เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 24, 2025, 06:26:12 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10 11
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำนายดวงกับกรุ๊ปเลือด คุณรู้จัก กล้วยหอม ดีหรือยัง เริ่มหน้าที่ 10 ครับ  (อ่าน 26811 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #120 เมื่อ: เมษายน 08, 2008, 12:21:13 PM »

หัวหน้ากรุ๊ปเลือด AB

1. มีความสามารถในการทำงาน - หัวหน้ากรุ๊ป AB จะชอบทำงานมากและจะชื่นชอบลูกน้องที่ทำงานเร็ว แต่ไม่ได้ชอบคนที่มีความขยัน เช่นคนปกติธรรมดาทั่วไป วิธีทำหรือขั้นตอนการทำงานไม่ใช่ปัญหา สิ่งสำคัญคือผลงาน นอกจากนั้น หัวหน้ากรุ๊ป AB จะชอบทำงานมากมายหลายอย่างจึงมีจุดอ่อนอยู่ที่คำพูดที่ว่า "ผมยินดีรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่ครับ" ดังนั้น จึงทำให้หัวหน้ากรุ๊ป AB มีงานในความรับผิดชอบมากมาย เมื่อมีลูกน้องมาช่วยแบ่งเบาภาระความรับผิดชอบให้เบาบางลงบ้าง จึงจะรู้สึกสบายใจขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผลงานที่รับไปนั้นต้องออกมาดีเสมอ เพราะหัวหน้ากรุ๊ป AB จะไม่สนใจลูกน้องที่ทำงานไม่เก่ง

2. อย่าเอาเวลางานไปใช้ในเรื่องส่วนตัว - หัวหน้ากรุ๊ป AB จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันโดยเด็ดขาด และไม่ชอบที่จะให้ความสนิทสนมกับลูกน้องคนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะ ทั้งยังไม่ชอบที่จะรับฟังหรือช่วยแก้ปัญหาส่วนตัวของลูกน้อง จึงควรสร้างความสัมพันธ์อยู่ห่างๆ กับหัวหน้ากรุ๊ป AB จะดีกว่า และไม่ควรนำเวลางานไปใช้ในเรื่องส่วนตัว หัวหน้ากรุ๊ป AB จะโกรธมาก ถ้ารู้ว่าลูกน้องนำเรื่องส่วนตัวเข้ามาปรึกษาหารือด้วย

3. ห้ามพูดโกหก - หัวหน้ากรุ๊ป AB นั้นมีความรู้สึกไวในการรับรู้เรื่องความถูกต้อง จึงสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก ดังนั้น ถ้าทำงานผิดพลาดขึ้นมาควรจะยอมรับผิดอย่างซื่อสัตย์ การจะเข้าหาหัวหน้ากรุ๊ป AB นั้นสิ่งที่สำคัญคือความจริงใจและความซื่อสัตย์
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #121 เมื่อ: เมษายน 09, 2008, 11:29:29 AM »

หัวหน้ากรุ๊ปเลือด O   
1. ต้องสานต่อความสัมพันธ์ด้านความไว้วางใจ - หัวหน้ากรุ๊ป O มักชอบคบ
หาผู้คนด้วยความจริงใจ ไม่มีการปรุงแต่ง ดังนั้น ก่อนอื่นควรเปิดใจกว้าง
และขอคำปรึกษาหารือกับหัวหน้ากรุ๊ป O ในทุกเรื่องทั้งเรื่องงานและเรื่อ ง
ส่วนตัวรับรองได้ว่าหัวหน้ากรุ๊ป O ที่ชอบให้การดูแลเอาใจใส่คนอื่น จะต้อง
รีบให้การปรึกษาราวกับเป็นพ่อแม่ของท่านทีเดียว แต่ถ้าหัวหน้าให้คำปรึกษา
เสร็จแล้วก็เป็นอันจบเท่านั้น จะทำให้หัวหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง   ทางที่ดีคว
รรายงานผลจากการปฏิบัติตามคำแนะนำให้หัวหน้าทราบด้วยเป็นการสานต่อ
ความสัมพันธ์ด้านความไว้วางใจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

  2. แสดงท่าทางขอรับการอบรมชี้แนะจากหัวหน้า - หัวหน้ากรุ๊ป O
ส่วนใหญ่จะชอบการให้คำแนะนำสั่งสอนคนอื่นเป็นอย่างมาก แต่ถ้าลูกน้อง
คนใดวนเวียนถามแต่เรื่องเก่าเรื่องเดิมจะทำให้หัวหน้าคิดไปว่า "ลูกน้อง
ไม่ได้ตั้งใจฟังคำแนะนำสั่งสอนเลย และจะปักใจลงไปว่าเป็นลูกน้องที่ใช้ไม่ได้"
ในขณะขอรับคำแนะนำนั้น อย่าลืมแสดงความเคารพอย่างจริงใจเป็นอันขาด
และถ้าลูกน้องเป็นฝ่ายอธิบายโน่นนี่ขึ้นมาบ้าง จะทำให้หัวหน้าอารมณ์เสียทันที
แม้ในบ้างครั้งหัวหน้าชักจะพูดเลยเถิดนอกเหนือไปจากเรื่องที่ถามจนเกินไป
ลูกน้องก็ต้องตั้งใจฟังเป็นอย่างดีด้วย

