เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 30, 2025, 06:05:46 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการแคะหัวกระสุน...  (อ่าน 11418 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
chan17-รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 101



« ตอบ #30 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2008, 08:39:43 PM »

วิธี ง่ายๆ
คุณ NaiMai  เคยแนะนำไว้
 รูปสองเอาคีมตัดสายไฟจับแบบนี้ครับ แล้วเอาตรงจุดหมุนของคีมเคาะไปกับหัวฆ้อน แรง ๆ ครับ ไม่ต้องกลัวลั่น สองสามทีเดี๋ยวหัวกระสุนก็หลุดออกมาครับ
บันทึกการเข้า
Twitter 125
Hero Member
*****

คะแนน 155
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1345



« ตอบ #31 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2008, 08:44:04 PM »

 Smiley ได้ความรู้และวิธีการแคะเอาหัวกระสุนออกมากมาย.หลากวิธีดีครับ
กระทู้นี้ ขอชมเชย ว่า.  เยี่ยม ( เยี่ยม )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 11, 2008, 09:36:26 PM โดย เบี้ยหงาย. » บันทึกการเข้า

ถ้าอยากดัง.    ก็อย่าหวังความสงบ..
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #32 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2008, 08:49:43 PM »

แจ่มมาก....  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
Thanapong รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 365
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6828


ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่ากับผืนดินไทย ของคนไทย


« ตอบ #33 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2008, 09:34:52 PM »

ขอโทษก่อนแล้วกันครับ  Cry  Cry แต่ว่าแล้วตกลงผมผิดไหมครับเนี่ย พี่ - น้อง  Huh  Huh   Grin Grin Grin แต่ที่แน่ ๆ โดนหลายท่าน ........  ซะเละ เลย  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก 

ปล.หาเจอในเครื่องครับ
บันทึกการเข้า

Boatski
Sr. Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 614



« ตอบ #34 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2008, 09:39:42 PM »

ตอนผมเรียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ส้อม ก็ยังเป็น ส้อม อยู่ครับ แหะๆ
อาจารย์สอนผมดีมากเลย ท่านมักจะให้เขียนตามคำบอก ส่วนใหญ่มันจะเขียนไม่ค่อยถูกกัน(วิศวะก็อย่างี้แหละครับ) แต่ตอนนั้นผมดันเขียนถูกหมดทุกข้ออยู่คนเดียว
เดี๋ยวนี้เด็กนักเรียนเริ่มจะใช้ภาษาวิบัติมากขึ้น เพราะว่าติดจากการเล่นโปรแกรมสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต แล้วขี้เกียจพิมพ์ข้อความยาวๆ ก็เลยพิมพ์มันสั้นๆซะเลย
เช่น ครับ เป็น คับ คัฟ เป็นต้น ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆก็ติดเป็นนิสัย จนลืมคำที่ถูกไปน่ะครับ
การเขียนคำที่มาจากภาษาอังกฤษก็มักจะเขียนผิดกันบ่อยๆโดยที่เราไม่รู้ก็มีครับ
แบบคำว่า  internet เขียนเป็น อินเทอร์เน็ต reset เขียนเป็น รีเซท  จริงๆแล้วถ้าจะเขียนให้ถูก ตัว t ในภาษาไทย จะต้องแทนด้วย ต เท่านั้นครับ
ลองดูคำเหล่านี้ครับ
นะค่ะ สมุดโน๊ต เท่ห์ เห็นมั๊ย
ที่กล่าวมานี่เขียนผิดหมดเลยครับ
นะค่ะ จะออกเสียงเป็น นะขะ เขียนให้ถูกต้องเป็น นะคะ
สมุดโน๊ต ตั้งแต่เรียนมาตอน ป.๑ ม ม้า มันไม่สามารถออกเสียงเป็นเสียงตรีได้เพราะเป็นอักษรต่ำ จะมีแค่เสียงสามัญ เอก และ โท เท่านั้นครับ ที่ถูกต้อง ต้องเป็น สมุดโน้ต
เท่ห์ จริงๆแล้วคำว่าเท่ที่เติม ห์ นี่ มันจะต้องเป็นคำว่า บัตรสนเท่ห์ นะครับ
เห็นมั๊ย ผมว่าน่าจะเป็นภาษาพูดมั้งครับ คงจะมาจากคำว่า เห็นไหม แต่ถ้าจะเขียนให้ถูกก็ เห็นมั้ย เหตุผลเหมือนกับคำว่า สมุดโน้ต นั่นแหละครับ

