เรื่อง เสือ ม. สิบเอ็ด มอ มอ
สิบกว่าปีแล้วนิสิตวัยหนุ่มกลุ่มหนึ่งไปเที่ยวเหมืองของนาย ป. เด็กลูกครึ่งที่เมืองกาญ บ้านป่า ชายแดน ปาก้อนหินตกใส่หัวราษฎรประเทศเื่พื่อนบ้าน ต้องใช้เครื่องปั่นไฟเอง อากาศเย็นกว่าเมืองกรุง 10 C ทั้งปี
ราษฎรพลเหมืองไทยพกปืนกันเอวตุงๆ ทุกคน
หนุ่มๆ จิบน้ำหวานกันที่ศาลากลมริมลำธารจนหนำใจแล้วก็ย้ายร่างขึ้นบ้านเพื่อเล่นกีฬาบัตร
ในกลุ่มมีท่านนึงชื่อ ม. ซึ่งเป็นบุคคลก๊วน กวน คุยคำ เถียงคำ
นาย ป.: "เอ้ยๆ ใครเห็นปืนอย่าจับนะเว้ย เล่นไม่เป็นเผื่อมีลูกอันตราย"
นาย ม.: "อ๋าย ปืนไม่มีลูกแล้วมันจะงอกออกมาเองได้เรอะ" (คำนี้จิงๆ ท่านผู้ชม)
ณ บนบ้านซึ่งยึดไว้สองห้องนอน ประชาชนชุมชุมกันในห้องหนึ่ง ไม่ได้ดูว่าอยู่กันครบรึเปล่า สักครู่มีเสียงสนั่น "โป้งงง" นาย ม. เดินหน้าซีดเข้ามาในห้อง "กูนึกว่ามันไม่มีลูก.."
ผลการสอบสวน: นาย ป. เอา 1911 ใส่แมกไม่ได้ขึ้นลำไว้ใต้หมอนบนเตียงของเขา นาย ม. รื้อห้องเล่น เห็นปืนจึงหยิงมา ขึ้นลำ แล้วส่องยิงหลังคาบ้านอีกหลังหนึ่ง

ขออนุญาตนอกเรื่องขอรับ
เหมืองสมศักดิ์ ที่ทองผาภูมิใช่ไหมขอรับ
อากาศดี๊ดี เค้กป้าเกลนก็อร่อย
ตอนที่ผมไปมาเมื่อสักปีกว่าๆที่แล้ว ก็สังเกตเหมือนกันว่าคนที่นั่นเป็นต่างด้าวเยอะจัง
พี่ชายคนที่เป็นเหมือนกับผู้จัดการทั่วไปของเหมืองแกใส่เสื้อปล่อยชายตลอด
เห็นเอวตุงๆ ผมว่าแล้วเชียวว่าแกต้องพกปืนแน่ๆ คาดว่าต้องเป็นลูกโม่โครงกลางลำกล้องยาวไม่ต่ำว่าสี่นิ้วแน่

กลับเข้าเรื่อง
คุณ OZERO ควรยุให้เพื่อนขายปืนทิ้งดีกว่าครับ
