เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 29, 2025, 07:04:22 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาวุธปืนของกลาง  (อ่าน 7144 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2008, 01:29:01 PM »



อาวุธปืน ที่เกี่ยวกับคดีอาญา อาจแยก เป็นกรณี ได้ ตามนี้

๑. เจ้าของอาวุธปืน มี ป.๔ นำอาวุธปืนกระบอกนั้นไปใช้ในการกระทำผิดอาญา พนักงานอัยการ จะมีคำขอให้ศาลริบทุกคดี.. ถ้าศาลวินิจฉัย ว่าผู้นั้่นกระทำความผิด ศาลจะต้องริบอาวุธปืน เกือบทุกคดี

๒. อาวุธปืน ไม่มีทะเบียน .. หรือถูกลบเลข จนตรวจสอบเลขทะเบียนไม่ได้ จะถือว่าเป็นปืนไม่มีทะเบียนเป็นปืนเถือน ศาลจะต้องริบ ทุกคดี..   

๓. อาวุธปืน ที่เจ้าของ ตาม ป.๔ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในคดีอาญา.
อาจสูญหาย เพราะถูกลักโขมย ไป..  นั้น

เมื่อเป็นคดี พนักงานสอบสวน จะมีหมายเรียกไปยังเจ้าของตาม ป.๔ เพื่อสอบท่านไว้เป็นพยาน ..  
เมื่อศาลพิพากษาจะไม่สั่งริบ แต่จะมีคำสั่งให้คืนอาวุธปืน แก่เจ้าของตาม ป.๔

ฉะนั้น เจ้าของอาวุธปืนย่อมต้องทราบดีอยู่แล้ว  ต้องคอยติดตามผลคดี เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว
ท่านสามารถ คัดสำเนาคำพิพากษาและไปติดต่อ พนักงานสอบสวน เพื่อขอรับคืน


ระหว่างการดำเนินคดีอาวุธปืนของกลาง จะอยู่ในความดูแล เก็บรักษาของพนักงานสอบสวน.
เมื่อเสร็จคดี จะมีระเบียบวิธีการภายในของ จนท.ที่จะส่งอาวุธปืนนั้นไปยังส่วนงานที่รับผิดชอบต่อ  
เพื่อที่จะนำอาวุธปืนที่ศาลริบนั้น ไปทำลายทิ้ง..ไม่ใช่นำมาเปิดประมูล ..  

และตาม พรบ.อาวุธปืนฯ ไม่เปิดช่องให้ นายทะเบียนฯ ออก ป.๔ ให้กับอาวุธปืนเหล่านั้น
จะเป็นไปตามที่ผู้การฯสุพินท์ บอกไว้ครับ . Smiley


เรียนถามครับว่าปืนของกลางจะไปเก็บไว้ที่ไหนบ้าง..
..และหากเจ้าของปืนที่ถูกโจรกรรม จะสามารถไปขอดูปืนของกลางได้หรือไม่ อย่างไรครับ..

จากที่บอกไว้ข้างต้น เจ้าของอาวุธปืน ตาม ป.๔ ต้องไปให้การเพื่อยืนยัน ให้ข้อเท็จจริง
ปฎิเสธความเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น..ท่านจะได้เห็นสภาพอาวุธปืนของท่าน ในชั้นสอบสวน แล้วครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า

พรชัย
Full Member
***

คะแนน 25
ออฟไลน์

กระทู้: 132



« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2008, 02:15:29 PM »