คำที่มักเขียนผิดบ่อยๆก็เห็นจะมีคำว่า
สังเกต มักจะเขียนเป็น สังเกตุ
ศีรษะ มักจะเขียนเป็น ศรีษะ
เว็บบอร์ด มักจะเขียนเป็น เว็ปบอร์ด
เป็นต้น

ผิดถูกประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับ เรียนมาแล้วก็มีลืมได้เหมือนกัน  ไหว้ ไหว้

ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2546

Internet  (อินเทอร์เน็ต)
ขอบคุณครับ
สงสัยความรู้จะหายไปกับกาลเวลาจริงๆ
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #35 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2008, 10:41:53 PM »

ขอโทษก่อนแล้วกันครับ  Cry  Cry แต่ว่าแล้วตกลงผมผิดไหมครับเนี่ย พี่ - น้อง  Huh  Huh   Grin Grin Grin แต่ที่แน่ ๆ โดนหลายท่าน ........  ซะเละ เลย  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก 

ปล.หาเจอในเครื่องครับ

ไม่ผิดครับ  เยี่ยม  แต่ถ้าค้นย้อนยุคไป อาจเจอ ฆ้อน ก็เป็นได้  Wink

จาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒

ค้อน    น. ชื่อเครื่องมือที่มีหัวและด้าม สำหรับเคาะ ตอก ตี ทุบ, ลักษณนามว่าเต้า หรือ อัน; เครื่องมือชนิดหนึ่งใช้ในการจับปลา.

ภาษาไทยยังมีชีวิต และมีคำหลายคำที่เปลี่ยนการสะกดไปตามยุคสมัย
เวลาอ่านภาษาไทยในอดีต จะพบว่ามีอยู่มากที่ไม่ได้สะกดคำเหมือนที่เราใช้กันปัจจุบัน
 Smiley
บันทึกการเข้า
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #36 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2008, 01:55:55 AM »

       ทำเล่นๆ  Grin ถ้าจะถอดลูก 9 มม.ก็ใช้แหวนรองตัวเดียวกับ .38 แต่ต้องเอาแหวนปิ้นล๊อก เสียบร่องท้ายปลอกกระสุนก่อน ลูก .45 ทำเหมือนกันแต่เปลี่ยนแหวนที่รูใหญ่เท่าปลอก ลูก .22 ไม่กล้าเพราะชนวนริม ครับ  Grin

วิธี ง่ายๆ
คุณ NaiMai  เคยแนะนำไว้
 รูปสองเอาคีมตัดสายไฟจับแบบนี้ครับ แล้วเอาตรงจุดหมุนของคีมเคาะไปกับหัวฆ้อน แรง ๆ ครับ ไม่ต้องกลัวลั่น สองสามทีเดี๋ยวหัวกระสุนก็หลุดออกมาครับ

เอ้าพี่น้อง!!! มีคนตอบคำถามตรงประเด็นแล้วครับ จูบบบบ

สนใจกันหน่อย

อย่ามัวแต่ถกกันเรื่องภาษา ยิ้มีเลศนัย

จะว่าไปผมก็สะกดผิดเยอะไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

คนไหนที่ใช้การสะกดแบบโบราณ คาดว่าท่านคงเป็นระดับปูชนียบุคคล(ตามระดับอายุ) คิก คิก

ปล.จะเห็นว่าเรื่องภาษามาตอบบ่อยกว่าเรื่องปืน เพราะเรื่องปืน ไม่มีความรู้จะมาตอบ... หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
boon(เสือไบ)
ความประพฤติบกพร่อง จะทำให้บิดามารดาอับอาย
Hero Member
*****

คะแนน 532
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6011



« ตอบ #37 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2008, 05:55:11 AM »

เวลาเขียนผมก็ยังติดเขียนฆ้อน อยู่ครับ เขียนค้อนที่ไรเข้าใจว่าเขียนผิดทุกที
ลองเข้าไปหาในเน็ตก็เจอหลายเว๊ปเขียนแบบเดียวกัน Grin

หมายเลข 4 "ฆ้อนเทียบเสียง"

