อุปกรณ์พวกนี้ไม่น่าใช้ครับ ผมต้องขับรถไปบ้านญาติเพื่อเปิดสวิชท์บ่อยๆ มันอาจดีเกินไปฟ้าผ่าใกล้ๆก็ตัดไฟรั่วนิดหน่อยก็ตัด ถ้าเรารีเซ็ทเป็นก็ไม่เป็นไรครับ แต่มันกวนใจจังอีตอนไม่รู้ทำไมมันตัด
ขอบคุณคุณ lek มากเลยครับที่เล่าประสบการณ์นี้มา ทำให้ผมนึกเรื่องนึงออก และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆด้วยครับ
เรื่องมีอยู่ว่า อุปกรณ์ตัดเมื่อไฟดูดพวกนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท เรียกว่า Class มี Class AC และ Class A
กรณีที่คุณ lek ประสบพบมามีความเป็นไปได้สูงว่าเป็น Class AC ครับ จึงเกิด Nuisance Trip ( ตัดทั้งๆที่ไม่ได้เกิดปัญหาขนาดเท่าที่ควรจะตัด หรือ ตัดไวเกินไป ) ซึ่งอุปกรณ์ Class AC จะราคาถูกกว่า Class A ดังนั้น เพื่อความเที่ยงตรงกว่า จึงแนะนำให้เลือก Class A ครับ นอกจากตัวอักษรที่ระบุ Class แล้ว ดูได้จากสัญลักษณ์ดังนี้ครับ


ทีนี้มาเพิ่มเติมอีกหน่อยเรื่อง Earth Leak Protection Device
อุปกรณ์พวกนี้ก็จะมีหน้าตาคล้าย CB ( Circuit Breaker ) ครับ แต่จะมีข้อสังเกตนิดนึงที่แตกต่างคือ มักจะมีปุ่มสีเหลืองเพิ่มขึ้นมา ไว้สำหรับ Test ทดสอบว่ายังตัดได้ไหม เวลาเรากดปุ่มเหลืองนี้ ตัวอุปกรณ์จะจำลองสถานการณ์ไฟรั่วให้ตัวเอง หากตัวมันทำงานเรียบร้อยดี มันก็จะตัด ( Trip ) ให้เราเห็นทันทีครับ ในทางกลับกัน หากกดแล้วมันเฉย อันตรายแล้วครับ สมควรเปลี่ยนตัวใหม่ให้เร็วที่สุด ที่พูดมานี้ ท่านที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นคงพอจะคุ้นๆว่า เครื่องของเราก็มีปุ่มให้กด Test เหมือนกันนี่ ใช่ครับ ทำงานเหมือนกัน มีหน้าที่เหมือนกันกับที่ผมเพิ่งเล่ามาเลยครับ
อุปกรณ์พวก CB หรือ Earth Leak Protection ในขนาดหรือระดับที่ใช้ตามบ้าน แบ่งตามกายภาพหรือรูปลักษณ์จะมี 2 แบบอีก คือแบบ Plug-in และแบบ Din rail
ในตามบ้านทั่วไปผมเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 80-90 % เป็นแบบ Plug-in ครับ ท่านลองดูตู้ไฟในบ้าน ถ้าเป็นยี่ห้อ Square-D นั่นฟันธงไปเลยว่าเป็นแบบ Plug-in คือตัว CB หรือ Earth Leak จับกดลงไปในฐานได้เลย แต่แบบ Din rail จะคล้องตัวมันกับรางที่เรียกว่าราง DIN Rail แล้วเดินสายกันอีกที ส่วนตัวผมชอบ DIN ครับ เพราะถ้าเราขันสกรูให้แน่น มันค่อนข้างแน่นอน แต่แบบ Plug-in มันเสียบลงไปแล้วอาศัยแรงสปริงหนีบไว้ ใช้ไปนานๆ ความร้อนที่เกิดขึ้นมีผลครับ แรงกดหายไป เกิดการอาร์ค เสียหายได้เหมือนกัน ก่อนเกิดเหตุร้ายแรงอาจส่งเสียงหึ่งๆแบบเสียงฮัมให้ได้ยินก่อน เมื่อมีโอกาสเข้า Home Pro หรือร้านไฟฟ้าลองขอเค้าดูก็จะพอเข้าใจครับ
เลยไปโน่น กลับมาที่ Earth Leak ดีกว่านะครับ อุปกรณ์นี้แบ่งได้อีกครับ คือ แบบที่มี CB ในตัว กับ ไม่มี CB ในตัว
จำได้นะครับว่า CB ทำหน้าที่อะไร ... ตัดเมื่อกระแสเกิน ( Overload และ Short circuit ) ดังนั้น Earth Leak ที่มี CB ในตัวก็จะครอบคลุม 3 หน้าที่เลย คือ ตัดเมื่อ
1) กระแสเกินอันเนื่องมาจาก Overload
2) กระแสเกินอันเนื่องมาจาก Short Circuit
3) ไฟรั่ว
อันนี้มีชื่อเรียกกันได้หลายแบบ เช่น RCBO ( Residual Current Operated Circuit Breaker ) หรือ ELCB ( Earth Leak Circuit Breaker ) จะเห็นได้ว่ามักจะมีคำว่า Circuit Breaker ปนอยู่ด้วยเพราะตัวมันรวมเอา CB เข้าไว้ด้วยกัน และแน่นอน ต้องแพงกว่าแบบที่ไม่มี CB ในตัว
ส่วน Earth Leak ที่ไม่รวม CB ไว้ในตัวก็จะตัดต่อเมื่อ ไฟรั่ว เท่านั้นครับ มักจะถูกเรียกว่า RCD ( Residual Current Device )
แล้วจะเลือกใช้อย่างไร ?
