เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 22, 2025, 04:07:26 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนขอความเห็นเกี่ยวกับทำประกันชีวิตครับ  (อ่าน 7494 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2009, 12:31:02 PM »

บางคนมีเคลมเยอะ บริษัทก็เพิ่มเบี้ยครับ

มีพี่คนหนึ่ง ทำ PA ของ AIA ๒,๐๐๐ บาทเหมือนผมมาตลอด ... มีปีหนึ่งเคลมบ่อยมาก ๆ (ซุ่มซ่าม) ปีถัดมา บ. ขอ ๓,๐๐๐ คุ้มครองเท่าเดิม ... แกเลยเลิกครับ  คิก คิก
บันทึกการเข้า

toom_boom
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2009, 04:40:27 PM »

ขอบคุณทุกท่านครับ ได้ข้อมูลเยอะเลย
บันทึกการเข้า
nt920
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2009, 05:59:02 PM »

พอคีผมเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทAIA ดีครับ!ที่คิดจะทำ   เจ็บก็ช่วย ป่วยก็ให้ ตายก็จ่าย สบายก็คืนครับ แต่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการทำครับ(เป้าหมายที่แตกต่างในระยะเวลาที่ต่างกัน) ถ้าต้องการายละเอียดเพิ่มเติมรบกวน Mailมาที่
poj.nt920@hotmail.com(ทุกบริษัทดีหมดครับแต่ขึ้นอยู่กับตัวแทนบริการครับ)
บันทึกการเข้า
SEEZ ..รักในหลวง..
Hero Member
*****

คะแนน 108
ออฟไลน์

กระทู้: 1453


« ตอบ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2009, 06:01:36 PM »

  เจอกระทู้พอดีเลยครับ   ของผมสดๆร้อนๆ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน       ผมได้จ่ายเงินค่าประกันชีวิตให้กับตัวแทนประกันซึ่งเป็นคนรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดีเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยความไว้ใจจึงไม่ได้ขอใบเสร็จชั่วคราวไว้   วันนี้ผมลองโทรไปเช็คที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทประกัน  AIA ว่าตัวแทนประกันของผมได้นำเงินค่าประกันชีวิตประจำปีที่ 4 ( ประกันชีวิตแบบสะสม 20 ปี ) จำนวน 12,100 บาท  ( เศษหลักสิบจำไม่ได้ ) ไปชำระที่สำนักงานใหญ่แล้วยัง  คำตอบคือ  "  ยังคะ "    งานเข้าเลยครับ  ตกใจหน้าซีด ตกใจหน้าซีด ตกใจหน้าซีด     กรมธรรม์หมดตั้งแต่ 10 เม.ย. 52   สอบถาม จนท.บริษัททราบว่าสามารถจ่ายได้หลังกำหนด 45 วัน  พอไปนับวันดูครบ 45 วันนี้พอดี เป็นอันว่า กรมธรรม์ขาดแล้ว
       ตั้งใจว่าพรุ้งนี้จะเข้าไปสอบถามกับพี่ที่เป็นตัวแทนขายประกัน หน่อย ว่าจะเอาอย่างไร  จะนำเงินไปจ่ายให้บริษัท  AIA เพื่อต่อกรมธรรม์ หรือจะคืนผมก็ว่ามา     เสียดายเวลากับความรู้สึกดีๆ  ที่รู้จักกันมานานและไว้ใจ  แต่ที่เสียดายกว่าคือเงินที่เสียไป เพราะมันน่าจะเป็นเงินส่วนหนึ่งที่ผมควรจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรที่โรงพยาบาลอีก 2 เดือนข้างหน้ามากกว่า   เศร้า เศร้า เศร้า  

    ผมไม่ได้ว่า บริษัท  AIA ไม่ดีนะครับ  เพราะปัญหามันอยู่ที่ตัวแทนขายประกันโกงเงินลูกค้า  กับลูกค้าที่ไว้วางใจตัวแทนมากไป  
     ก็ขอเอาประสพการณ์ของผมมาเตือนพี่ๆก็แล้วกันนะครับ   ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2009, 10:01:20 PM »