คร่าวๆก็จะนำมาเก็บไว้ที่พลาธิการตำรวจ แล้วมีการตั้งกรรมการในการทำลายเหมือนกับการทำลายยาเสพติด มีขั้นตอนที่เป็นไปตามระเบียบครับ(รายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะผมได้รับคำบอกเล่าจาก จนท ในพลาธิการมาอีกทีครับ)
เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่ห้องคดี ซึ่งมีหน้าที่เก็บรักษาอาวุธปืนของกลาง ป๋าแกบอกผมว่า แกมีหน้าที่โดยตรงในการเก็บรักษาและรวบรวมอาวุธปืนของกลาง
ในกรณีที่เป็นอาวุธปืนเถื่อนและมีคำสั่งของศาลสั่งให้ยึด แต่อีกกรณีหนึ่งในกรณีที่เป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องและมีเจ้าของมาแสดงตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ต้องคืนอาวุธปืนดังกล่าวให้กับเจ้าของไป เฉพาะคดีดังกล่าวได้มีคำพิพากษาจนถึงที่สุดแล้วนะครับ โดยเจ้าของต้องดำเนินการไปขอคัดคำพิพากษาของศาลมา อันนี้เพื่อให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเค้าได้เอาไว้ตรวจเป็นฐานในการคืนปืนของกลาง ผมขอแนะนำนิด
นะครับว่า ให้สำเนาไปให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีด้วยเลย จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะพาไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานหรือไม่งั้น
อาจจะทำบันทึกคืนของกลางให้เราเก็บไว้คนละชุด ส่วนเรื่องที่เจ้าของกระทู้ถามมานั้นป๋าแกบอกว่า ทาง สตช. จะมีหนังสือเวียนมาแจ้งบอกให้
หัวหน้าห้องคดีของ สน. แต่ละ สน. รวบรวมอาวุธปืนของกลางที่ศาลมีคำสั่งให้ยึดมามอบให้ที่พลาธิการครับ เพื่อนำไปทำลายนะ ผมก็เลยถามต่อว่าแล้วเค้าทำลายอย่างไง แกก็บอกว่าบางทีก็เอารถบดทับหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้มันใช้การไม่ได้อีก ส่วนเรื่องปืนที่เก็บรักษาอาวุธปืนของกลางที่ สน. นั้น ที่ สน. ผมนั้นก็เก็บตามมีตามเกิดละครับอยู่ในห้องเก็บของกลาง บางอันปืนดีๆก็สนิมขึ้น อย่างที่ผมเคยเห็นก็ โคลท์ไพธ่อน 6 นิ้ว
สนิมขึ้นเต็มเลยน่าเสียดาย ลองคิดดูถ้าเกิดเป็นปืนเราละครับอ มันจะน่าน้อยใจแค่ไหน ปล่อยให้ขึ้นสนิมตั้งหลายเดือน ทางที่ดีก็อย่าให้มีเรื่องมีราวดีที่สุดละครับ ขอให้พี่ๆทุกท่านโชคดีนะครับ

ยืนยันตามนี้แหละครับ
บันทึกการเข้า
2..U
Hero Member
*****

คะแนน 2094
ออฟไลน์

กระทู้: 15978


Chumpai Club..


« ตอบ #17 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2008, 03:07:10 PM »



อาวุธปืน ที่เกี่ยวกับคดีอาญา อาจแยก เป็นกรณี ได้ ตามนี้

๑. เจ้าของอาวุธปืน มี ป.๔ นำอาวุธปืนกระบอกนั้นไปใช้ในการกระทำผิดอาญา พนักงานอัยการ จะมีคำขอให้ศาลริบทุกคดี.. ถ้าศาลวินิจฉัย ว่าผู้นั้่นกระทำความผิด ศาลจะต้องริบอาวุธปืน เกือบทุกคดี

๒. อาวุธปืน ไม่มีทะเบียน .. หรือถูกลบเลข จนตรวจสอบเลขทะเบียนไม่ได้ จะถือว่าเป็นปืนไม่มีทะเบียนเป็นปืนเถือน ศาลจะต้องริบ ทุกคดี..  

๓. อาวุธปืน ที่เจ้าของ ตาม ป.๔ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในคดีอาญา.
อาจสูญหาย เพราะถูกลักโขมย ไป..  นั้น

เมื่อเป็นคดี พนักงานสอบสวน จะมีหมายเรียกไปยังเจ้าของตาม ป.๔ เพื่อสอบท่านไว้เป็นพยาน ..  
เมื่อศาลพิพากษาจะไม่สั่งริบ แต่จะมีคำสั่งให้คืนอาวุธปืน แก่เจ้าของตาม ป.๔

ฉะนั้น เจ้าของอาวุธปืนย่อมต้องทราบดีอยู่แล้ว  ต้องคอยติดตามผลคดี เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว
ท่านสามารถ คัดสำเนาคำพิพากษาและไปติดต่อ พนักงานสอบสวน เพื่อขอรับคืน


ระหว่างการดำเนินคดีอาวุธปืนของกลาง จะอยู่ในความดูแล เก็บรักษาของพนักงานสอบสวน.
เมื่อเสร็จคดี จะมีระเบียบวิธีการภายในของ จนท.ที่จะส่งอาวุธปืนนั้นไปยังส่วนงานที่รับผิดชอบต่อ  
เพื่อที่จะนำอาวุธปืนที่ศาลริบนั้น ไปทำลายทิ้ง..ไม่ใช่นำมาเปิดประมูล ..  

