพกำปนาท, กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทวงวัฒนธรรม

บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
nanmaxnum
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 124


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 31, 2008, 04:49:44 PM »


         ปิดทองหลังพระ....การทำดีไม่ว่าจะทำที่ไหน เมื่อไหร่ ย่อมส่งผลให้ผู้กระทำได้อิ่มบุญ คือความชุ่มเย็นแห่งจิตใจ เป็นสวรรค์ในอก
   
      การทำดี เริ่มจากการคิดที่จะทำดี คือจิตใจที่ห่อหุ้มด้วยความดี นำสู่การปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ  ผู้ปฏิบัติ ย่อมจะรวย ตามมา

              คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน
                 คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน
                    คนจะรวย รวยศีลทาน ใช่บ้านโต
บันทึกการเข้า
e.k.1911
ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด ความสุขและผลจักมีแก่ชนเหล่านั้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 251
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2809


Still Loving COLT


« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2008, 12:20:12 PM »

พระราชดำรัส ๔ ประการ สู่รูปธรรม การทำความดี

ประการแรก คือ การให้ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน

ประการที่สอง คือการที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงานประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผลทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และแก่ประเทศชาติ

ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมเสมอกัน

ประการที่สี่ คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำ นำความคิดเห็นของตนให้ถูกต้องเที่ยงตรงอยู่ในเหตุในผล

 Smiley การดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำรัสทั้งสี่ประการข้างต้นนั้น เป็นคุณธรรมที่เราทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนาสามารถปฏิบัติได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ข้าราชการ สื่อมวลชน พ่อค้า นักธุรกิจ นักการเมือง ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักบวช และพระภิกษุสงฆ์ด้วย ซึ่งการน้อมนำพระราชดำรัสไปสู่การกระทำดี ที่เป็นรูปธรรมนี้ สามารถเริ่มด้วยการ ให้ทุกคนทำตามหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด โดยยึดหลักธรรมตามศาสนาของตนเป็นพื้นฐาน อันได้แก่


•  ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา ก็ให้ตั้งใจเล่าเรียน ช่วยติวให้เพื่อน ไม่หวงวิชา ไม่คิดโกงข้อสอบ ไม่ก่อการทะเลาะวิวาท ทำตัวเป็นหัวโจกในทางที่ไม่ดี มีความเคารพพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พูดจามีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ กลับบ้านก็ให้รู้จักช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานบ้าน ไม่คิดฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยซื้อของแบรนด์เนมหรือเปลี่ยนมือถือบ่อยทั้งๆที่ยังไม่มีรายได้ ให้ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบของสถานศึกษา ไม่ข้องแวะกับยาเสพติด ขณะเดียวกันก็ช่วยดึงเพื่อนให้ห่างไกลจากอบายมุขด้วย เป็นต้น

•  ถ้าเป็นพ่อแม่ ก็ต้องเสียสละเวลาให้ลูกบ้าง อย่าตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินแต่เพียงอย่างเดียวอย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสถานศึกษาในการอบรมสั่งสอนลูกเท่านั้น แต่พ่อแม่ต้องทำหน้าที่ในการสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ไม่เป็นภาระกับสังคมด้วย ควรมอบหมายหน้าที่การงานให้ทำบ้าง เพื่อลูกจะได้รู้จักรับผิดชอบ มิใช่เอาแต่เรียนแต่อย่างเดียว ควรสอนลูกให้รู้จักเสียสละ ช่วยเหลือส่วนรวมหรือผู้ด้อยโอกาส สอนให้ไม่ดูถูกดูแคลนผู้ที่ด้อยกว่า สอนให้มีเมตตาต่อผู้อื่น โดยอาจจะพาลูกไปทำบุญตามวาระสำคัญต่างๆ ฯลฯ

•  ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ ก็ต้องตั้งใจสั่งสอนลูกศิษย์ ให้ความรู้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ต้องสอนศิษย์ให้เป็นคนดี มีความรู้คู่คุณธรรม มิใช่แค่เรียนเก่งอย่างเดียว ทำตนให้ศิษย์เคารพรักด้วยความจริงใจ มิใช่เคารพตามหน้าที่ อย่าคิดแต่จะสอนพิเศษ หรือใช้เวลาสอนไปหารายได้อื่นๆเพิ่ม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่ศิษย์ เป็นต้น

