มาทีเป็นชุด

ตอบเป็นข้อๆนะครับ
1. 10W30 มีคลาสต้อลแม็กน่าแท็คถังเขียว (กึ่งสังเคราะห์)
ดักแฮม(รึงัยนี้แหระ) (ยี่ห้อนี้ของอเมริกัน พวกรถบรรทุกงานหนักนิยมใช้)
โมบิล..2000ถังขาว (กึ่งสังเคราะห์)
3 ตัวนี้เป็นนำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์คุณภาพดีครับ ใช้ได้ทั้ง3ตัว แต่อายุการใช้งานก็จะต่ำกว่าพวกสังเคราะห์ 100% ประมาณ 8,000-9,000 โลก็สมควรเปลี่ยน แต่ที่ผมแนะนำสังเคราะห์ 100% ก็เพราะว่า อายุการใช้งานนานกว่าความคงตัวของทั้งตัวน้ำมันและสารเพิ่มคุณภาพก็ดีกว่า ลากยาวได้ถึง 10,000-12,000 โล ต้องแล้วแต่พี่สินแล้วครับว่าชอบแบบไหน
ส่วนเบอร์น้ำมันเครื่องไม่ต้องไปกังวลมากครับ 10W-30 นี่ก็เหมาะกับบ้านเราครับ แต่ที่ผมแนะนำ Mobil 1 เพราะยี่ห้อนี้ผมมั่นใจในคุณภาพครับ
มาตรฐานน้ำมันเครื่องมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ (Society of Automotive Engineer : SAE) ใช้ระบุความหนืด (ความข้นใส) ของน้ำมันเครื่อง ค่ายิ่งมากก็ยิ่งมีความหนืดมาก โดยแบ่งน้ำมันเครื่องออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ
>>เกรดเดียว (monograde) คือน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดค่าเดียว เช่น SAE 40 หมายความว่า ณ อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส น้ำมันจะมีค่าความหนืดอยู่ที่ เบอร์ 40
>>เกรดรวม (multigrade) คือน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืด 2 ค่า เช่น SAE 20W-50 หมายความว่า ในอุณหภูมิ -25 องศาเซลเซียส น้ำมันจะมีค่าความหนืดอยู่ที่ เบอร์ 20 แต่เมื่ออุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส จะเปลี่ยนค่าความหนืดเป็น เบอร์ 50
อักษร "W" ใช้เป็นตัวบ่งบอกว่าค่าความหนืดนี้เป็นเกรดฤดูหนาว (วัดที่ -25 องศาเซลเซียส) หากไม่มีจะเป็นเกรดฤดูร้อน (วัดที่ 100 องศาเซลเซียส)
มาตรฐานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (The American Petroleum Institute : API) ใช้ระบุประเภทของเครื่องยนต์ และสมรรถนะในการปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ สำหรับเครื่องยนต์เบนซินใช้อักษร "S" (spark ignition) เช่น SA SC SD SE SF SG SH SJ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลใช้อักษร "C" (compress ignition) เช่น CD CB CF4 บางครั้งเราอาจเห็นทั้ง "S" และ "C" มาด้วยกัน เช่น SG/CH4 หมายถึง น้ำมันเครื่องนี้เหมาะกับเครื่องยนต์เบนซิน แต่ก็สามารถใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลได้ในระยะสั้น หรือ CH4/SG ก็จะกลับกันกับกรณีข้างต้น
2. เรื่องใช้เกินระยะก็ต้องดูว่าน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนไปคราวที่แล้วเป็นสังเคราห์หรือกึ่งสังเคราะห์ ถ้าเป็นสังเคราะห์ 100% ก็ยังพอจะพึ่งพาได้ แต่ถ้าเป็นกึ่งสังเคราะห์ก็ต้องบอกเกือบๆจะถึงที่สุดแล้วนะครับ หมื่นกว่าโลเนี่ย

ได้รถคืนมาก็สมควรเอาไปเปลี่ยนทันทีให้เปลี่ยนแบบถ่ายออกด้านล่างนะครับ อย่าเปลี่ยนแบบที่ใช้ท่อแวคคั่มดูด แบบนั้นมันไม่เกลี้ยง
น้ำมันเครื่องนอกจากจะทำหน้าที่หล่อลื่นแล้วยังทำหน้าที่เก็บเศษโลหะที่สีกหรอของเครื่องยนต์ด้วย หากใช้นานเกินระยะทางสารเพิ่มคุณภาพที่อยู่ในน้ำมันเครื่องก็อาจจะเสื่อมคุณภาพไปทำให้ประสิทธิภาพการหล่อลื่นลดลง และเศษโลหะที่อยู่ในอ่างน้ำมันเครื่องก็อาจจะถูกดูดกลับขึ้นไปทำให้เกิดความสึกหรอมากขึ้น ครับ