และตาม พรบ.อาวุธปืนฯ ไม่เปิดช่องให้ นายทะเบียนฯ ออก ป.๔ ให้กับอาวุธปืนเหล่านั้น
จะเป็นไปตามที่ผู้การฯสุพินท์ บอกไว้ครับ . Smiley


เรียนถามครับว่าปืนของกลางจะไปเก็บไว้ที่ไหนบ้าง..
..และหากเจ้าของปืนที่ถูกโจรกรรม จะสามารถไปขอดูปืนของกลางได้หรือไม่ อย่างไรครับ..

จากที่บอกไว้ข้างต้น เจ้าของอาวุธปืน ตาม ป.๔ ต้องไปให้การเพื่อยืนยัน ให้ข้อเท็จจริง
ปฎิเสธความเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น..ท่านจะได้เห็นสภาพอาวุธปืนของท่าน ในชั้นสอบสวน แล้วครับ  Cheesy


ชัดเจนครับท่าน Ro@d .. ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

The best way to predict the future is to invent it.
nickky
Full Member
***

คะแนน 11
ออฟไลน์

กระทู้: 128



« ตอบ #18 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2008, 03:15:19 PM »

คร่าวๆก็จะนำมาเก็บไว้ที่พลาธิการตำรวจ แล้วมีการตั้งกรรมการในการทำลายเหมือนกับการทำลายยาเสพติด มีขั้นตอนที่เป็นไปตามระเบียบครับ(รายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะผมได้รับคำบอกเล่าจาก จนท ในพลาธิการมาอีกทีครับ)
เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่ห้องคดี ซึ่งมีหน้าที่เก็บรักษาอาวุธปืนของกลาง ป๋าแกบอกผมว่า แกมีหน้าที่โดยตรงในการเก็บรักษาและรวบรวมอาวุธปืนของกลาง
ในกรณีที่เป็นอาวุธปืนเถื่อนและมีคำสั่งของศาลสั่งให้ยึด แต่อีกกรณีหนึ่งในกรณีที่เป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องและมีเจ้าของมาแสดงตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ต้องคืนอาวุธปืนดังกล่าวให้กับเจ้าของไป เฉพาะคดีดังกล่าวได้มีคำพิพากษาจนถึงที่สุดแล้วนะครับ โดยเจ้าของต้องดำเนินการไปขอคัดคำพิพากษาของศาลมา อันนี้เพื่อให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเค้าได้เอาไว้ตรวจเป็นฐานในการคืนปืนของกลาง ผมขอแนะนำนิด
นะครับว่า ให้สำเนาไปให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีด้วยเลย จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะพาไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานหรือไม่งั้น
อาจจะทำบันทึกคืนของกลางให้เราเก็บไว้คนละชุด ส่วนเรื่องที่เจ้าของกระทู้ถามมานั้นป๋าแกบอกว่า ทาง สตช. จะมีหนังสือเวียนมาแจ้งบอกให้
หัวหน้าห้องคดีของ สน. แต่ละ สน. รวบรวมอาวุธปืนของกลางที่ศาลมีคำสั่งให้ยึดมามอบให้ที่พลาธิการครับ เพื่อนำไปทำลายนะ ผมก็เลยถามต่อว่าแล้วเค้าทำลายอย่างไง แกก็บอกว่าบางทีก็เอารถบดทับหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้มันใช้การไม่ได้อีก ส่วนเรื่องปืนที่เก็บรักษาอาวุธปืนของกลางที่ สน. นั้น ที่ สน. ผมนั้นก็เก็บตามมีตามเกิดละครับอยู่ในห้องเก็บของกลาง บางอันปืนดีๆก็สนิมขึ้น อย่างที่ผมเคยเห็นก็ โคลท์ไพธ่อน 6 นิ้ว
สนิมขึ้นเต็มเลยน่าเสียดาย ลองคิดดูถ้าเกิดเป็นปืนเราละครับอ มันจะน่าน้อยใจแค่ไหน ปล่อยให้ขึ้นสนิมตั้งหลายเดือน ทางที่ดีก็อย่าให้มีเรื่องมีราวดีที่สุดละครับ ขอให้พี่ๆทุกท่านโชคดีนะครับ