..บริษัทประกัน.ผมว่าไม่แตกต่างกัน.อยู่ที่ตัวแทนมากกว่าครับ.บางคนขายประกันแล้ว.หายหัวเลย..
ตัวแทนแบบไอ้ก้อง(ในโฆษณา ทีวี.)ยังมีอยู่เต็มเลยครับ บ.ก็ชุ่ยด้วยแหละ อยากทำยอดขายอย่างเดียวไม่เน้นคุณภาพคน
บันทึกการเข้า
Claim Expert
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #20 เมื่อ: มกราคม 08, 2010, 12:23:21 AM »

เพิ่งเข้ามาแจมด้วย จริงๆแล้วทุกบริษัทเกือบไม่แตกต่างกัน สำคัญที่
1. บริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดมาก ย่อมมีโอกาสจ่ายเงินปันผลมากกว่าบริษัทอื่น เพราะเงินปันผลเกิดจากการเอาเบี้ยประกันไปลงทุน
    ตามที่กฎหมายกำหนด และเงินคืนตามสัญญาแต่ละช่วงก็เกิดจากลักษณะเดียวกัน ฉะนั้นหากจะดูเฉพาะผลตอบแทนเรื่องเงิน
    ต้องพิจารณาค่า IRR ตามวิธีทางการเงิน  ผมเคยเจอรุ่นน้องซื้อของบริษัทหนึ่ง แล้วมาเยาะเย้ยผมว่าของเขาได้เงินมากกว่า  แต่พอ
    เอามาคำนวณค่า IRR แล้วได้ 0.96  กับ 0.85  ผมเลยขำกลิ้ง เพราะของผมอย่างต่ำๆก็   2.5  ขึ้นไป  จริงๆแล้วลูกค้าไม่รู้เรื่องหรอก
    นอกจากเขาจะรู้วิธีคำนวณซึ่งมักเป็นพวกเรียนมาทางบัญชี การเงิน หรือ MBA  ทั่วๆไปไม่ดูละเอียดขนาดนี้หรอก   แล้วการทำประกัน
    จะคิดแต่เรื่องกำไรเงินไม่ได้  เพราะถ้าคิดอย่างนั้น   ประกันที่กำไรดีที่สุด ก็คือ ประกันที่คุ้มครองปุ๊บ  ได้เคลมทุนประกันเลย  ก็คือซี้
    แหงแก๋   แล้วใครอยากได้บ้างละจ๊ะ
2. ตัวแทนมีความรู้จริงในรายละเอียดของประกันชีวิตจริงไหม  เช่น  อะไรคือข้อยกเว้น  ถ้าเข้าข่ายข้อยกเว้น ต้องแจ้งหมอผู้รักษาตั้งแต่แรก
    ว่าอย่างไร  จึงจะไม่เกิดปัญหาในการเคลม     ถ้าบริษัทปฏิเสธเคลม จะแก้ปัญหายังไง เช่น ต้องทำจดหมายชี้แจง หรือส่งเอกสารอะไร
    เพิ่มเข้าไป   อะไรเคลมได้  อะไรไม่ได้  จะป้องกันปัญหาก่อนจะเคลมยังไง   จะได้ไม่ยุ่งยากตั้งแต่แรก
3. ไม่ควรพิจารณาว่าตัวแทนคนนั้นขายเก่งจนติดสารพัดคุณวุฒิของบริษัทหรือเปล่า  เพราะขายเก่ง  ไม่ได้หมายความว่าจะเคลมเก่ง
     หรือแก้ปัญหาเก่ง    มาบริการเรื่องทำเอกสารรวดเร็วมาก  ไม่ได้หมายถึงบริการดี   เพราะมันเป็นแค่ routine paper work   ใครอ่าน
