ทำอย่างไร....เมื่อปืนของเรา ไปอยู่ที่คนอื่น โดยไม่ได้ตั้งใจและเต็มใจ

[aka11"รักในหลวง"]

ปืนกระบอกนี้เป็นของเพื่อนซี้ของผมครับ   ได้จองอาวุธปืนสวัสดิการ ของกรมการปกครอง   และได้รับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  รุ่น CZ   75 D COMPACT    สีดำ    ตั้งแต่   ต.ค   50   พอมาต้นปี 51  ปืนของเพื่อนผมนั้น ได้หายไปจาก...ลิ้นชักหน้ารถยนต์   พร้อมกับ เงินสดอีก  30.000  กว่าบาท  ในระหว่างจอดรถเพื่อลงไปซื้อของที่ตลาด  มารู้ตัวอีกทีว่า..ปืนและเงินหายก็กลับมาถึงบ้านแล้ว   เพื่อนผมเขาเสียดายปืนมากเพราะเพิ่งจะซื้อมาใหม่ ก็เลยต้องทำใจ  และไปแจ้งความที่โรงพักและแจ้งนายทะเบียนที่อำเภอท้องที่ ......ต่อมาสักระยะหนึ่ง..ได้มีเพือนร่วมงาน รุ่นน้องของเพื่อนผม มาคุยว่าพี่ชายเขา  ที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน  ได้ซื้อปืน CZ  มาใหม่  ทีเเรกก็ไม่ได้เอะใจอะไรและ เพื่อนผม  ไปถาม ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านคนนี้ก็ได้รับการยืนยันว่า....แกได้มาใหม่จริง เพราะ  ภรรยาแกทำงานอยู่ที่เดียวกับเพื่อนผม  แต่อย่างว่าครับ  ผู้หญิงคงไม่รู้อะไร  มากหรอกครับ เกี่ยวกับเอกสารต่าง ๆที่ต้องมีคู่กับปืน  และอยู่มาวันหนึ่ง...เห็นผู้ใหญ่บ้านคนนี้...พกอาวุธปืน ออกไปปฎิบัติหน้าที่ ในวันนั้น เป็นวันเลือกตั้งของท้องถิ่นนั้นๆ  ครั้งแรกผ่านไป.............ต่อมาครั้งที่ 2 ในระยะเวลาห่างกันพอประมาณ....ก็เห็นพกอาวุธปืนกระบอกนี้อีก  ในวันเลือกตั้งของท้องถิ่นนั้นๆอีก.........เอาล่ะสิคราวนี้....พอเห็นด้ามปืน...มันรู้สึกมีอะไรมาสะกิดใจ เพราะมันเป็นปืน CZ........เพื่อนผมก็เลยกลับมาทบทวนเหตุการณ์ ตั้งแต่วันที่ปืนหายแล้วมันมาเล่าให้ผมฟัง....ก็ได้ความว่า.....วันนั้นก่อนไปตลาด ได้นั่งดื่ม...เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  แล้วเปิดเพลงในรถยนต์ฟัง   แบบว่าโชว์เครื่องเสียง ในบริเวณหน้าบ้านพักโดยเปิดประตูรถไว้ทั้ง 2ข้าง  ในก็มีเพื่อนร่วมวงด้วย 3-4 คน  โดยหนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องคนนี้อยู่ด้วย   โดยเช็คประวัติแล้วว่า..มีนิสัยมือไวใจเร็ว   ก็เลยสงสัยว่าน่าจะเป็นคนขโมยไป  ในตอนที่เข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีหลักฐาน........และได้คาดเดาต่อไปว่า......มันน่าจะเอาปืนไปขายต่อผู้ใหญ่บ้าน คนดังกล่าว  แต่ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ค่อนข้างมีอิทธิพล  ในหมู่บ้านนั้น.....และเพื่อนผมได้ทำการตรวจสอบย้อนหลังกับที่ว่าการอำเภอ  ไปประมาณ 2-3ปี  ว่าผู้ใหญ่บ้านคนนี้ได้มีการมาขอใบอนุญาต ป.3  ในการซื้อปืนของสวัสดิการกรมการปกครอง หรือไม่  และมีการ ขออนุญาต ออก ป.4  หรือไม่   ก็ได้ความว่า   ไม่ได้มีการขออนุญาตใดๆทั้งสิ้น.......และผู้ใหญ่บ้านคนนี้ได้มีอาวุธปืนซึ่งเป็นของตนเองขนาด 9 มม. ของ นอริงโก้ อยู่แล้วด้วย   และได้ตรวจสอบไปที่  วังไชยา  ว่ามีการตัดโอนอาวุธปืน ของบุคคลผู้นี้หรือไม่   สรุป  ว่า ไม่มีการตัดโอนใดๆทั้งสิ้น    แล้วปืนกระบอกที่ผู้ใหญ่บ้านคนนี้พก   มันมาได้อย่างไร..............และได้ปรึกษา นายตำรวจ ท่านหนึ่งไว้แล้ว   สิ้นเดือนนี้รู้ผล......  ว่าปืนนั้น มีใบอนุญาต  และใช่......ของเพื่อนผมหรือไม่.........                     พี่ๆ และสมาชิก  อวป.  มีความคิดเห็น  และข้อแนะนำ อย่างไรบ้างครับ.......