  3. คอยปฏิบัติตามและแสดงให้เห็นความตั้งใจจริง - "ทำตามผมนะ"
หัวหน้ากรุ๊ป O ชอบที่จะคอยให้ลูกน้องคอยทำตามตนเอง ดังนั้น ลูกน้อง
ควรทำตามหัวหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ และต้องแสดงออกให้เห็นถึงความตั้งใจ
จริงด้วย เช่น ถ้ามีงานที่ต้องทำโดยไม่ได้พักผ่อนก็ต้องทำ และแม้แต่การ
ไปเที่ยวหรือดื่มสังสรรค์ก็ต้องคอยติดตามไป แม้จะอยู่ดึกถึงเช้าก็ตามเหล่านี้จะ
มีผลทำให้หัวหน้ากรุ๊ป O เริ่มมองเห็นว่า "คุณมีความตั้งใจจริง" และจะค่อยๆ
พึงพอใจมากขึ้นตามลำดับ   
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #122 เมื่อ: เมษายน 10, 2008, 11:02:55 PM »

ได้อ่านคำทำนายด้วยกรุ๊ปเลือดแล้วหลายๆ แบบ
มาอ่านเรื่องสุขภาพกันบ้างครับพี่ๆ Wink

อาหารอันตรายเมื่อท้องว่าง Shocked

คุณทราบไหมว่าเมื่อท้องของคุณว่างแล้วคุณรับประทานอาหารเข้าไป
อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณได้ เพราะฉะนั้น
ก่อนที่จะรับประทานอาหาร ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อน
อาหารที่ไม่ควรรับประทาน ขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง
มีบางชนิดที่เราแทบไม่เชื่อเลย

กล้วย...เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย
ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น
ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง
การ ทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง

กระเทียม...เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด
โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง

ผัก...การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง
จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปรกติ
นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน
เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง
จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย

นมและนมถั่วเหลือง...แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน
แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร
มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย

เหล้า...หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร
ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้
น้ำตาลหรืออาหารหวาน... ไม่ควรรับประทานอาหารหวาน
หรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง
จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด
และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

ชา...ที่แก่เกินไป ชาทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย
ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงาน
ของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ
มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ

ลูกพลับ...ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง
เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง
และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้เจ็บหน้าอก
คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #123 เมื่อ: เมษายน 11, 2008, 10:06:55 AM »

โทษของน้ำต้มเดือดหลายๆ ครั้ง

น้ำประปามีแร่ธาตุหลายชนิด
เมื่อต้มเดือดแล้วเดือดอีกหลายๆ ครั้ง
น้ำจำนวนมากจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือ
จึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก
และเกินมาตรฐานการบริโภค น้ำที่ต้มเดือดนานๆ
ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำ
จะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์
ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย
และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย
จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำ
และอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกาย
ในการกำจัดขับถ่ายออกมา
จึงไม่ควรดื่มน้ำที่ ต้มเดือดแล้วหลาย ๆ ครั้ง ครับ
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #124 เมื่อ: เมษายน 11, 2008, 06:02:05 PM »

อ่านต่อครับ

ทานกะหล่ำปลีดิบมีพิษนะ
ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen)
ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน
ไปสร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน (Thyroscine) ได้
ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก
แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ โดยการต้ม
จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุก
จะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ
 
 
ถั่วงอกดิบมีโทษครับ
ในผักสดบางชนิดมีสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ในถั่วงอก
มีสารพิษพวกที่เรียกว่าไฟเตต ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะ
ไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร
ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นเข้าร่างกาย
ร่างกายจะเป็นโรคขาดแร่ธาตุ
สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายได้โดยการต้ม
จึงควรรับประทานถั่วงอกสุขดีกว่าถั่วงอกดิบ
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
cylinder
Sr. Member
****

คะแนน 104
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 566



« ตอบ #125 เมื่อ: เมษายน 12, 2008, 02:41:48 PM »

ขอบคุณ หมอเดา อารมณ์ดีค่ะ
ที่นำมาให้อ่าน  Grin Grin
บันทึกการเข้า

..ปัญหาเป็นเครื่องทดสอบความรู้..
..ศัตรูเป็นเครื่องทดสอบกำลัง...
..ผิดหวังเป็นเครื่องทดสอบจิตใจ..
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #126 เมื่อ: เมษายน 13, 2008, 05:04:07 PM »

