เรื่องนี้น่าจะอยู่ที่ต้นเรื่อง คือตำรวจ หากตำรวจเข้าใจว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และอาจโดนกฎหมายฉบับนี้รังแก ให้หนักขึ้นไปอีก
ก็น่าจะไม่แจ้งข้อหาซองกระสุนนี้แก่พวกเรา .. หากชงไป เรื่องก็ยาวไปอีก...
กฎหมายตัวนี้ออกมานานมากแล้ว ..แต่ก่อนก็ไม่ค่อยเห็นมีการแจ้งข้อหานี้กัน..ถ้าจะว่าละเว้นก็เป็นมาตั้งนานแล้วด้วย
การละเว้นแต่เป็นธรรมสำหรับประชาชน ก็น่าทำ มากว่าตรงเผง แต่ เหมือนทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ไม่น่าจะทำ
หากไม่มีการแก้ไขกฎกระทรวง ฯ ก็คงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก..
ผมว่า ..คนที่มี ซองเกิน ๑๐ นัด แบบว่าซื้อปืนสวัสดิการมาทั้งหมดทั่วประเทศรวมตัวกันประท้วงหรือฟ้องร้องศาลปกครองกันดีไหม
นึกๆแล้ว มันน่าทำนะครับ

ขอป่วนซะหน่อย....ว่า....ไม่ต้องมากถึงทั่วประเทศ.......ขอแค่ 1-2 คน
........เริ่มจากท่านที่ไปรับปืนสวัสดิการวันนี้ พาเพื่อนตำรวจไปด้วย จ่ายปืนมาถ้าซองกระสุนจุเกิน 10 ก็แจ้งให้จับกุมทันที
เพราะตาม ม. 78 วรรคสอง........
ผู้ใดค้า หรือจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 55 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ยี่สิบปีถึงจำคุกตลอดชีวิต
มันก็จะโยงเป็นทอดๆไปถึง ผู้นำเข้า เจ้าของโครงการ ผู้อนุมัติ ...... แล้วคนกลุ่มนี้จะช่วยกันผลักดัน การแก้กฎกระทรวงให้สำเร็จอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เสร็จก่อนคดีของตนถึงที่สุด คงไม่มีใครอยากเข้าคุกยี่สิบปี ......
