
ปืนสวยก็เลยแพง...... ปืนไม่สวย ก็ยังแพง
ปืนคัสตอมแพง......... ปืนใช้งาน ก็ยังแพง
มีคนตอบคำถามเรื่องปืนแพง ว่า...ต้องรวมค่าภาษี+ค่าโสหุ้ยนำเข้า+ค่าต้นทุนบริหารจัดการงานขาย
+ค่ากำไร(เล็กน้อย!) +อื่นๆที่ร้านปืนต้องจ่ายให้.... รวมทั้งภาวะจำกัดโควต้าร้านปืน....จำนวนปืน..ต่อปี
ผลที่ได้ออกมาจึงตกแก่บุคคลผู้ประสงค์ ปืน นั้นๆ
การแก้ปัญหาปืนแพง.....(ฝัน).....
1) รัฐบาลตระหนักถึงความเป็นจริง ในการป้องกันตนเอง ของประชาชน ว่า..ตำรวจ ทหาร ฯลฯ ไม่สามารถ
รักษาความปลอดภัยเป็นรายบุคคลได้ กระทั่งในภาพรวมของประเทศยังเป็นปัญหาที่บางจังหวัด/อำเภอ ภาคใต้
2) กระบวนการพิจารณา ป.3 ป.4 ป.12 ต้องไม่ผูกพันกับดุลยพินิจบุคคล แต่ ต้องจัดตั้งกลไกพิจารณาระดับท้องถิ่น
พิจารณาตัวบุคคล และมีเกณฑ์มาตรฐาน อยู่ที่การอบรม การทดสอบ การสอบ เมื่อผ่านแล้ว จึงได้ป.ต่างๆ
3) ได้ป.ต่างๆแล้ว ไม่ใช่ลอยนวล ต้องผ่านทดสอบ สอบ การกำกับดูแลพฤติกรรม ตลอดปี เขียนรายงานคณะกรรม
การท้องถิ่นทุกปี ถ้าไม่ผ่านต้องมีมาตรการรองรับ จะทำอย่างไรกับบุคคล กับปืน โดยไม่งกยึดเป็นของหลวง รวมทั้งแก้
กฎหมายริบเป็นของหลวง ให้โอกาสเป็นกรณีไป ในการให้อนุญาตกลับคืนได้ ยกเว้นอาวุธสงคราม ยุทธปัจจัย
อะไรทำนองนี้
4) แก้กฎหมายให้เหมาะสม กำหนดโทษให้สอดคล้อง ยกตัวอย่าง ถ้ามี ป.12 จะให้พกเปิดเผย เพื่อสะดวกตรวจสอบ
ถ้าออกมามุมนี้ ต้องพิจารณา พฤติกรรม ทำตัว"กร่าง"หรือเปล่า ถ้ากร่างโดนแจ้งริบ..ไปสอบใหม่อีก365วันฯลฯ คนแย่งปืน
จากบุคคลที่พกเปิดเผยตามกฎหมาย มีโทษสถานใด...
5) ปลดแอกปัญหาจำกัดโควต้าร้านปืน
6) ให้มีเกณฑ์มาตรฐาน บุคคลบรรจุกระสุนใช้เอง โดยแก้กฎหมายให้เอื้อ และประสานประโยชน์กับธุรกิจเอกชนให้ได้
อย่ามาคิดต่อนะ ว่าปืนสะดวก โจรจะเพิ่ม....คนละประเด็นกัน...
โจรยิงใครไม่เคยขออนุญาตยิง ไม่ต้องมาขอ ป.3 ป.4 ป.12
แต่ทำให้คนดี มีโอกาสปกป้องตนเอง ..... ให้โจรรู้ว่า...คนดีเขาป้องกันตนเองได้แล้ว....ระวังเจอสวน!
ก็บอกแล้ว ฝัน....ซื้อปืนแพงต่อไปเถอะพี่น้อง เราอยู่ในประเทศนี้ เลือกผู้แทนมาแล้ว...จะแทนเราหรือเปล่า!