ขอบคุณ หมอเดา อารมณ์ดีค่ะ
ที่นำมาให้อ่าน  Grin Grin


หมอลอกครับพี่ไม่ใช่หมอเดา Cheesy
ขอบคุณครับ

ไอศกรีม อาหารขยะ
ไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิต ใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทน
และได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้
1. ไดอิธิลกลูคอล ( diethyl glucol )..สารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมัน
ให้กระจาย แทนการใช้ ่ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง
( anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี
2. อัลดีไฮด์ - ซี71 ( aldehyde-C71 ) .. ใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่
ให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง
3. ไปเปอร์โอรัล ( piperoral )..ใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด
4. อิธิลอะซีเตท (ethyl acetate ) .. ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด
ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้
ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ
5. บิวธีรัลดีไฮด์ ( butyraldehyde) ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผล
ไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง
6. แอนนิล อะซีเตท( anyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอม
เป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน
7. เบนซิล อะซีเตท(benzyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
โมโม่153
Hero Member
*****

คะแนน 2013
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 17779



« ตอบ #127 เมื่อ: เมษายน 13, 2008, 09:24:02 PM »

ไอศกรีมยี่ห้ออะไรบ้างคะ...จะได้ไม่ซื้อทาน.... Undecided
บันทึกการเข้า

RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #128 เมื่อ: เมษายน 14, 2008, 01:13:50 PM »

ไอศกรีมยี่ห้ออะไรบ้างคะ...จะได้ไม่ซื้อทาน.... Undecided

ไม่ได้ระบุไว้ในข้อมูลครับพี่ แต่ตามที่ผมคิดคือ ราคาถูกและสีฉูดฉาดครับ


อ่านต่อครับ
เนยแท้ vs เนยเทียม
เนยแท้ๆ ที่ทำมาจากนม อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายกว่าเนยเทียม
หรือมาร์การีนซึ่งไม่มีประโยชน์เลยแถมเป็นพิษต่อร่างกายอีกต่างหาก
แต่ไม่ควรจะบริโภคเนยให้มากนักเพราะมากไป
ก็ทำให้เป็นโรคหัวใจ และความดันได้ง่าย...

ขนมเด็กเคลือบยาพิษ Safe Stamp ระวัง ! Sad
อันตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจ
ของราชพฤกษ์โพล
คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท
จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน
ในพื้นที่17 เขตของกรุงเทพมหานคร
พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก
โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย
ขณะเดียวกันก็ยั งพบสารอันตรายอื่นๆ
โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป
ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย
อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้

สิบอันดับขนมขบเคี้ยวประเภทข้าว แป้ง ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้ Shocked
1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง
2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง
3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่
4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ
5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์ รสหัวหอมทรงเครื่อง
6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก
7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ
8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา
9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา
10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
fink
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 351
ออฟไลน์

กระทู้: 6607



« ตอบ #129 เมื่อ: เมษายน 14, 2008, 03:26:22 PM »

ช่วยเพิ่มเติมครับ
ในขนมประเภทที่สอดไส้ครีมทั้งหลาย ในบ้านเราบางยี่ห้อจะมีการใช้สารแทนไขมันที่เรียกว่า Tran fat ครับ
ซึ่งไอ้สารตัวนี้เนี่ยในต่างประเทศเป็นสารที่ผิดกฏหมาย แต่ในบ้านเราไม่มีกฏหมายมาบังคับควบคุมครับ
แต่ในบ้านเรามีกฏหมายห้ามไม่ให้มีไขมันเกินที่กำหนดไว้ บริษัทขนมจึงใช้ตัวนี้เข้าไปแทน
ข้อมูลอันนี้รู้มาจากพี่ที่ทำงานด้านการตรวจสอบคุณภาพอาหาร
เค้าไปตรวจไอ้ขนมที่บิดออก ชิมครีมและจุ่มนมนั่นแหละครับ

ถ้ารับประทานมากๆมันจะทำให้ง่ายต่อการเป็นหัวใจวายเฉียบพลัน
น่าสงสารเด็กสมัยนี้นะครับ กินแต่อะไรก็ไม่รู้ สู้ขนมตาล ขนมกล้วยก็ไม่ได้
บันทึกการเข้า

โมโม่153
Hero Member
*****

คะแนน 2013
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 17779



« ตอบ #130 เมื่อ: เมษายน 14, 2008, 05:15:18 PM »

ถ้างั้นต้องกินโรตีให้น้อยลงกว่าเดิม... เยี่ยม

ของโปรดอีกแล้ว....... หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #131 เมื่อ: เมษายน 15, 2008, 10:19:07 PM »

