ผมไปยื่นอุทธรณ์มาแล้วครับ หนังสือปฏิเสธของผมนายทะเบียนได้แจ้งสิทธิอุทธรณ์ด้วย วันจันทร์ที่แล้วผมได้ไปอำเภอกับผู้ใหญ่ที่ผมเคารพในอำเภอท่านหนึ่งเพื่อคุยกับนายอำเภอจะได้ชี้แจงและอธิบายให้ท่านได้ทราบ แต่ท่านไม่ฟังผม ผมพยายามบอกท่านว่า ผมไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา13 ท่านบอกว่าท่านจำไม่ได้ว่ามาตรา13กำหนดไว้อย่างไงบ้าง และท่านได้แจ้งสิทธิอุทธรณ์แล้วจะอุทธรณ์ก็ได้แต่ไม่แน่ใจนะคนมีประวัติเคยทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนอาจจะโดนยึดกระบอกที่มีอยู่แล้วคืนก็ได้ ถ้าเป็นผมอยู่เฉยๆดีกว่ามีอยู่กระบอกหนึ่งดีกว่าไม่มี ผมคิดอยู่แป๊บนึงแล้วก็บอกท่านว่าจะอุทธรณ์ ผมทำหนังสือมาแล้วท่านจะอ่านก่อนไหม ท่านไม่อ่าน" ก็ตามใจคุณนะผมก็บอกคุณแล้วถ้าจะอุทธรณ์ก็ยื่นกับเจ้าหน้าที่หน้าห้องผมได้เลย" ผมก็เลยลาท่านกลับ ผมกลับไปส่งผู้ใหญ่ท่านนั้นเสร็จก็กลับมาที่อำเภอเพื่อยื่นอุทธรณ์ ปลัดคนหนึ่งเป็นคนรับเรื่องไว้ พอถึงวันศุกร์ผู้ใหญ่บ้านมาเล่าให้ฟังว่านายอำเภอเรียกเขากับกำนันเข้าไปพบเพื่อจะสักประวัติของผมเป็นการลับ เท่าที่ผู้ใหญ่บ้านเล่าให้ผมฟังผู้ใหญ่บอกนายอำเภอว่า "ผมก็เห็นมันตั้งแต่เด็กก็ไม่ได้เป็นคนเกเรอะไร เหล้าก็ไม่กินบุหรี่ไม่สูบ แต่เรียนจบอะไรมาไม่รู้ แต่รู้ว่าจบ" ไม่รู้ว่าอย่างนี้นายอำเภอจะเปลี่ยนใจพิจารณาอนุญาตให้ผมหรือเปล่า ถ้าได้ก็ดีนะครับ แต่ตอนนี้ผมก็ได้แต่รอ
คิดในแง่ดีก็ดีไป แต่ถ้าอีกแง่หนึ่งล่ะมาฉีกหน้าอั๊วะถึงบนอำเภอจะร้องเรียนอั๊วะเหรอ เอ้าพลขับไปเคลียร์หน่อยเอาแค่อ๊วกก็พอ เจอพลังในด้านมืดเข้าไปใครจะไปกล้า ท่านอย่านึกว่าเป็นไปไม่ได้น่ะครับ อำเภอไกลปืนเที่ยงในประเทศนี้มีอีกเยอะ ประชาชนธรรมดาที่ไม่ได้รู้จักคนใหญ่คนโตในพื้นที่ เค้าจะไปกล้าสู้เหรอนายอำเภอเชียวน่ะนั้น
ผมทำงานกลางคืนแค่คนขับรถติดตามปลัดมากับปลัด ดื่มกินกันเต็มที่เคลียร์บิลไม่ได้ก็ปลัดมาตรวจท้องที่นี่ครับต้องรับรองหน่อย คราวหลังคนขับรถมาเองพาพวกพาสาวๆมาดื่มกินเสร็จสรรพบอกลงบิลปลัดเอาเข้าไป ประเทศไทย.............