ผมเห็นเหมือนและเห็นต่างจากนายสมชายไปบ้าง

ประเด็นที่เห็นเหมือนคือ ให้พกพาปืนเมื่อ "มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน" เท่านั้น
ประเด็นที่เห็นต่าง คือ ผมเห็นว่าความผิดนี้ สำหรับคนเจตนาสุจริตเป็นเรื่องเล็กน้อยจิ๊บจ๊อย
ผมมีอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สิน ไม่ได้เอาไปข่มขู่คุกคามใครหรือไปก่ออาชญากรรม
ถ้าจะผิดก็เพราะกฎหมายเขียนให้ผิด ผมไม่ได้ทำอะไรผิดทำนองคลองธรรม
แต่ผมจะรู้สึกผิดและไม่อาจให้อภัยตัวเอง......
หากตกอยู่ในสถานะการณ์ ที่ไม่สามารถต่อสู้เพื่อตัวเองและบุคคลอันเป็นที่รักให้ รอด-ปลอดภัย ได้ ต่างหาก

คิดอย่างนี้แล้วจะสบายใจ ว่าอะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด
กฎหมายนั้นเปิดโอกาสให้คนสุจริต ได้มีโอกาสปกป้องตัวเองตามสมควร เพียงแต่ศึกษาให้ถ่องแท้ เตรียมการให้พร้อมให้ดี
อ่อนน้อมต่อจนท.ที่เข้าใจ แต่ไม่ศิโรราบให้พวกฉกฉวยประโยชน์ใช้อำนาจมาตบทรัพย์ฉ้อฉล
กฎหมายห้ามการพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ก็อย่าทำ เว้นแต่ "มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน"
ซึ่งถ้าจำเป็นถึงขั้นนี้จริง ก็ควรกลัวอย่างอื่นมากกว่ากลัวจนท.เจออาวุธ
เมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ นั้น ถือว่าจนท.มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
คนเดินดินกินข้าวแกง ไม่มีโจทก์ตามล่าตามล้าง ถ้าหูไวตาไวเลี่ยงที่อโคจรไว้ ก็น่าเอาตัวรอดปลอดภัยได้
ดังนั้นถ้ายังจำเป็นไม่ถึงขั้นก็อย่าไปพาอาวุธ เอาแค่ ขนย้าย-เคลื่อนย้าย ก็พอ

พ้น "เมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ" เมื่อถึงที่ของเรา หรือที่ที่เจ้าของที่เขาอนุญาต (หรือไม่ได้บอกว่าไม่อนุญาต )
นั่นคือถึงเวลาต้องดูแลตัวเอง
คนร้ายถ้าร้ายจริงเป็นขบวนการ มีการเคลียร์ทาง เคลียร์ด่าน ไม่เอาตัวไปติดบ่วง ..... ที่โดนๆกันคือคนหน้าจืด(ไม่มีสี)แบบผม

กล่าวยาวยืดไปก็คงไม่ดี

ผมคิดว่า คนมีปืน ต้องรู้กฎหมายปืน รู้ถูกรู้ผิด กล้า และมีความพร้อมรับสถานการณ์

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านจขกท. ผ่านเรื่องราว ไปได้ด้วยดีครับ