ช่วยเพิ่มเติมครับ
ในขนมประเภทที่สอดไส้ครีมทั้งหลาย ในบ้านเราบางยี่ห้อจะมีการใช้สารแทนไขมันที่เรียกว่า Tran fat ครับ
ซึ่งไอ้สารตัวนี้เนี่ยในต่างประเทศเป็นสารที่ผิดกฏหมาย แต่ในบ้านเราไม่มีกฏหมายมาบังคับควบคุมครับ
แต่ในบ้านเรามีกฏหมายห้ามไม่ให้มีไขมันเกินที่กำหนดไว้ บริษัทขนมจึงใช้ตัวนี้เข้าไปแทน
ข้อมูลอันนี้รู้มาจากพี่ที่ทำงานด้านการตรวจสอบคุณภาพอาหาร
เค้าไปตรวจไอ้ขนมที่บิดออก ชิมครีมและจุ่มนมนั่นแหละครับ

ถ้ารับประทานมากๆมันจะทำให้ง่ายต่อการเป็นหัวใจวายเฉียบพลัน
น่าสงสารเด็กสมัยนี้นะครับ กินแต่อะไรก็ไม่รู้ สู้ขนมตาล ขนมกล้วยก็ไม่ได้

ขอบคุณพี่ fink สำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์มากครับ

ถ้างั้นต้องกินโรตีให้น้อยลงกว่าเดิม... เยี่ยม

ของโปรดอีกแล้ว....... หัวเราะร่าน้ำตาริน

ผมก็ชอบกินแต่ช่วงหลังจากผ่าตัดแล้ว เดือนหนึ่งไม่เกินสองชิ้นครับพี่ Tongue


อ่านต่อครับ

หกอัศวินช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
ร่างกายของคนเราสามารถสร้างคอเลสเตอรอลได้เองอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
ระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด
ก็จะมีสูงขึ้นตามไปด้วย
เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน
และหัวใจวายแน่นอน
อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติ
ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้ เป็นอย่างดีเยี่ยม

หกอัศวินตัวสำคัญนั้นคือ
1.มะเขือต่างๆ..
2.หอมหัวใหญ่..
3.กระเทียม
4.ถั่วเหลือง..
5. แอปเปิล..
6.โยเกิร์ต
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
korpat
คนน่ารัก มักใจร้าย
Hero Member
*****

คะแนน 119
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2457


« ตอบ #132 เมื่อ: เมษายน 15, 2008, 10:39:37 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ
บันทึกการเข้า

ผ่านมากี่ฝนยังทนไม่ได้  ไม่รู้ทำไมใจต้องหวั่นไหว
แค่เพียงความเหงาที่เข้ามากับฝน  แต่ว่ามันซึมไปถึงหัวใจ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #133 เมื่อ: เมษายน 16, 2008, 10:42:32 AM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ

ยินดีครับพี่ Wink


วิธีป้องกันตะคริว
ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่
การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ
จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...

อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน
ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
จะใช้อินซูลินได้น้อยลง
คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ...

ตรวจฉี่ด้วยตัวเอง
ร่างกายแต่ละคนต้องการน้ำไม่เท่ากัน
แพทย์แนะนำว่าควรดื่มมาก พอที่จะถ่ายปัสสาวะได้ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง
หากปัสสาวะคุณเป็นสีเหลือง เข้มกว่าปกติ แสดงว่าคุณกำลังขาดน้ำ
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #134 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 12:29:36 PM »

ผลกระทบของการอดนอน
งานวิจัยเชิงทดลอง โดยอาสาสมัครหนุ่มสาว
ทดลองนอนหลับวันละ 4 ชม. เป็นเวลา 6 คืน เมื่อเจาะตัวอย่างเลือด
พบว่า มีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นและควบคุมยาก
ซึ่งเกือบจะเป็นเหมือนโรคเบาหวาน

นักวิจัยยังพบว่าการอดนอนเป็นสาเหตุของโรคอ้วน
โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเร่งการเติบโต
ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ
และควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย
การอดนอนทำให้ฮอร์โมนนี้หลั่งน้อยลง
ร่ายกายรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น


นอกจากนี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน
ซึ่งเป็นสารที่สื่อต่อระบบประสาท
ว่าควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้าเท่าใด
ตามความต้องการอาหารของร่างกาย
เมื่อระดับเลปตินลดลงจากการนอนน้อย
ผู้คนจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
แม้จะได้กินอาหารจนได้พลังงานเพียงพอแล้วก็ตาม

การนอนไม่พอยังส่งผลต่อเม็ดเลือดขาว
และกลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกาย
ทำให้เจ็บป่วยง่ายเมื่อเจอเชื้อโรค
การนอนไม่พออาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องวงจรการหลั่งฮอร์โมนแปรปรวน
เนื่องมาจากการอดนอนและ แสงรบกวนในเวลากลางคืน
ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
ฉะนั้น นอกจากเราควรจะนอนให้เพียงพอแล้ว
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10 11
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 21 คำสั่ง