     ออก เขียนได้ก็ทำได้ทุกคน     แต่การเคลมอย่างมีประสิทธิภาพ  เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด คือหัวใจหลักของงานบริการประกันชีวิต
     หรือท่านอื่นคิดว่ายังไง
4.  ตัวแทนพร้อมจะสู้เพื่อลูกค้ามากน้อยแค่ไหน  ถ้าในข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายแล้วลูกค้าถูกบริษัทเอาเปรียบ  หรือบริษัทอาศัยความไม่รู้
     ของลูกค้า แล้วปฏิเสธการเคลม  จะสู้อย่างไร  ขั้นตอนมีอะไรบ้าง   ผมกล้าพูดได้เลยว่า  ตัวแทน 1000 คน  จะหาที่รู้แง่มุมถ่องแท้ชนิด
     เรียกได้ว่าเชี่ยวชาญได้ไม่ถึง 1 คน
5.  ตัวแทนมักเอาเวลาไปใช้ในการขาย ขาย ขาย ขาย ขาย เพราะมันได้คอมฯ นิ ก็ไม่ผิดหรอก  แต่ถ้าให้แก้ปัญหาเรื่องเคลม มักจะไม่อยาก
     ทำ  เพราะมันยาก และยุ่ง  สู้ยอมอธิบายให้ลูกค้ายอมรับผลการปฏิเสธง่ายกว่า    ยิ่งถ้ามีประวัติการรักษาภาษาหมอแล้ว  แทบจะ 100 ละ
     100  อ่านไม่เป็น   ก็มันเป็นวิชาชีพนี่  ไม่งั้นหมอคงไม่ต้องเรียนถึง 6 ปีหรอก   ถ้าคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆอ่านได้ทุกคน  หมอก็ไม่เป็น
     วิชาชีพแล้ว  ต้องเอาคนที่เรียนเก่งมากๆไปเรียนหมอ  ก็มันหมายถึงชีวิตเรานี่   หมอถึงมีคนเรียนได้น้อยมากๆ  รายได้ก็โค-ตะ-ระ ดีเลย
     จึงมีตัวแทนน้อยมากๆๆๆที่รู้ละเอียดจริงๆ  ยกเว้นต้องชอบศึกษาลึกๆ ถึงจะพอรู้บ้าง เอาไว้เป็นความรู้คอยให้คำปรึกษาลูกค้า  และไว้ช่วย
     คนที่ถูกบริษัทประกันเอาเปรียบ
6.  ตัวแทนซื่อสัตย์เรื่องการเงินขนาดไหน  เช่น  สอนลูกค้าไหมว่า ตัวแทนโกงเบี้ยประกันได้ยังไงบ้าง  แล้วลูกค้าต้องป้องกันยังไง ต้อง     
     ตรวจสอบเรืองใบเสร็จรับเงินยังไง     ธุรกิจประกันชีวิตในเมืองไทยยังก้าวหน้าช้ามากๆ  เพราะพอลูกค้าถูกตัวแทนโกงแล้วมักปล่อยเลย
     ตามเลย  น้อยมากที่จะเอาเรื่อง อาจเพราะ ไม่อยากเสียเวลาทำมาหากิน  ไม่อยากเสียความรู้สึกที่ดีต่อกัน  ไม่รู้จะร้องเรียนยังไง  สารพัด
     ตัวแทนเลยได้ใจ  โกงหรือทำผิดซ้ำๆบ่อยๆ เช่น ขายแบบโกหกล/ค   แต่หลังๆนี่รู้สึกว่า สนง. คปภ. (กรมการประกันภัย (เดิม) )  เอาจริง
     มากขึ้น   ก็ดี  เป็นประโยชน์กับ ล/ค  วงการนี้จะได้ก้าวหน้าเร็วกว่านี้

