รุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่งจบคหกรรมแฟนไม่จบวิศวะเคบขับสองแถว-ขายประกัน ช่วงหลังหันมาทำรับเหมาก่อสร้างงานเข้าปีละ หลายสิบล้าน
ส่วนตัวผมจบแต่เป็นลูกจ้างรับเงินเดือน.....สรุปจบก็ดีไม่จบก็ดีแล้วแต่หัวคิดแต่ละคน
บางทีจบวิศวะแต่ไม่กล้าเสี่ยงไม่กล้าคิดนอกกรอบในการลงทุนอะไรใหม่ๆ....ก็อยู่แบบลูกจ้าง เช่นผม
ไม่จบวิศวะแต่กล้าเสี่ยงอาชีพใหม่ๆเพราะไม่มีอะไรต้องเสียเจ็งก็จบเอาใหม่ ประสบความสำเร็จก็รวยไป
เยอะแยะ...ดูเอาเถิดบางทีแค่เปิดร้านกาแฟรายได้ก็มากกว่าที่บอกว่า...จบนั่น จบนี่ ผมนับถือคนสู้ชีวิตมากกว่าครับ
ตัวอย่างชัดๆก็คุณตัน โออิชิไงครับ จากเปิดแผงขายหนังสือเล็กๆในบขส. วิ่งขายตามรถทัวร์ เฮียแกต่อยอดไปทำสตูดิโอถ่ายรูป ร้านอาหารญี่ปุ่น ซื้อขายที่ดิน มารวยหนักๆก็ตอนทำชาเขียว ลงทุนหลักร้อยล้าน เอาใบชามาชงใส่น้ำตาลขาย หลังสุดที่ได้ข่าวเฮียตันแกลงทุนเพิ่มธุรกิจอื่นๆอีกกว่า5พันล้าน
อ่านคำตอบนี้แล้วนึกขึ้นได้เรื่องชาเขียวนี่แหละราวๆ 9 หรือ10ปีที่แล้วตอนที่เมืองไทยยังไม่มีชาเขียวบรรจุขวดขายเลยผมมีโอกาสไปดูงานด้าน
เครื่องจักรที่จะเอามาผลิตรถชื่อดังยี่ห้อหนึ่งที่ญี่ปุ่นราวๆ 3 เดือนเมืองที่ไปอยู่คือเมืองคิริว อยู่ไม่ไกลจากเมืองโอตะที่โรงงานรถซูบารุตั้งอยู่
ผมพักบ้านเช่าที่เขาจัดหาให้อาหารการกินมื้อเช้าเย็นหาเองมื้อเที่ยงกินที่โรงงานจากการที่ต้องไปซุปเปอร์มาเก็ตบ่อยเพื่อซื้ออาหารผมสังเกตุ
เห็นว่าซุปเปอร์มาเก็ตตรงชั้นเครื่องดื่มจะมีชาทั้งเขียวและไม่เขียววางขายมากมายทั้งขวดเล็ก ขวดลิตร ขวดหลายลิตรและสังเกตุคนญี่ปุ่นเองในโรงงาน
เขาจะดื่มชาพวกนี้กันแทบแทนน้ำโดยซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ตยี่ห้อตามตนชอบรวมทั้งที่เตรียมมาเองจากบ้านใส่ขวดกันมาส่วนคนไทยที่ไปก็ไม่มีใครดื่มชา
ถนัดน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆตามตู้หยอดเหรียญมากกว่า ผมเองเคยยืนมองชาเขียวตามซุปเปอร์มาเก็ตและยังคิดว่าชาเขียวกับเมืองไทยคงไปไม่รอดเอาไปขายคง
ไม่มีใครซื้อกินเพราะภาพที่ผมรับรู้ในสมองคือผมเห็นเฉพาะครอบครัวไทยเชื้อสายจีนเท่านั้นที่ดื่มชาคนทั่วไปไม่ แล้วจะขายใคร
แต่นั่นแหละคนเราเห็นภาพไม่เหมือนกันเพราะคุณตันเห็นภาพที่ผมไม่เห็นเขาทำให้สิ่งไม่น่าเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นในเมืองไทยนั่นคือคนไทยทุกเพศทุกวัย
หันมาดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน(ไม่เป็นเกลียว) นั่นแหละคนที่กล้าคิดแตกต่างทำให้ผมได้คติอีกอย่างหนึ่งว่า ความคิดหนึ่งอาจไม่เข้าท่าไม่
ถูกต้องในสมัยหนึ่งแต่เมื่อเวลาเปลี่ยนความคิดเดิมอันนั้นก็อาจกลายเป็นสิ่งที่เข้าท่าขึ้นมาก็ได้