ฆ้อนเทียบเสียงขิมมักทำด้วยทองเหลือง ตรงด้ามสำหรับจับคว้านเป็นช่องสี่เหลี่ยมลึกเข้าไป

เล็กน้อยขนาดพอดีที่จะใช้สวมลงไปบนหัวหมุดยึดสายขิมได้ เวลาที่ต้องการเทียบเสียงก็ใช้ด้าม

ฆ้อนสวมลงไปบนหัวหมุดยึดสายขิมที่อยู่ทางด้านขวามือของผู้บรรเลงขิมแล้วบิดหมุนไปมาเพื่อ

ปรับความตึงของสายขิมตามที่ต้องการ ที่ใช้ทองเหลืองทำฆ้อนก็เพราะจะได้มีน้ำหนักพอที่จะ

ตอกย้ำหมุดให้แน่นติดกับเนื้อไม้ได้ดีนั่นเอง ขิมรุ่นเก่านั้นใช้หมุดยึดสายขิมแบบที่ตอกย้ำได้ เวลา

ที่หมุดหลวมก็จะใช้ฆ้อนนี้ตอกย้ำหมุดให้แน่น สายขิมจะได้ไม่คลายตัวง่าย

บันทึกการเข้า

If a man says he is not afraid of dying, he is either lying or is a Gurkha
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 1428
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6023



« ตอบ #38 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2008, 07:51:24 AM »

ใครเอาค้อนไปตีฆ้องจะโดนเฆี่ยน
บันทึกการเข้า

ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ  ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง   
เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง  ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น
ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #39 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2008, 08:25:58 AM »

เมื่อนายสมชายหัดเขียนหนังสือใหม่ๆ ชอบทะเลาะกับพนักงานพิสูจน์อักษรครับ... แต่เดี๋ยวนี้นายสมชายเป็นคนบอกให้พนักงานพิสูจน์อักษรไปเปิดพจนานุกรม... ฮา... (สงสัยเราแก่... จ๊ากซ์)

เรื่อง ซ่อม หรือ ส้อม...

ซ่อม = ซ่อมแซมสิ่งที่เสีย...
ส้อม = เครื่องมือกินอาหาร เสียบ ใส่ ปาก... อร่อย... ฮา
บันทึกการเข้า
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #40 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2008, 12:23:08 PM »

มาสอบถามเรื่องค้อนต่อครับ

ค้อน    น. ชื่อเครื่องมือที่มีหัวและด้าม สำหรับเคาะ ตอก ตี ทุบ, ลักษณนามว่าเต้า หรือ อัน; เครื่องมือชนิดหนึ่งใช้ในการจับปลา.

เรียนถามว่า เครื่องมือจับปลาที่มีชื่อเดียวกับอุปกรณ์ช่างนี้ มีหน้าตาเป็นอย่างไร? Huh

v
v
v
 http://www.ntbcoop.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=468602&Ntype=6

วิถี สังคม วัฒนธรรมท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี

 คลองลากค้อน..ทำไม ?


     เดินทางไป ๆ มา ๆ ตามเส้นทางถนน   ๓๔๕  และถนนหมายเลข  ๙  วงแหวนตะวันตกในเขตอำเภอบางบัวทอง  เป็นต้องผ่านคลองลากค้อน และทุกครั้งที่ผ่านก็เป็นต้องตั้งคำถามกับตนเองให้คิดค้นหาคำตอบอยู่เสมอว่า  คลองนี้ทำไม  จึงต้องลากค้อน แล้วคลองอื่นๆ ทำไมไม่ลากค้อนบ้าง อันเป็นปัญหาทำให้ต้องลงมือศึกษาสืบค้น ซึ่งได้ค้นพบสาระสำคัญความว่า....

     ...ตามสภาพภูมิศาสตร์ คลองลากค้อน  มีต้นคลองอยู่ที่คลองบางบัวทอง ปลายคลองอยู่ที่คลองตรง   ความยาวของคลองลากค้อน  ๘ กิโลเมตร ไหลขนานกับคลองลำรี  อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอบางบัวทอง  จังหวัดนนทบุรี  แบ่งอาณาเขตระหว่างตำบลลำโพกับตำบลละหาร   ชื่อคลองมาจากชื่อเครื่องมือจับปลาพื้นบ้าน ที่มีชื่อว่า ลากค้อน  ลักษณะเครื่องมือเป็นค้อน ใช้จับปลาโดยการลาก ในเวลากลางวัน ช่วงฤดูน้ำลด  ย่างเข้าฤดูแล้งประมาณเดือนกุมภาพันธ์  ซึ่งกุ้ง  ปลาจะรวมตัวกันอยู่ในลำคลองเป็นจำนวนมาก