     ทั้งหมดที่เล่ามานี้ เพราะ เจอมาหมดแล้ว  เกือบทุกแง่มุม   แก้ปัญหาให้ชาวบ้านบ่อยๆ  ก็เลยพอแลกเปลี่ยน idea กันได้   ใครมีอะไร 
     อยากถามก็ อี-แมว มาคุยกันได้นะ   เผื่อชีวิตจะเป็นประโยชน์กับชาวบ้านเขาบ้าง 
บันทึกการเข้า
bambie
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 133


« ตอบ #21 เมื่อ: มกราคม 08, 2010, 03:23:18 AM »

ตัวผมเองและครอบครัวทำประกันไว้ทุกคนๆละหลายๆกรมธรรม์ ผมเห็นความสำคัญของการทำประกันนะครับ มากๆด้วย ตัวผมเองตอนนี้ก็เป็นตัวแทนของ aia ด้วย เพียงแต่ผมไม่ได้เป็นตัวแทนที่ขายประกันนะครับ ผมเป็นตัวแทนเพื่อให้พี่สาวเค้าได้กระจายเรื่องรายได้และภาษีของเค้า หรือที่เค้าเรียกว่า ดัมมี่โค้ดครับ แต่เราก็ได้ประโยชน์ไปในตัวคือเวลาเราซื้อของเราเองเราก็ได้ค่าคอมฯคืน
ผมอยากจะอธิบายตามความคิดความเข้าใจและประสบการณ์ของตัวเองคร่าวๆดังนี้นะครับ
  1. การทำประกันแบบตลอดชีวิต คือประมาณว่า ส่งเบี้ย 20 ปี แล้วจะได้เงินคืนแมื่อเสียชีวิต หรือมีอายุครบ 99 ปี ซึงคงจะไม่มีใครได้อยู่จนได้ใช้เงินจากแบบนี้นะครับ กรมฯแบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่ตั้งใจว่าจะสะสมเงินสักก้อนนึงเก็บไว้ให้ลูกเป็นมรดกเวลาที่เราเสียไปแล้ว คือว่าถ้าท่านอาจจะเป็นคนที่ไม่สามารถเก็บเงินได้ หรือมีรายได้ไม่มากนักที่จะมีมรดกมากมายไว้ให้ลูกหลาน ก็จะใช้วิธีนี้ อาจจะส่งเบี้ยปีละ 20000 หรือเดือนละสัก 2000บาทก็ได้ สัก 20 ปี แล้วพอเราเสียไปไม่ว่าจะตอนอายุเท่าไหร่ อาจจะ 60-70 ลูกเราก็จะได้มรดกจากที่เราทำทิ้งไว้ให้สัก ล้านนึง ซึ่งเป็นจะนวนที่อาจจะมากพอที่จะให้เค้าได้มีคุณภาพชีวิตได้พอสมควร นี่คือข้อดีที่ผมูนึกได้
  2. แบบสะสมทรัพย์ แบบนี้จะเน้นเรื่องผลตอบแทนมากกว่าเรื่องเสียชีวิตครับ แบบนี้ความต่างระหว่างเบี้ยประกันกับทุนประกันไม่มาก เช่น ส่ง 25000 บาท 7 ปี คุ้มครอง 15 ปี ทุนประกันสัก 200000 จะเห็นว่า เบียประกันทึ่ส่งไปก็เกือบเท่าทุนประกันที่เราจะได้ในกรณีเสียชีวิต แต่ถ้าไม่เสียชีวิตก็จะได้เงินคืนพร้อมผลตอบแทนอาจจะสัก 5-6% ต่อปี การทำประกันแบบนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่เก็บเงินได้ เพราะก็สามารถเก็บเงินเองก็ได้ครับ
  3. แบบใหม่ๆ อันนี้ผมก็ว่าดีนะครับ มี universal life ผมเพิ่งทำไปให้ทุกคนในบ้านเช่นกัน ที่สามารถ เลือกได้ว่าจะส่งเบี้ยเท่าไหร่ แล้วจะเอาทุนเท่าไหร่ เช่นในแบบที่ยกมาก่อนหน้านี้ ถ้าเราจะเอาทุนสูงเราต้องส่งเบี้ยสูงมากๆ เช่นจะเอาทุนสัก 1ล้าน ต้องส่งเบี้ยสักปีละ 7-80000 หรือมากกว่า แต่แบบ ul. ผมกำหนดเลยว่าของผมส่งเบี่ยปีละ 12000 แต่ผมเรียกทุน 1ล้าน โดยส่งไปได้เรื่อยๆ จะเพิ่ม หรือจะลดในปีถัดๆไปก็ได้ ส่วนอีกแบบ รู้สึกจะเรียกว่า unit link หรืออะไรประมาณเนี้ย แต่อันนี้ผมไม่ได้ทำเลยไม่รู้ครับ