อาวุธปืน ที่เกี่ยวกับคดีอาญา อาจแยก เป็นกรณี ได้ ตามนี้

๑. เจ้าของอาวุธปืน มี ป.๔ นำอาวุธปืนกระบอกนั้นไปใช้ในการกระทำผิดอาญา พนักงานอัยการ จะมีคำขอให้ศาลริบทุกคดี.. ถ้าศาลวินิจฉัย ว่าผู้นั้่นกระทำความผิด ศาลจะต้องริบอาวุธปืน เกือบทุกคดี

๒. อาวุธปืน ไม่มีทะเบียน .. หรือถูกลบเลข จนตรวจสอบเลขทะเบียนไม่ได้ จะถือว่าเป็นปืนไม่มีทะเบียนเป็นปืนเถือน ศาลจะต้องริบ ทุกคดี..  

๓. อาวุธปืน ที่เจ้าของ ตาม ป.๔ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในคดีอาญา.
อาจสูญหาย เพราะถูกลักโขมย ไป..  นั้น

เมื่อเป็นคดี พนักงานสอบสวน จะมีหมายเรียกไปยังเจ้าของตาม ป.๔ เพื่อสอบท่านไว้เป็นพยาน ..  
เมื่อศาลพิพากษาจะไม่สั่งริบ แต่จะมีคำสั่งให้คืนอาวุธปืน แก่เจ้าของตาม ป.๔

ฉะนั้น เจ้าของอาวุธปืนย่อมต้องทราบดีอยู่แล้ว  ต้องคอยติดตามผลคดี เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว
ท่านสามารถ คัดสำเนาคำพิพากษาและไปติดต่อ พนักงานสอบสวน เพื่อขอรับคืน


ระหว่างการดำเนินคดีอาวุธปืนของกลาง จะอยู่ในความดูแล เก็บรักษาของพนักงานสอบสวน.
เมื่อเสร็จคดี จะมีระเบียบวิธีการภายในของ จนท.ที่จะส่งอาวุธปืนนั้นไปยังส่วนงานที่รับผิดชอบต่อ  
เพื่อที่จะนำอาวุธปืนที่ศาลริบนั้น ไปทำลายทิ้ง..ไม่ใช่นำมาเปิดประมูล ..  

และตาม พรบ.อาวุธปืนฯ ไม่เปิดช่องให้ นายทะเบียนฯ ออก ป.๔ ให้กับอาวุธปืนเหล่านั้น
จะเป็นไปตามที่ผู้การฯสุพินท์ บอกไว้ครับ . Smiley


เรียนถามครับว่าปืนของกลางจะไปเก็บไว้ที่ไหนบ้าง..
..และหากเจ้าของปืนที่ถูกโจรกรรม จะสามารถไปขอดูปืนของกลางได้หรือไม่ อย่างไรครับ..

จากที่บอกไว้ข้างต้น เจ้าของอาวุธปืน ตาม ป.๔ ต้องไปให้การเพื่อยืนยัน ให้ข้อเท็จจริง
ปฎิเสธความเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น..ท่านจะได้เห็นสภาพอาวุธปืนของท่าน ในชั้นสอบสวน แล้วครับ  Cheesy

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆที่มอบให้ครับ ตอบแทนท่านละหนึ่งครับ
สำหรับท่าน Mango ชินจังว่างๆ เจอกันหน่อยนะครับ
บันทึกการเข้า

PK.04
Prathet
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 56
ออฟไลน์

กระทู้: 596


« ตอบ #19 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2008, 03:58:40 PM »

เคยมีการตอบข้อหารือของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อปี 2509  แต่เป็นประเด็นของการขายทอดตลาดของกรมศุลกากร ไม่ใช่เป็นปืนของกลางจากกระกระทำผิดครับ  ไม่รู้ว่ายังใช้ได้หรือเปล่า Cheesy

เรื่องเสร็จที่ ๑๔/๒๕๐๙
บันทึก
เรื่อง ขอความเห็นในปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการขายอาวุธปืนที่ตกเป็นของแผ่นดิน
หนังสือของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ สร.๐๕๐๓/๑๕๒๔๐ ลงวันที่ ๒๙
ธันวาคม ๒๕๐๘ ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นในปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการ
ขายอาวุธปืนที่ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งกรมศุลกากรและกรมตำรวจมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่ โดยมี
ข้อเท็จจริงว่า กรมศุลกากรประสงค์ที่จะขายทอดตลาดให้แก่ผู้มีใบอนุญาตซื้อซึ่งอาวุธปืนเดี่ยวลูก
ซองขนาด ๑๒ ชนิดไม่มีสะพานผลิตในประเทศเบลเยี่ยม ยี่ห้อ Masguilier จำนวน ๕๘ กระบอก
นำเข้าเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๐๖ โดยร้านปืนอาชวินทร์ และซึ่งได้ตกเป็นของแผ่นดินแล้วตาม
มาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียม
อาวุธปืนพ.ศ. ๒๔๙๐ ซึ่งบัญญัติว่า “เมื่ออาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนตามใบอนุญาตให้สั่งเข้า
มาถึงแล้ว ถ้าไม่มีผู้รับไปจากกรมศุลกากรภายในกำหนดสี่เดือนนับแต่วันเข้ามาถึง ให้เจ้า
พนักงานศุลกากรแจ้งเป็นหนังสือแก่ผู้รับใบอนุญาต แต่ถ้าส่งหนังสือนั้นไม่ได้ ก็ให้แจ้งแก่
เจ้าของยานพาหนะหรือผู้ขนส่งที่นำเข้าให้ส่งกลับออกนอกราชอาณาจักรภายในกำหนดสามสิบวัน
นับแต่วันที่ได้รับหนังสือนั้น มิฉะนั้นให้อาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนนั้นตกเป็นของแผ่นดิน”
ในการที่จะขายอาวุธปืนรายนี้ กรมศุลกากรอ้างอำนาจตามมาตรา ๒๕ แห่ง
พระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช ๒๔๖๙ ซึ่งบัญญัติว่า “บรรดาของหรือสิ่งที่ยึดไว้ตาม
พระราชบัญญัตินี้ ต้องส่งมอบให้อยู่ในความรักษาของพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากร หรือถ้าไม่มี
พนักงานเช่นว่านี้ภายในระยะใกล้พอควร ก็ให้ส่งมอบให้อยู่ในความรักษาของอำเภอที่ใกล้ที่สุดซึ่ง
จะได้รักษาไว้แทนศุลกากร สิ่งของที่ยึดและริบไว้ตามพระราชบัญญัตินี้หรือบทกฎหมายอื่นอัน
เกี่ยวแก่ศุลกากรนั้น ให้จำหน่ายตามแต่อธิบดีจะสั่ง” และกรมศุลกากรได้หารือไปยังกรมตำรวจ
ในความประสงค์ดังกล่าว แต่กรมตำรวจมีความเห็นว่าการขายอาวุธปืนรายนี้ถึงแม้จะทำการขาย
ให้แก่ผู้มีใบอนุญาตก็ตาม ไม่อาจกระทำได้เนื่องจากอาวุธปืนรายนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนโดยถูกต้อง
ตามกฎหมาย และกระทรวงมหาดไทยได้เคยมีความเห็นว่า “อาวุธปืนเป็นของซึ่งมีกฎหมาย
ควบคุมอยู่โดยเฉพาะ บุคคลใดประสงค์จะมีอาวุธจะต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเสียก่อน
อาวุธปืนจึงเป็นของซึ่งบุคคลไม่อาจมีได้โดยไม่ผิดต่อกฎหมาย ดังนั้นอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน จึง
เป็นของที่ผิดกฎหมายขายทอดตลาดไม่ได้ จะขายทอดตลาดได้ก็เฉพาะแต่อาวุธปืนที่มีทะเบียนอยู่
แล้วเท่านั้น” โดยที่เรื่องนี้มีความเห็นขัดแย้งกันอยู่ จึงขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้
ความเห็น
ส่งพร้อมหนังสือที่ สร.๐๙๐๒/๗๐๐ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๐๙
บันทึกการเข้า

A well regulated Militia, being necessary to the security of a free State, the right of the people to keep and bear Arms, shall not be infringed.(Second Amendment to the United States Constitution Article 2)
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.053 วินาที กับ 20 คำสั่ง