ประกาศใช้แล้วครับ พี่ที่ผมเคารพท่านหนึ่ง โดนจำคุกที่เรือนจำบางขวาง แต่ได้รับการอภัยโทษเนื่องจากเป็นนักโทษชั้นดี ในระหว่างนั้นพี่แกก็เรียนสุโขทัย นิติศาสตร์จนจบการศึกษา...
ก่อนนั้นแก่เคยไปขอสมัครเป็นสมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา เพื่อขอจดทะเบียนเป็นทนายความ
แต่นางเนติฯ ไม่รับเป็นสมาชิกเพราะเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน......
----------------------------------------------------
แต่ว่าเมื่อพิจารณาจาก มาตรา ๔ ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ และได้พ้นโทษไปแล้ว ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ และหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัตินี้ ตอนท้าย"เพื่อให้ไม่ถูกพิจารณาเพิ่มโทษหรือถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นๆ ต่อไปด้วย" แสดงว่า พระราชบัญญัตินี้เพียงให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องโทษ
จำคุกในความผิดที่ได้ทำมาก่อน แต่ไม่ได้ถือว่าผู้นั้นไม่ได้เป็นผู้ทำความผิด ในความผิดที่ถูกลงโทษมา
ซึ่งส่งผลอย่างไร ในกรณีที่บุคคลหนึ่งเคยต้องคำพิพากษาลงโทษจำคุกมาก่อนในความผิดหนึ่ง แล้วได้กระทำความผิดใดๆ อีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ หรือภายในระยะเวลา ๕ปีนับแต่วันพ้นโทษ หากศาลจะพิจารณาลงโทษจำคุกในครั้งหลังอีก ก็ให้ศาลเพิ่มโทษจำคุกอีกหนึ่งในสามของโทษที่จะลง (มาตรา ๙๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา) ถ้าความผิดที่ถูกลงโทษครั้งแรกและที่ถูกดำเนินคดีครั้งหลังเป็นความผิดเดียวกัน อีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ หรือกระทำผิดซ้ำอีกภายในกำหนด ๓ ปีนับแต่วันพ้นโทษ ศาลจะเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่ง ของโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้น (มาตรา ๙๓ แห่งประมวลกฎหมายอาญา)
เช่น นาย ก. ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ๓ ปี ในข้อหาลักทรัพย์ เมื่อพ้นโทษออกมา กลับมาทำผิดลักทรัพย์ซ้ำอีก ในคดีหลังนี้ศาลพิจารณาแล้ว จะลงโทษจำคุกนายก. อีก ๓ ปี กฎหมายจึงกำหนดให้ศาลต้องเพิ่มโทษบุคคลนั้นให้อีกหนึ่งในสามของโทษที่จะลงในความผิดครั้งหลัง ก็คือ ๑ ปี หกเดือน ดังนั้นศาลจะต้องลงโทษจำคุก นาย ก. ในครั้งหลัง ๔ ปี หกเดือนนั้นเอง
แต่เมื่อมีพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่า ผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆมาก่อน ดังนั้น ถ้านายก. ถูกจำคุกและพ้นโทษมาก่อนวันที่
ในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ แต่กลับมาทำผิดฐานลักทรัพย์ ในเดือนเมษายน ๒๕๕๑ จึงส่งผลให้ศาลจะพิพากษาเพิ่มโทษนาย ก. ตามมาตรา ๙๒ และ ๙๓ ไม่ได้ คงทำได้เพียงลงโทษจำคุกนาย ก. ตามอัตราโทษปกติของความผิดนั้น
ดังนั้น เมื่อพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ พี่เขาจึงกำลังขอสมัครเป็นสมาชิกใหม่ครับ เพราะในคุณสมบัติของผู้สมัคร ต้องไม่เคยถูกลงโทษถึงที่สุด
ให้จำคุกโดยคำพิพากษาของศาลมาก่อน ซึ่งผลของพระราชบัญญัตินี้ทำให้พี่ที่เคารพของผม ถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกมาก่อนนั้นเอง แต่ยังถือว่ายังเป็นผู้กระทำความผิดอาญา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาอยู่ดีครับ
--------------------------------------------------------
ส่วนนี้คือเหตุผลหนึ่ง ในส่วนของข้าราชการครับเรื่อง พระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา
ผู้เขียนเห็นว่า มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจำจำนวนหนึ่งในสังกัด ที่ถูกลงโทษทางวินัยเพราะกระทำผิดวินัย จนถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษทางวินัย ทั้งที่ถูกลงโทษวินัยไม่ร้ายแรง เช่น ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน หรือที่ถูกลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง เช่น ปลดออก ไล่ออก จากราชการไปแล้ว จะได้รับการล้างมลทิน เนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นมหามงคลกาลอันสำคัญยิ่งได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทิน ให้แก่บรรดาผู้ที่ถูกดำเนินการทางวินัย ในกรณีกระทำผิดวินัยซึ่งผู้บังคับบัญชา ได้พิจารณาสั่งยุติเรื่อง หรืองดโทษก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้ผู้นั้น ไม่ต้องถูกพิจารณาเพิ่มโทษหรือถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นๆต่อไป
แต่ยังเป็นที่สงสัยในหมู่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจำว่า ผู้ใดที่ได้รับการล้างมลทินแล้วถือว่าผู้นั้นไม่ต้องรับผิด ใช่หรือไม่ เช่น ผู้ถูกลงโทษลดขั้นเงินเดือนจำนวน ๑ ขั้น ก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เมื่อบุคลผู้นั้นได้รับการล้างมลทินแล้ว จะได้รับเงินเดือนในขั้นเดิมเหมือน ก่อนถูกลงโทษลดขั้นเงินเดือน ใช่หรือไม่
ผู้เขียนขอเรียนว่า ไม่ใช่ เพราะเหตุว่าการล้างมลทินเป็นเพียงการล้างโทษ แต่ไม่ใช่เป็นการล้างความผิด ดังนั้น ผู้ใดที่ได้กระทำผิดวินัยจนถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษจะต้องได้รับโทษตามความผิดนั้น ส่วนการล้างมลทินคือให้ถือเสมือนหนึ่งว่าบุคคลผู้นั้นไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยมาก่อน
ดังนั้น อาจจะยังมีผู้ที่ติดใจสงสัยใคร่รู้อีกว่า หากเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้ที่ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษไล่ออก หรือปลดออกจากราชการไปแล้ว ก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ นั้น จะได้รับสิทธิประโยชน์อันใดจากพระราชบัญญัติล้างมลทินฉบับนี้ ผู้เขียนจึงขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้ว่า สิทธิประโยชน์ที่บุคคลผู้นั้นจะได้รับจากพระราชบัญญัติล้างมลทินฉบับนี้ ก็คือ บุคคลผู้นั้นสามารถใช้สิทธิกลับเข้ามารับราชการใหม่ ได้อีกตามกระบวนการสรรหาบุคคลเข้ารับราชการโดยมิเป็นการต้องห้ามตาม กฎ ก.ค.ศ.
อมราวรรณ นิติกร ๘ ว ผู้เขียน ที่มา
http://www.kan2.go.th/nitikan/nitikan_01.html