ไม่เสมอไปครับพี่โอ
ข้อเท็จจริงมันมีรายละเอียดมากกว่านั้นเยอะครับ
---------------------------
คดีนี้
ประมาณ ๒๕๔๕ ไม่แน่ใจ เป็นคดีที่ศาลฎีกาได้ใช้หลักความยุติธรรมในการตัดสินครับ

และต้องชื่นชมทนายความในคดีนี้ ที่สามารถแสดงให้ศาลเห็นถึงความประมาทของจำเลยในคดีนี้
สืบเนื่องมาจาก โจทก์ได้ไปใช้บริการซื้อของและสินค้าที่ห้าง
ปรากฏว่าขณะนำรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถตามที่ห้างได้จัดที่ไว้ ต้องผ่านป้อม รปภ
ทางเจ้าหน้าที่ รปภ ได้ให้บัตรจอดรถ แล้วเราก็ไปจอดตามปกติ
แต่ปรากฏว่าพอกลับมารถหายไป

ทางเจ้าของรถก็เลยยื่นฟ้อง (ฟ้องด้วยตนเอง ไม่ได้ไปร้องเรียน สคบ ) รักษาความปลอดภัยเป็นจำเลยที่ ๑ บริษัทรักษาความปลอดภัยที่ทางห้างได้จ้างมา เป็นจำเลยที่ ๒ ตัวห้างเอง เป็นจำเลย

ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ คือห้าง จำเลยที่ ๒ ให้การต่อสู้ประเด็นหนึ่งว่า
๑. "...ขณะที่โจทก์ (ผู้เสียหาย)นำรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ รปภ ได้ส่งมอบบัตร ซึ่งหลังบัตรมีข้อความว่า " บัตรนี้มิใช่การรับฝากรถ และ หากทรัพย์สินสูญหายรับผิดไม่เกิน ๕๐๐ บาท.." ถือว่าโจทก์ทราบแล้วและตกลงยินยอมตามข้อความที่ปรากฏตามหลังบัตรแล้ว ดังนั้น จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิดชอบ

๒. ทั้งการที่โจทก์นำรถมาจอดที่ห้าง จำเลยที่ ๒ ไม่ได้คิดค่าบริการที่ลูกค้านำรถมาจอด จึงถือว่ามิใช่เป็นการฝากทรัพย์ที่จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดชอบ

ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า เอาคราวๆ เพราะจำไม่ได้

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ก่อนที่โจทก์จะนำรถไปจอดยังสถานที่ที่จำเลยที่ ๒ จัดไว้ จำเลยที่ ๑ ได้ยื่นบัตรรับรถไว้ ทั้งมีการบันทึกหมายเลขทะเบียนรถยนต์โจทก์ และลงหมายเลขของบัตรที่มอบให้แก่โจทก์รักษาไว้ การที่จำเลยที่ ๑ กลับปล่อยให้บุคคลอื่นนำรถโจทก์ออกไปจากห้างโดยไม่ทำการตรวจสอบให้ดีซะก่อนว่า บัตรที่คนร้ายส่งมอบมานั้น ตรงกับที่บันทึกหรือไม่ จึงต้องถือว่าจำเลยที่ ๑ ประมาท เมื่อจำเลยที่ ๑ ประมาท เป็นเหคุให้โจทก์เสียหาย (ละเมิด) จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นตัวการต้องร่วมรับผิดในการละเมิดนั้นด้วย
การที่ห้างจำเลยที่ ๒ ยกอ้างว่าบัตรที่มอบให้ตอนเข้ามาใช้บริการ แม้มีข้อความจำกัดความรับผิดก็ตาม แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าทางโจทก์มิได้ตกลงยินยอมด้วย จำเลยที่ ๒ จะยกเหตุดังกล่าวมาอ้างให้ตนไม่ต้องรับผิดไม่ได้ ทั้งการที่โจทก์รับบัตรดังกล่าวมาแล้วนำรถไปจอด จะถือว่าโจทก์ตกลงยินยอมในข้อจำกัดความรับผิดโดยปริยายก็ไม่ได้เช่นกัน เมื่อปรากฏว่า โจทก์เป็นลูกค้าและมาใช้บริการห้างของจำเลยที่ ๒ จริง ปรากฏตามใบเสร็จสินค้า เอกสารหมาย............
ประมาณนี้ครับ
> ทุกคดีที่มีหลักฐานชัดเจนอย่างข้างบนชนะหมดเลย จึงไม่จริงครับ

จริงๆแล้ว ใบเสร็จสินค้าเป็นเพียงเอกสารหลักฐานยืนยันเท่านั้นว่าคุณได้มาใช้บริการของห้าง แต่ห้างจะต้องรับผิดหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับว่า รปภ เจ้าของห้าง เจ้าของโรงแรม ได้ทำการรักษาดูแลทรัพย์สินของเราดีพอสมควรแก่พฤติการณ์หรือไม่ ประมาทเลินเล่อหรือไม่ครับ

แม้คุณจะมีใบเสร็จก็ตาม แต่ปรากฏว่าทางห้ามเขาได้ดูแลทรัพย์สินพอสมควรแก่พฤติการณ์แล้ว อาจไม่ต้องรับผิดก็ได้ครับ จึงสามารถตอบได้ตอนนี้คือ ไม่ทุกกรณีที่จะชนะ
สรุป แล้วแต่ข้อเท็จจริงครับ

แต่อย่างไรก็ดี คดีนี้เป็นคดีที่วางแนวไว้ชัดเจนว่า บัตรรับฝากรถซึ่งมีข้อความจำกัดความรับผิด จะมาใช้ปฏิเสธไม่ต้องรับผิด ไม่ได้ครับ