[ชยันโต]

แจ้งตำรวจให้ทราบสิครับ

[yod - รักในหลวง ครับ]

ครับ  แจ้งตำรวจ
อาจจะได้ทั้งแก๊งค์
หรืออาจจะตัดตอน

งานนี้ อาจจะวิ่งขาขวิด
หรืออาจจะมีการล้างตา

[pee308+รักในหลวง+]

 เศร้าใจแทน ครับ
 แจ้งตำรวจ ไว้ก่อนครับ

[NUTAPHOL]

ก็คงต้องแจ้งความครับ...และถ้าเกิดปืนกระบอกที่ผู้ใหญ่บ้านพกนั้นเป็นปืนของเราจริงเกิดนำไปก่อเหตุเราจะยุ่งครับ.....

[vanrat]

พี่รีบไปเอาคืนเถอะ ปืนชื่อเพื่อนพี่แล้วเห็นบอกผู้ใหญ่มีอิทธิพล เกิดเด็กในซุ้มมันมีธุระต้องใช้แกหยิบให้ไปต่อไปเค้าตรวจหัวกระสุนแล้วปืนพี่จะมีประวัติเปล่าๆ

[๐๐๓]

ได้แจ้งความทั้งที่โรงพัก และกับนายทะเบียนไว้แล้ว ก็คงสบายใจไำด้ในเรื่องผลกระทบหากปืนถูกนำไปใช้ก่อเหตุ

ส่วนเรื่องการติดตามเอาคืน โดยหลักแล้ว ทรัพย์สินของเราเราย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืน(โดยชอบด้วยกฎหมาย)ได้ทุกเมื่อครับ

แต่วิธีการติดตามเอาคืน รอพี่ๆ ที่มีความรู้เรื่องนี้ให้คำแนะนำอีกทีครับ

ขั้นแรก หาทางรู้ให้ได้แน่ๆ ก่อนว่า ปืนนั้นของเราจริงไหม

ถ้าจริง งานนี้สงสัยมีคนโดนหลายคนครับ

เอาใจช่วยครับ

[วุธ อุดร -รักในหลวง~]

รอฟังครับ

[somwangtw]

รู้อย่างนี้ ก็แจ้งตำรวจตรวจสอบ เร็วทีสุด ครับ ก่อนที่จะเปลี่ยนมือ ไปอีก

(เจ้าของปืนใจชื้นมาหน่อย) รู้ว่าปืนยังอยู่

ขอให้ได้คืน นะครับ แล้วลากคอหัวขโมย เอาเรื่องถึงที่สุด

[พัทธ์--รักในหลวง--]

ขอเอาใจช่วยให้ได้ปืนคืนครับ.....อิทธิพลไม่อยู่เหนือกฎหมายครับ......ไม่เชื่อถามหน้าเหลี่ยมที่ลอนดอนได้ครับ