     เครื่องมือจับปลา  ลากค้อน นี้ ส่วนที่เป็นค้อนทำมาจากไม้สะแก ขนาดลำต้นเท่าแขน เพราะไม้สะแกมีน้ำหนักมากเนื้อแข็งทนทาน  มีตาตามต้น ลิดตาออกให้เหลือแต่ต้น ตัดทอนเป็นท่อน ๆ ท่อนหนึ่ง ๆ มีความยาว ประมาณ  ๖๐ เซนติเมตร ควั่นหัวท้ายให้เป็นรอยเวลานำเชือกมาผูกจะได้ไม่หลุดง่าย  ใช้ประมาณ ๒๐ – ๓๐ ท่อน นำเชือกมาผูกหัวท้ายให้ห่างกันประมาณ  ๕๐  เซนติเมตร  เรียงร้อยต่อกัน ทำเหมือนสายสร้อย

     วิธีการใช้จับปลา ใช้ลาก วิธีการมีเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่หญิงชายก็ได้  แต่ส่วนมากจะเป็นชาย  ๒  คน อยู่กันคนละฝั่งคลองจับปลายเชือกลากค้อนไปพร้อม ๆ กัน ให้ค้อนครูดไปตามก้นคลอง เรียกคนลากค้อนว่า  วัว

     เมื่อวัวลากค้อนไปตามคลอง ก็จะมีเรือตามค้อนไปด้วย คนอยู่บนเรือ  ๒  คน คนท้ายพายเรือ ส่วนคนหัวเรือถือถ่อ  มีสุ่มใบหนึ่งวางอยู่ข้างๆ คอยสังเกตดูบนผิวน้ำที่ค้อนเคลื่อนที่ไปถ้าปลาใหญ่ เช่น ปลาช่อน ปลาชะโด หรือปลาดุก กระทบค้อนที่ลากปลาจะตกใจมุดเลน เรียกว่า ปลาคุด   พรายน้ำจะลอยพลั่งขึ้นมาเหนือน้ำ คนที่ยืนหัวเรือเห็นจะบอกให้เรือหยุด แล้วเอาถ่อปักลงไปใกล้ ๆ พรายน้ำ ที่ลอยพลั่งขึ้นมา แล้วเอาสุ่มครอบตรงพรายน้ำ ดำน้ำลงไปงมจับปลาในสุ่มขึ้นมา ปลาที่จับได้ส่วนมากเป็นปลาช่อนและปลาอื่นๆ ตัวขนาดใหญ่วันหนึ่ง ๆ จับได้ประมาณ  ๕๐ – ๖๐ ตัว แบ่งกันไปทำกิน  ที่เหลือก็ทำปลาร้า ปลาเค็มตากแห้งเก็บไว้กินในยามหน้าแล้ง

     ส่วนชาวบ้านคลองลำโพ มักบอกเล่าเรื่องคลองลากค้อนให้ลูกหลานฟังอยู่บ่อยว่า คลองลากค้อนมีงูแมวเซาอาศัยอยู่ชุกชุมมากนะ การเดินทางหรือไปจับกุ้งหอยปลาก็ให้ระวัง นั่นอาจะเป็นไปได้ว่า ต้องเป็นคลองที่มีสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาอาศัยอยู่อย่างชุกชุมมาก และได้มีการใช้เครื่องมือจับปลาลากค้อนกันอยู่บ่อยมาก จนกลายมาเป็นชื่อคลองลากค้อน มาตราบถึงปัจจุบันนี้....