การทำประกันในความคิดผมคือว่า ตอนนี้เราจ่ายเงินทำประกันสักปีละ 10000-20000 เราก็ไม่เดือดร้อน(อันนีเฉพาะกรณีประกันสุขภาพและอุบัติเหตุที่ไม่ได้เบี้ยคืน) ต่อให้เราเสียไปฟรีๆก็ไม่เป็นไร แต่คิดดูนะครับ ถ้าเราเจ็บป่วยขึ้นมาต้องรักษาตัวทีนึงอาทิตย์ละ 3แสน เดือนละ ล้านสอง ถ้าเราไม่มีประกันช่วย อันนี้เดือดร้อนครับ ต่อให้คุณมีเงินสดสัก 10 ล้านคุณก็ยังเดือดร้อนครับ(อันนี้ประสบการณ์จริงสดๆร้อน จากญาตผมเลยครับ นอน ร.พ 3 วันรูดแสนๆ) ส่วนน้องเมียผมอีกคน เข้าโรงบาลนอน icu อาทิตย์กว่าค่าใช้จ่าย 4 แสน ประกันจ่าย 2แสนกว่า (ส่งเบี้่ยรวมประกันสุขภาพ 25000 โดยเป็นเบี้ยแบบที่กินเปล่าปีละ ไม่กี่พัน)อันนี้ไม่ค่อยเดือดร้อนครับ คือผมจะยึดหลักความเดือดร้อนนี้เป็นที่ตั้งเลยครับ คิดง่ายๆ จ่ายตอนนี้ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าถึงเวลาไม่มีประกัน เดือดร้อนครับ
ปล. นิดนึงนะครับ น้องเมียผมที่ยกมาเมื่อกี้ ตอนที่เค้าป่วยเป็นไข้ สัก 2-3 วันแรกๆ ก็นอนป่วยอยู่บ้าน(เค้าอยู่บ้านในกทม.คนเดียว) แฟนผมตอนนั้นท้องแก่เลยไม่กล้าไปดู แต่ก็โทรไปถามตัวแทนซึ่งก็คือพี่สาวผม เรื่องถ้าไปหาหมอจะเบิกอะไรได้บ้าง จนเค้าอาสาพาไปหาหมอแทน ในคืนนั้นเองหมอก็ส่งเข้า icu ทันทีเลยครับ พร้อมกับคำพูดของหมอว่า ดีนะที่อายุยังไม่เยอะ ถ้าสัก 60-70 คงไม่พ้นคืนนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2010, 03:30:51 AM โดย bambie » บันทึกการเข้า
ต.แม่สาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 490
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6544



« ตอบ #22 เมื่อ: มกราคม 08, 2010, 08:43:17 AM »

ปลายปีที่ผ่านมามีโอกาสได้ใช้บริการบริษัทประกัน

เข้าโรงพยาบาล ด้วยโรคไข้เลือดออก 7 วัน = หกหมืนกว่าบาท

ออกโรงพยาบาล มาพักอยู่บ้าน แล้วไปทำงาน 3-4 วัน

เข้าโรงพยาบาล ด้วยโรคปอดบวม 3 วัน = สามหมื่นกว่าบาท

ออกโรงพยาบาล พักอยู่บ้านกินยาต่อ 5 วัน

ไปตรวจซ้ำได้ยาเพิ่ม กินต่ออีก 7 วัน = เจ็ดพันบาท (คนไข้นอก ประกันจ่าย 300 บาทครับ)


สรุปจ่าย ไป หนึ่งแสนกว่าบาทครับ เบิกที่ทำงานได้ ห้าหมื่นกว่าบาท เบิกประกันได้ประมาณ สองหมื่นกว่าบาทครับ เพราะตอนทำผมเสียดายเงินเลือกทำวงเงินน้อยสุด จ่ายค่าเบี้ยปีละ สามพันกว่าบาทครับ ค่าห้องได้ 500 บาท/วัน  ค่ารักษาได้ 8,000 บาท ฯลฯไม่มีค่าเสียเวลา  แฟนยังบ่นเลยครับ น่าจะจ่ายค่าเบียแพงกว่านี้

บทเรียน เรืองนี้สอนให้รู้ว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมาก เสียง่าย 
บันทึกการเข้า

ผู้ใดทำใจให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
indojeen@รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 364
ออฟไลน์

กระทู้: 2702



« ตอบ #23 เมื่อ: มกราคม 08, 2010, 08:54:01 AM »

ลองฟังของผมมั้ง

ไทยสมุทร  -  พ่อถูกตัวแทนโกงเงิน  บ.แม่ไม่รับผิดชอบ

aia  -   ผม  ตอนนี้เวนคืนสัญญาแล้วครับ   ตัวแทนสาขาทิ้งลูกค้า

ไทยประกัน -  ทำกันทั้งครอบครัว   ยังไม่พบปัญหา    แต่ตัวแทนสาขาหลังจากที่ผมมาจ่ายเงินผ่าน 
                    สาขาของบริษัทฯ   ตัวแทนเชิดเงินลูกค้าหลายล้าน  แบบเก็บเงิน(บริการ)  แล้วไม่นำส่ง

กรุงเทพ -  มีสองสัญญา  ตอนนี้กำลังจะเลิก   พอเคลมแล้วตุกติกมาก ๆ

กรุงไทยแอ็กซ่า พึ่งทำสองสัญญา  ยังไม่ทราบผล


สรุปแล้วปัญหาของการทำประกันชีวิตหลัก ๆ ก็คืิิอตัวแทน  สาขา   และสัญญา กิ๊วก๊าว
บันทึกการเข้า
เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย
Sr. Member
****

คะแนน 53
ออฟไลน์

กระทู้: 900


« ตอบ #24 เมื่อ: มกราคม 08, 2010, 12:21:45 PM »

ผมไม่แนะนำให้ทำนะครับ แนะนำให้เก็บเงินเอง
ผมศึกษามาหลายบริษัท และเคยทำมาหลายบริษัท
สรุปเลยว่าไม่ได้เรื่อง มีแต่โกหกหลอกลวงไปวันๆ
ถ้าจะคำนวนมาคุ้มกับเงินที่เราจ่ายไปไหม บอกได้เลยว่าไม่คุ้ม
ลองศึกษารายละเอียดดูให้ดี มันไม่ได้สวยหรู หวานเจี๊ยบอย่างที่คุณคิดหรอก
บันทึกการเข้า
ต.แม่สาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 490
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6544



« ตอบ #25 เมื่อ: มกราคม 08, 2010, 01:26:23 PM »

ลองฟังของผมมั้ง

ไทยสมุทร  -  พ่อถูกตัวแทนโกงเงิน  บ.แม่ไม่รับผิดชอบ

aia  -   ผม  ตอนนี้เวนคืนสัญญาแล้วครับ   ตัวแทนสาขาทิ้งลูกค้า

ไทยประกัน -  ทำกันทั้งครอบครัว   ยังไม่พบปัญหา    แต่ตัวแทนสาขาหลังจากที่ผมมาจ่ายเงินผ่าน 
                    สาขาของบริษัทฯ   ตัวแทนเชิดเงินลูกค้าหลายล้าน  แบบเก็บเงิน(บริการ)  แล้วไม่นำส่ง

กรุงเทพ -  มีสองสัญญา  ตอนนี้กำลังจะเลิก   พอเคลมแล้วตุกติกมาก ๆ

กรุงไทยแอ็กซ่า พึ่งทำสองสัญญา  ยังไม่ทราบผล


สรุปแล้วปัญหาของการทำประกันชีวิตหลัก ๆ ก็คืิิอตัวแทน  สาขา   และสัญญา กิ๊วก๊าว

ท่านอินโดจีนเหมือนถูกหวยเลยครับ โดนหลายบริษัท ลูกผมทำกรุงเทพประกันภัยยังไม่เจอปัญหาครับ เคลมปีละ สองหมื่นกว่าบาทครับ ค่าเบี้ย หกพันกว่าครับ ตอนนี้ 5 ขวบแล้ว เริ่มดีขึ้น ไม่ป่วยแล้วครับ
บันทึกการเข้า

ผู้ใดทำใจให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 18 คำสั่ง