•  ถ้าเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ปฏิบัติงานด้วยความยิ้มแย้ม แจ่มใส ตั้งใจบริการ ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางมิชอบ หรือเอารัดเอาเปรียบคนอื่น หรือสักแต่ทำให้เสร็จ หรือทำงานเอาหน้า แต่ให้ทำงานด้วยความตั้งใจที่จะให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองอย่างจริงจัง และนึกถึงผลที่ยั่งยืน มีความซื่อสัตย์ ไม่เอนเอียงไปหาผลประโยชน์เข้าตนเองหรือพวกพ้องไม่ว่าจะมีโอกาสหรือไม่ก็ตาม ฯลฯ

•  ถ้าเป็นสื่อมวลชน ก็พยายามนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าต่อสังคมเพิ่มขึ้น สิ่งใดเป็นพิษเป็นภัยต่อเยาวชนก็เสนอให้ลดน้อยลงไป พยายามชี้แนะแนวทางที่มีสาระความรู้แก่ประชาชนและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อเปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างสังคมของเรา ให้เป็น “ สังคมอุดมปัญญา ” มิใช่ปัญหา

•  ถ้าเป็นดารานักร้องนักแสดง ก็อย่าคิดว่าเข้ามาในวงการเพียงเพื่อหาเงินระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ให้ทำตัวเป็น “ แบบอย่าง ” แก่น้องๆเยาวชนที่รักเรา ปลื้มเราบ้าง เช่น ไม่มั่วเซ็กส์ เสพยา บ้าพนัน ฯลฯ แต่ให้น้องๆเขาได้เห็นตัวอย่างที่ดีๆ เพื่อว่าเขาจะได้ทำตัวเป็น เด็กดี คนดีในสังคมตามแบบดารานักร้องที่เขาชื่นชอบ และตัวเราเองก็จะได้ภูมิใจว่ามีส่วนได้ช่วยชาติบ้านเมืองอีกทางหนึ่ง

•  ถ้าเป็นนักการเมือง ก็ขอให้ตั้งใจปฏิบัติตามสัตย์สาบานที่ว่า จะเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมืองอย่างจริงจัง เต็มที่ อย่าทำเพียงลมปาก หรือพูดอย่าง ทำอย่าง และอย่าใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง ญาติมิตร หรือพวกพ้อง ให้ใช้อำนาจอย่างเที่ยงธรรมถูกต้อง ทั้งตามหลักกฎหมายและหลักจริยธรรม ขอให้เป็นนักการเมืองพันธุ์ใหม่ที่ประชาชนคนไทยเคารพรักได้อย่างสนิทใจ และเชื่อใจ

•  ถ้าเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ แม้โดยธรรมชาติ จะต้องมุ่งเน้น “ กำไร ” เป็นตัวตั้ง แต่ก็ขอให้ผลิตสินค้าที่มี คุณภาพ หรือให้บริการที่สมราคา อย่าเอาเปรียบผู้บริโภค หรือลูกค้า อย่า “ ย้อมแมวขาย ” อย่าฉกฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร ผู้ที่ขายของกิน ก็ควรรักษาความสะอาด และไม่ใช้สิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งปลอมปนใส่ไปในอาหาร เครื่องดื่ม เพราะหวังกำไรเพิ่มขึ้น เพราะเท่ากับเป็นการทำลายสุขภาพผู้อื่น และมีผลให้บ้านเมืองเรามีพลเมืองที่อ่อนแอ ฯลฯ

•  ถ้าเป็นนักบวช หรือพระสงฆ์ ก็ขอให้ดำเนิน “ ตามรอยพระพุทธองค์ ” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี และให้ประชาชนเคารพศรัทธาได้จากวัตรที่ปฏิบัติ และเป็นที่พึ่งทางใจได้อย่างแท้จริง ไม่ประพฤตินอกรีตนอกรอย อันเป็นการทำลายศาสนาทางอ้อม และไม่ชักจูงชาวบ้านไปสู่หนทางแห่งความหลงมัวเมาในกิเลส เป็นต้น

ที่มา : อมรรัตน์ เทพกำปนาท, กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทวงวัฒนธรรม




ขอบคุณมากครับพี่ เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม หลงรัก
บันทึกการเข้า

โปรดจงเอาดอกไม้เสียบไว้ที่ปลายปืน  แล้วหยิบยื่นไมตรีมิตรให้แก่กัน
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.122 วินาที กับ 21 คำสั่ง