ที่มา : สุปราณี หลักคำ . เล่าเรื่องเมืองแห่งความรื่นรมย์.กรุงเทพมหานคร: สมาพันธ์ ,2549.

v
v
v
http://school.obec.go.th/yamaha_lp/story/st36.html

ลากค้อน : กลวิธีล่าปลาจากความกลัว


     เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจคุยกันของกลุ่มชาวบ้าน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ต่างมุ่งหน้าไปยังหลงเหนือแหล่งหาปลาของชุมชนวังเลียบหมู่บ้านเลียบน้ำวัง หลง เป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลผิดทางของลำน้ำในฤดูน้ำหลาก โดยมีน้ำส่วนหนึ่งไหลแยกออกมาจากสายน้ำเดิม เหมือนกับว่าน้ำหลงทาง น้ำที่ไหลแยกออกมานั้นเซาะตลิ่งให้ลึกเข้าไปกลายเป็นแอ่งน้ำขัง น้ำในหลงนิ่งและลึก จึงเป็นแหล่งชุกชุมของปลานานาชนิด ณ หลงแห่งนี้อยู่เหนือหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงเรียกว่า หลงเหนือ
     ชาวบ้านที่นี่ล่าปลาเพื่อยังชีพ ปลาที่นิยมล่ามักเป็นปลาตัวใหญ่ ๆ เช่น ปลาช่อน , ปลาตะเพียน ,ปลาปีก เป็นต้น ยิ่งปลาที่ได้เป็นปลาสด ๆ รสชาติยิ่งอร่อยนัก ไม่ว่าจะนำมาย่าง ,ปิ้ง , ต้มส้ม, ห่อนึ่ง หรือแกงแคก็ตาม ทั้งนี้ แล้วแต่ฝีมือและความชอบของแต่ละคนไป
     ลุงเบิบ ชายกลางคนแห่งบ้านวังเลียบเล่าให้ฟังถึงกลวิธีที่แกนำใช้ล่าปลาในวันนี้ มีชื่อว่า "ลากค้อน"
     "ลากค้อน" เป็นวิธีล่าปลาเป็นทีม ยิ่งมีลูกทีมมากเท่าไร ความสนุกสนาน ความตื่นเต้นยิ่งเพิ่มขึ้นตามลำดับจากเสียงพูดคุยกัน และส่งเสียงดังยามจับได้ปลาตัวโตในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ การลากค้อนยังอาศัยการสังเกตธรรมชาติของปลาที่มักกลัวสิ่งแปลกใหม่ ที่มีสีขาว ๆ ชาวบ้านจึงได้คิดค้นวิธีการในการล่า จนเป็นที่เชื่อถือได้ และประสบความสำเร็จทุกครั้งที่ล่าปลา

     ค้อน หมายถึง ไม้ที่ตัดเป็นท่อน ๆ ขนาดและความยาวแล้วแต่ประโยชน์ของการใช้งาน เช่น แม่บ้านใช้ค้อนตีเส้นฝ้ายที่ปั่นแล้วนำไปแช่น้ำพร้อมกับข้าวเจ้าที่ต้มสุกตีเพื่อให้เส้นฝ้ายเหนียว ไม่ขาดง่าย ใช้ไม้เนื้อแข็งทำ เพราะแข็งแรง ทนทานกว่า เป็นต้น ส่วนค้อนที่ให้สำหรับล่าปลา นิยมทำจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้นุ่น ไม้ปอสา เพราะปอกเปลือกง่ายและมีสีขาว ค้อนล่าปลา มี      อุปกรณ์จำเป็นและวิธีการใช้ ดังนี้
     1. เชือก ใช้สำหรับมัดท่อนไม้
     2. ท่อนไม้(ค้อน) ปลอกเปลือกให้เห็นสีขาว ๆ ของเนื้อไม้ โดยตัดไม้ให้เป็นท่อน ๆ ความยาวท่อนละ 50 เซนติเมตร ผูกเชือกตรงปลายทั้งสองของท่อนไม้แล้วผูกท่อนไม้แต่ละท่อนให้ยาวติดต่อกัน เหลือเชือกไว้ตรงปลายของท่อนไม่ที่ผูกติดกัน ความยาวของท่อนไม้จะแล้วแต่ความกว้างของแม่น้ำ
     3. หลังจากผูกท่อนไม้แต่ละท่อนให้ยาวติดต่อกันแล้ว มีคนสองคนจับเชือกที่ผูกทั้งสองด้านของท่อน แล้วลากไปตามความกว้างของแม่น้ำ
     4. แห ใช้หลังจากลากฆ้อนไปตามน้ำแล้ว ปลาเมือเห็้นสีขาว ๆ จะกลัวและตกใจ เมื่อผู้ล่าสังเกตเห็นว่ามีปลาจะใช้แหทอดเมื่อปลาพากันกระโดดน้ำหนีด้วยความกลัวฆ้อนแต่ถ้าเป็นน้ำลึก สังเกตได้จากน้ำที่เป็นฟอง หรือเป็นสาย ถ้าเห็นปลาตัวโต ๆ ชาวบ้านจะใช้แหทอดซ้อน ๆ กันครั้งละ 2 - 3 ปาก เพื่อไม่ให้ปลาหลุดหรือหลบหนีไปได้