[หนวดหิน]

ปืนที่ผู้ใหญ่แกพกอยู่อาจจะผิด กม. แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นปืนของคุณครับ เรื่องนี้ต้องพิสูจน์กันให้กระจ่าง จะโดยทาง กม.หรือทางใดก็แล้วแต่ แต่ต้องดำเนินการโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นหมายเลขปืนอาจถูกขูด ลบ พอก ทำลาย ยากแก่การตรวจสอบครับ

[a lone wolf]

เพื่อนท่านเจ้าของกระทู้เป็นข้าราชการ (เพราะซื้อปืนสวัสดิการ)
รีบให้เพื่อนหาเจ้านายในหน่วยงานที่เป็นระดับใหญ่ของอำเภอ ขอความช่วยเหลือ ไปด้วยกันไปคุยกับผู้กำกับโรงพักในอำเภอ
บอกว่าสงสัยว่าปืนจะถูกโขมยแล้วนำไปขายต่อให้ผู้ใหญ่บ้านท่านนั้น ด้วยเหตุผลประกอบดังที่ท่านเล่ามา
ไปเงียบๆ อย่ากระโตกกระตากให้ทั้งโรงพักรู้กันหมด  ปิดห้องคุยครับ  เหตุที่เอาเจ้านายไปด้วยเพื่อให้ผู้กำกับท่านเกรงใจ เพราะเป็นข้าราชการผู้หลักผู้ใหญ่ในอำเภอด้วยกัน

ขั้นต่อไปคงต้องขอท่านผู้กำกับช่วยแนะนำว่าจะทำอย่างไร
มี 3 กรณี
- ผู้กำกับเอ็นดูผู้ใหญ่บ้านท่านนั้น แบบจะช่วยเหลือโดยไม่มองเหตุผล  ท่านคงไปบอกผู้ใหญ่ให้กำจัดปืนไปเสีย  งานนี้ซวย
- ผู้กำกับเอ็นดูผู้ใหญ่บ้าน แต่ต้องการให้เพื่อนท่าน จขกท ได้ปืนคืนแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น  ท่านคงเรียกผู้ใหญ่บ้านมาเจรจา  งานนี้มีลุ้น อย่างน้อยเรื่องราวก็จะเป็นที่รู้กันทั้งผู้กำกับ  และผู้ใหญ่บ้านก็จะเกรงใจว่าอีกฝ่ายและตำรวจใหญ่ก็รู้
- ผู้กำกับตรงไปตรงมามาก  ขอหมายศาลไปค้นบ้านผู้ใหญ่  น่าจะได้ปืนคืน

ประเด็นที่อยากให้เงียบที่สุด ก็เพื่อผู้ใหญ่บ้านท่านไม่กำจัดปืนไปจากบ้าน  ถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสได้ปืนคืนน้อยมาก

[khetseri]

 ถ้าลบเลขแล้วทางเจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจสอบได้ไหมครับ โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะลบเลขแล้วนะครับ

[yod - รักในหลวง ครับ]

 ถ้าลบเลขแล้วทางเจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจสอบได้ไหมครับ

มีน้ำยาเคมี ซัดดูได้ครับ

[หนวดหิน]

ตรวจสอบได้ครับ เจ้าหน้าที่วิทยาการฯจะใช้กรดกัดส่วนที่ถูกขูดลบออกไป เนื้อเหล็กส่วนที่ถูกตอกเป็นเลขนั้นจะมีมวลหนาแน่นกว่า ทำให้กรดกัดกร่อนได้น้อยกว่า จึงเกิดเงาพิมพ์ของตัวเลขเดิมให้เห็น วิธีการนี้ใช้กับการตรวจอาวุธปืนหรือตัวถังรถยนต์มานาน แต่ถ้าพอกทับด้วยการเชื่อมอันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ที่แน่ๆก่อนที่จะมีการตรวจด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฏหมาก่อนครับ