เชื่อไหมครับว่า เคยมีอัยการท่านหนึ่ง ฟ้องขอให้ลงโทษในบทหนักตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ แล้วขอยึดของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา สู้กันถึงศาลฎีกา แต่ศาลท่านไม่เอาด้วย
ข้อเท็จจริงน่าจะเป็นอย่างงี้หรือเปล่าครับ ท่านผู้การสุพินท์
จำเลยคงพกพาอาวุธปืน
ซึ่งมีทะเบียนถูกต้องไปตามถนนสาธารณะ หมู่บ้านฯโดยไม่ได้รับอนุญาต อันมีความผิดตาม พรบ อาวุธปืน แต่พนักงานอัยการไม่อาจมีคำขอให้ริบปืนนั้นได้ตามมาตรา ๓๒ และ ๓๓ ของประมวลกฎหมายอาญา เพราะปืนเป็นปืนมีทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดตามมาตรา ๓๒ และปืนดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด ตามมาตรา ๓๓ เพราะพกพาไปเฉยๆ
แต่พอดีไปเปิดเจอความตามมาตรา ๓๗๑ ซึ่งระบุอำนาจให้ศาลริบอาวุธนั้นได้ ก็เลยลอง(ลักไก่) มีคำขอให้ศาลริบอาวุธปืนตามมาตรานี้ โดยตีความหมายของคำว่า"อาวุธ"ตามมาตรา ๓๗๑ ให้รวมถึงอาวุธปืนด้วย
แต่พอดีศาลตีความหมายของคำว่า "อาวุธ" ตามมาตรานี้ว่า หมายถึงอาวุธอย่างอื่น เช่นมีด ไม้ หรืออะไรที่เจตนาจะใช้เป็นอาวุธ ไม่รวมถึงอาวุธปืนด้วย จึงยกคำขอของพนักงานอัยการ
ป.อาญา มาตรา ๓๗๑ บัญญัติว่า " ผู้ใดพา
อาวุธไปในเมือง ....
ขออนุญาตเรียนถาม
อาวุธตามความหมายของมาตรานี้ น่าจะหมายถึงอาวุธอย่างอื่น เช่นมีด ไม้ หรืออะไรที่เจตนาจะใช้เป็นอาวุธมากว่า ซึ่งทำให้ศาลไม่สามารถใช้อำนาจการริบของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืน โดยอาศัยบทบัญญัติมาตรานี้ได้
แต่ถ้าอาวุธที่พาคืออาวุธปืน น่าจะเป็นความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน ซึ่งเป็นบทเฉพาะอยู่แล้ว ใช่ไหมครับ