     ลุงเบิบและพรรคพวกลากฆ้อนไปมาที่หลงเหนืออยู่หลายรอบ จับได้ปลาตัวโตหลายตัว ทั้งปลาตะพียน ปลาปีก โดยเฉพาะปลาช่อนขนาดตัวละประมาณ 1 กก. เกือบสิบตัว ถามลุงเบิบว่าจะนำไปทำอะไรกินในวันนี้ ลุงเบิบบอกว่าจะนำไปทำ อ็อกปลา ส่วนที่เหลือจะหมักเกลือตากแห้งไว้ปิ้งกินกับข้าวเหนียวเวลาไปนา
     อ็อกปลา เป็นอาหารอร่อยอีกอย่างของชาวบ้าน มีกรรมวิธีในการปรุง ดังนี้
     1. ปลาที่หามาได้นำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดตามความพอใจ
     2. นำเครื่องปรุง ได้แก่ พริกแห้ง ,บ่าแข่น ,หอมแดง , กระเทียม , ขมิ้น , ตะไคร้ และเกลือมาโขลกรวมกันให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิและปลาร้าที่สับแล้วผสมไปด้วย
    3. ตั้งหม้อบนเตาไฟ ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย นำเครื่องปรุงที่ตำเสร็จแล้วใส่ในหม้อคนให้ละลาย ทิ้งไว้ให้เดือดสักพัก
    4. ใส่ปลาที่หั่นไว้ลงไปในหม้อที่มีเครื่องแกง ทิ้งไว้ให้สุก ใส่ใบก้อมก้อ(แมงลัก) เพื่อให้มีกลิ่นหอม
เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย ได้อ็อกปลาที่มีน้ำขลุกขลิก เนื้อนิ่ม ๆ ของปลา รสชาติเผ็ดเค็มของเครื่องปรุง สีเหลืองน่ารับประทานของขมิ้น ได้กลิ่นหอมสมุนไพรจากใบก้อมก้อ กินกับข้าวเหนียวพร้อมผักสด เช่น หัวปลี ,ยอดกระถิน ,ยอดมะกอก ,ใบคาวตอง ,ผักไผ่หอมด่วน หรืออื่น ๆ แล้วแต่จะเก็บได้จากข้างบ้าน เป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้อาหารมื้ออร่อยได้เป็นอย่างดี

 
ปล.ชอบกระทู้นี้จัง เรื่องเล็กๆ แต่รู้หลายเรื่องมากมายดีครับ ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน ที่ช่วยกันนอกเรื่อง คิก คิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2008, 04:25:54 PM โดย AkNaRiN~* » บันทึกการเข้า
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #41 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2008, 02:08:27 PM »

เพิ่มเติมเรื่องค้อนเทียบเสียงครับ

ขิมในปัจจุบันไม่ใช้ค้อนเทียบเสียงแล้วเพราะตอกบ่อย ๆ หลักมันยุบไม่เท่ากันในที่สุดก็ยุบจนตอกไม่ได้ นอกจากนี้การใช้หลักตอกยังคลายง่าย

ปัจจุบันใช้เกลี่ยวขันเข้าเนื้อไม้โดยใช้ประแจบ๊อกซ์ขนาด 1/4 นิ้วหรือ 2 หุนครับ ใช้ในทั้งขิม 7 หย่องรุ่นแบบผีเสื้อสายทองเหลือง และขิมสายสเตนเลสขนาด 7 หย่อง  9 หย่อง และ 11 หย่อง ครับ

อาจยังมีบางแห่งทำแบบตอกอยู่ เวลาซื้อให้ดูที่หลักด้านขวา หากเป็นแบบใช้ประแจจะต้องมีเกลียวที่หลักปรับเสียง หากเรียบ ๆ และเรียวจะเป็นแบบเก่า