นึกภาพตู้ไฟของท่านนะครับ สมมติว่าท่านไม่เคยใช้ RCD หรือ ELCB มาก่อนเลย เจ้า CB ทั้งหลายในตู้ไฟของท่านก็จะทำหน้าที่ตัดเมื่อกระแสเกินให้อยู่แล้ว ( ภาวนาขอให้ช่างใส่ให้ถูกขนาดก็แล้วกัน อิอิ ) ตัดประเด็นหน้าที่ของ CB ไปก่อนเพราะมีอยู่แล้ว มองย่อยลงไปในสาขา หรือ วงจร หรือ Branch circuit ... สมมติว่าตัวที่จ่ายไฟไปยังปลั๊กไฟทั้งบ้าน ( บางบ้านอาจจะแบ่งเป็นวงจร 1 = ปลั๊กชั้นล่าง, วงจร 2 = ปลั๊กชั้นบน ด้วยจุดประสงค์ว่า หากไฟช็อตชั้นล่างก็ให้ตัดแต่ชั้นล่าง ช็อตชั้นบนก็ตัดแต่ชั้นบน จะได้ไม่วูบไปพร้อมๆกันทั้งหลัง แถมยังรู้ได้ด้วยว่าต้นเหตุที่ช็อตอยู่ชั้นไหน ) หากเราต้องการจะเพิ่มความสามารถในการ "ตัดเมื่อไฟรั่ว" เราก็เพิ่มแต่ RCD โดยต่อหลัง CB ก็ได้แล้วครับ ( ต้องรื้อตู้ไฟกันหน่อย )
หรืออย่างเครื่องทำน้ำร้อนแบบก๊อกผสม เช่นของ SIEMENS หรือ Stiebel Eltron มักจะไม่มี RCD มาให้เหมือนเครื่องทำน้ำอุ่นของ Panasonic ...ฯลฯ เราก็อาจจะซื้อเจ้า RCB ไปติดดักหน้าก่อนไฟฟ้าจ่ายเข้าเครื่องฯก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องไปรื้อตู้ไฟ
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งที่เพื่อนๆแนะมาว่าไม่น่าติด RCD ไว้คุมทีเดียวทั้งบ้าน เพราะอุปกรณ์แต่ละตัว แต่ละจุด อาจจะรั่วได้จุดละเล็กละน้อย พอรวมๆกัน 15 mA อาจจะไม่อยู่ ตัดเรื่อย เราก็ต้องเพิ่มขึ้นไป หรือหงุดหงิดเข้าตั้งที่ Direct แย่เลย ไม่ตัดเลย ถึงคราวเคราะห์ก็สอบชิงทุนไปนอกโลกเลย ( ขอยืมใช้นะครับ อิอิ )
เมื่อเราแยก RCD จุดละตัว โชนละตัว เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นละตัว ทำให้เราเลือกค่ากระแสรั่วให้ตัดได้ต่ำ อันนำมาซึ่งความปลอดภัยสูงสุด หาซื้อต่ำได้เท่าไหร่ยิ่งดีครับ ตลาดบ้านเราหาได้ต่ำถึง 6 หรือ 10 mA ครับ รอให้รั่ว 30 mA ผมว่าไม่ตายเพราะไฟดูดก็อาจจะตายเพราะกระตุกจนหัวฟาดพื้นครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะครับ