ด้วยว่าความจนตั้งแต่เด็กๆกับความอยากรู้อยากเห็นมันบังคับนี่ครับพี่ซิกฯ

เมื่อก่อน ผมเป็นลูกครู(พ่อแม่เป็นครู)แต่หนี้สินเยอะมากกกกกตอนเด็กๆนี่ต้องปลูกผักสวนครัวขายหาเงินใช้เล็กๆน้อยๆไปโรงเรียนครับ ในกระเพรา โหระพา ใบแมงลัก กำใหญ่ๆกำนึง กำละสลึงเดี๋ยวนี้ในเมืองกำละห้าบาทเป็นอย่างต่ำ เช้าหกโมงเช้าต้องตื่นเดินสองกิโลไปรดน้ำผัก ก่อนไปโรงเรียน พ่อแม่ส่งเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด เพื่อนชื้อข้าวกิน ผมห่อข้าวกับไข่เจียว ไข่ต้มจนโดนเพื่อนล้อ ถึงหน้าน้ำหลากเมื่อไรโน่นแหละถึงจะได้กินปลากับเขา ลดภาระพ่อแม่ทุกอย่าง ของเล่นไม่เคยได้ยล หนังสือก้เป็นหนังสือตัวอย่างที่โรงพิมพ์เอามาเสนอให้แม่ผมดูผมได้ใช้เรียน เสื้อผ้า นานๆจะเจอของใหม่สักครั้ง จนจบพ่อแม่ผมก็เสีย ได้เงิน ประกัน เงินสหกรณ์มาใช้หนี้หมดไม่เหลือสักบาท

ตั้งแต่เล้กๆผมก้เลย ออกหานู่นหานี่มากินไปเรื่อย ลงทุ่งนาห้วยหนอง กินทุกอย่างที่ชาวไร่ชาวนาเขากิน ถือว่าเขากินได้เราก็กินได้(อร่อยอีกต่างหาก

)พ่อแม่ก็ห้ามไม่ให้ไปกลัวลูกจะโดนเพื่อนๆว่า อะไรก้ไม่เจ็บใจเท่าดดนพี่น้องดูถูกกันเองเพราะผมเที่ยวออกไปลงทุ่งลงท่านี่แหละครับ หลายคนมองว่าผมมันจะไม่ได้ดีสิบกว่าปีผ่านมา 555 ไอ้กวางได่เป็น หัวหน้าส่วนโยธา เดือนนี้ขึ้นซี6 พวกญาติที่ดูถูกผมไม่เห็นมันได้ดีสักคน
เล่ามาซะยาว มันเกี่ยวกันรึเปล่าหว่า