ปัจจุบันอีกเช่นกัน ขิมสายของไทยพัฒนาเป็นสายสเตนเลส 9 หบ่อง ซึ่งได้เสียงไม่อับเหมือน 7 หย่องสายทองเหลือง และสายสเตนเลสก็ขาดยากกว่า แต่ความยาวจากซ้ายถึงขวาต้องมากกว่าแบบสายทองเหลืองจึงได้เสียงตามบันไดเสียงเพียงออ และ B#  หากทำ 7 หย่องจะดูยาวกว่าปกติไม่สมส่วน จึงขยายเป็น 9 หย่อง ซึ่งจะได้เสียงสูงเพิ่มอีก 2 เสียงไทย
 
บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
Thanapong รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 365
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6828


ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่ากับผืนดินไทย ของคนไทย


« ตอบ #42 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2008, 08:25:21 PM »

วิธี ง่ายๆ
คุณ NaiMai  เคยแนะนำไว้
 รูปสองเอาคีมตัดสายไฟจับแบบนี้ครับ แล้วเอาตรงจุดหมุนของคีมเคาะไปกับหัวฆ้อน แรง ๆ ครับ ไม่ต้องกลัวลั่น สองสามทีเดี๋ยวหัวกระสุนก็หลุดออกมาครับ


ลองแล้วครับ ลูกที่มีน้ำหนักหัวน้อยเอาออกยากครับ

เพิ่มเติมเรื่องค้อนเทียบเสียงครับ

ขิมในปัจจุบันไม่ใช้ค้อนเทียบเสียงแล้วเพราะตอกบ่อย ๆ หลักมันยุบไม่เท่ากันในที่สุดก็ยุบจนตอกไม่ได้ นอกจากนี้การใช้หลักตอกยังคลายง่าย

ปัจจุบันใช้เกลี่ยวขันเข้าเนื้อไม้โดยใช้ประแจบ๊อกซ์ขนาด 1/4 นิ้วหรือ 2 หุนครับ ใช้ในทั้งขิม 7 หย่องรุ่นแบบผีเสื้อสายทองเหลือง และขิมสายสเตนเลสขนาด 7 หย่อง  9 หย่อง และ 11 หย่อง ครับ

อาจยังมีบางแห่งทำแบบตอกอยู่ เวลาซื้อให้ดูที่หลักด้านขวา หากเป็นแบบใช้ประแจจะต้องมีเกลียวที่หลักปรับเสียง หากเรียบ ๆ และเรียวจะเป็นแบบเก่า

ปัจจุบันอีกเช่นกัน ขิมสายของไทยพัฒนาเป็นสายสเตนเลส 9 หบ่อง ซึ่งได้เสียงไม่อับเหมือน 7 หย่องสายทองเหลือง และสายสเตนเลสก็ขาดยากกว่า แต่ความยาวจากซ้ายถึงขวาต้องมากกว่าแบบสายทองเหลืองจึงได้เสียงตามบันไดเสียงเพียงออ และ B#  หากทำ 7 หย่องจะดูยาวกว่าปกติไม่สมส่วน จึงขยายเป็น 9 หย่อง ซึ่งจะได้เสียงสูงเพิ่มอีก 2 เสียงไทย
 

ขอบคุณครับ ทุกท่านเลยครับ
บันทึกการเข้า

Mango
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 352


"รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต"


« ตอบ #43 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2008, 02:57:55 AM »

ได้ทั้งความรู้เรื่องภาษกะเรื่องปืนเลยนะเนี่ย...
ตอนแรกตั้งใจจะถามแค่เรื่องกระสุนอย่างเดียว
เ้ป็นว่าได้ทั้งสอง...
บันทึกการเข้า
FORD-TECH-CHI-CHI รักในหลวง
ชาว อวป.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 102
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #44 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2008, 01:23:45 PM »

วิธี ง่ายๆ
คุณ NaiMai  เคยแนะนำไว้
 รูปสองเอาคีมตัดสายไฟจับแบบนี้ครับ แล้วเอาตรงจุดหมุนของคีมเคาะไปกับหัวฆ้อน แรง ๆ ครับ ไม่ต้องกลัวลั่น สองสามทีเดี๋ยวหัวกระสุนก็หลุดออกมาครับ

แต่ที่ผมลองทำวิธีนี้ดูปรากฎว่า พอเริ่มเคาะ ลูกกระสุนมันเริ่มเลื่อนออกๆๆ ครับ เลยทำไม่ได้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.105 วินาที กับ 21 คำสั่ง